รีวิวแอนิเมชัน Flow | แมวดำผจญภัยในวันน้ำท่วมโลก ภาพสวยสะกดใจ

หลังได้ข่าวว่า โรงหนังเฮ้าส์จะนำหนังแอนิเมชันเรื่องนี้มาฉาย ผมก็ตั้งรอมาตั้งมาแต่นั้น หนังที่ไม่มีบทพูด ไม่ต้องอ่านซับไตเติล นั่งดูการผจญภัยของเหล่าสัตว์ไปอย่างเพลินๆ โดยมีตัวละครหลักเป็นน้องแมวสีดำตัวหนึ่ง หนังไม่มีชื่อไทย และมันก็มีชื่อภาษาอังกฤษสั้นๆ ว่า ‘Flow’ เข้าฉายในไทยแค่โรงเดียว จึงไม่รอช้าที่จะกดจองตั๋วแล้วเข้าไปดู

คิดเห็นเช่นไรกับหนังแอนิเมชันเรื่องนี้?

การรอคอยเดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว หลังได้ชมด้วยตาเนื้อของตนเองในโรงเดียวในไทยที่ฉาย หนังแอนิเมชันที่เล่าเรื่องการผจญภัยของเหล่าสัตว์ท่ามกลางสถานการณ์โลกล่มสลาย หนังออกแนวสไตล์หนังสารคดี ไม่มีบทพูดหรือบทบรรยาย ตัวละครล้วนเป็นสัตว์ที่ต้องมาเอาตัวรอดร่วมกันในเรือลำเล็ก หนังทั้งใส่เรื่องการปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกัน บวกกับนำเสนอภาพของโลกในอนาคตที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงเพื่อให้คนดูตระหนักถึงมันอย่างแยบยล

สิ่งที่โดดเด่นนอกเหนือจากบท คือ งานภาพที่สวยแจ่ม และดนตรีประกอบที่โดดเด่น

เรื่องย่อหนังแอนิเมชัน ‘Flow’

อย่างที่บอกว่าหนังมันไม่มีบทพูด ในนั้นเล่าเรื่องราวของแมวน้อยสีดำตัวหนึ่งในโลกที่ปรากฏร่องรอยของมนุษย์ มันกำลังพบกับเหตุการณ์ครั้งสำคัญ เมื่อระดับน้ำขึ้นสูงจนท่วมมิดทุกสิ่ง แมวน้อยที่ชอบอยู่ลำพังจำเป็นต้องออกเดินทางไปกับเรือลำน้อย แต่เป็นการเดินทางที่ทำให้มันได้เจอกับเพื่อนร่วมทางใหม่ อันได้แก่ ลีเมอร์ ลาบราดอร์ คาปิบารา และนก แม้อุปนิสัยแต่ละตัวจะแตกต่าง แต่พวกมันก็เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันเพื่อเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากที่กำลังจะเกิดขึ้น

รีวิวหนัง ‘โฟลว์’

ดูจากตัวอย่างก็คงเห็นแล้วว่า มันเป็นหนังแอนิเมชันไร้บทพูดจริงๆ แต่งานภาพก็สวยว้าวจนเกิดความอยากดูในโรงภาพยนตร์จริงๆ อีกอย่างก็คือ ความดีงามของมันก็พีอาร์เขาสามารถคุยได้เลยว่า สามารถคว้า 3 รางวัลจากเทศกาลแอนิเมชันนานาชาติเมืองอานท์ซีปี 2024 และที่สำคัญ มันเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นตัวแทนจากประเทศลัตเวีย ที่ส่งเข้าชิงสาขา “ภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยม” ด้วยนะครับ

ในเมื่อหนังเรื่องนี้เข้าฉายในเฮ้าส์ สามย่าน ก็เลยจัดไปเลยตั้งแต่วันแรก 15 พฤศจิกายน 2024 เพิ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นวันลอยกระทง เลยคาดว่ารถจะติดมากเป็นพิเศษ​ แต่เอาเข้าจริง เพราะจุฬาฯ ไม่มีการจัดงานลอยกระทง มีแค่งานที่สยามสแควร์เท่านั้น ทำให้พบว่า รถก็ไม่ติดมากกว่าเดิมแต่อย่างใดครับ

หนังแอนิเมชันเรื่องนี้ เป็นผลงานการกำกับและร่วมเขียนบทของ กินซ์ ซิลบาโลดิส ฟิล์มเมกเกอร์และแอนิเมเตอร์ชาวลัตเวีย มันเล่าเรื่องแนวธรรมชาติ พูดถึงโลกที่เผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมโลกที่ทำให้สิงสาราสัตว์ต้องหาทางเอาตัวรอดกันไปตามสภาพ โดยในหนังนั้น เราจะเห็นร่องรอยบางส่วนว่ามันเคยมีมนุษย์อยู่ในนั้น แต่เราจะไม่เห็นมนุษย์เลยสักคน หนังไม่ได้ให้ข้อมูลใดๆ ว่าเหตุใดมนุษย์ที่เคยอยู่จึงหายไป หากแต่สนใจเพียงการผจญภัยของเหล่าสัตว์ ซึ่งก็จะมีทั้งสัตว์เลี้ยงอย่างหมาแมว และบรรดาสัตว์ป่าในธรรมชาติ บนเรือใบลำน้อยที่ลอยผ่านมา

แมวน้อยสีดำ ดวงตากลมโตสีอำพัน คือตัวละครหลักของเรื่องราว มันค่อยๆ สะสมเพื่อนร่วมทางที่ต่างก็มีบุคลิกเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น แมวดำเองที่มีทั้งความขี้กลัว ขี้ระแวงตามประสาแมว หรือคาปิบาราผู้อารี ที่วันๆ เอาแต่คิดเรื่องหาของกินกับนอนพักผ่อน ลีเมอร์หางลายที่มีนิสัยชอบเก็บสะสมและหวงของ จากนั้น ก็เป็นเจ้านกสีขาวที่มีค่อนข้างนิ่งและเป็นตัวของตัวเอง แล้วก็มีเจ้าลาบราดอร์ตัวสีขาวที่ขี้สงสัยตามประสาหมาฉลาด ทำให้ได้ก๊วนผจญภัยที่สร้างสีสันน่ารักให้คนดูได้ยิ้มได้เรื่อยๆ

สิ่งแรกที่ชัดเจนจนต้องตาวาว คือ งานภาพที่สวยสดมาก ละเอียดลออกับงานต้นไม้ ท้องฟ้า และสายน้ำ ยิ่งปลานี่ใส่สีสันจัดเต็มจริงๆ (แม้ปลายามขึ้นมาบนบกจะยังดูไม่สมจริงเท่าไหร่ก็ตาม) มุมมองกล้องเน้นมุมมองโดรนที่หมุนรอบตัวละคร แต่เมื่อน้องแมววิ่งกลางป่าก็เปลี่ยนเป็นมุมมองแมวแทน ใครเห็นก็ต้องร้องว้าวในใจกันล่ะ

นอกจากงานภาพจะสวยแล้ว งานดนตรีก็ดีงามไม่แพ้กัน ให้ความรู้สึกเหมือนดูหนังสารคดีธรรมชาติและสัตว์ป่าสักเรื่องหนึ่ง มีแผ่วเบา มีโหดกระหน่ำ ประสานไปกับเรื่องราวที่สลับโหมดกันไปให้คนดูได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ ที่มีเข้ามาไม่หยุดหย่อน

บางช่วงเวลาก็เปลี่ยนวิธีการเล่า บ้างก็เป็นแฟนตาซี หยิบเอานิสัยของสัตว์แต่ละชนิดมาเล่าได้น่ารักมาก แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันคือการเดินทางของแก๊งสัตว์ที่ต้องเรียนรู้เรื่องการอยู่ร่วมกัน โดยรวมแล้ว มันเป็นหนังที่เล่าเรื่องอย่างเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ทั้งเรื่องได้ยินแต่เพียงเสียงร้องของสัตว์แต่ละตัว กับท่าทางที่ทำให้เราเข้าใจได้ว่าพวกมันกำลังคิดเห็นอะไรอยู่ บวกกับมันสอนให้เราตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติที่แม้มนุษย์เองก็ไม่อาจต้านทาน ได้แต่ปรับตัวและอยู่ให้รอด..ก็เท่านั้น

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง