รีวิวหนัง Joker | โจ๊กเกอร์ ตัวตลกวิปลาสแห่ง Gotham

หลังจากโลกนี้ได้พบกับไตรภาคสุดลือลั่นของแบทแมนของ Christopher Nolan ซูเปอร์ฮีโร่แห่งเมืองก็อตแธม โลกก็เริ่มจดจำวายร้ายที่ชื่อ โจ๊กเกอร์ มากขึ้นเรื่อยๆ มันกลายเป็นตัวลครที่อยู่ในหนังรวมวายร้ายอย่าง ‘Gangster Squad’ แต่บัดนี้คงถึงเวลาที่เขาจะมีหนังเดี่ยวๆ ของตัวเองเสียที เราจึงได้มาพบกับ ‘Joker’ หนังที่จะเล่าเรื่องของตัวละครวายร้ายแบบจะๆ

หลังจากเราเคยได้พบเจอกับความวิปลาสในแบบของ Heath Ledger กันแบบไตรภาคมาแล้ว มาคราวนี้ เราจะได้พบกับการสวมบทบาทและตีความในตัวโจ๊กเกอร์ด้วยฝีมือของ Joaquin Phoenix กันดูบ้าง

กับผลงานการกำกับของ ท็อดด์ ฟิลิปส์

เรื่องย่อหนัง ‘Joker’

ได้เวลาย้อนกลับสู่ช่วงเวลาที่ก็อตแธม นครที่ดูเหมือนเจริญทว่ามีแต่ขยะเน่าเหม็น มีแต่คนที่ไร้คุณภาพ ในวันที่เมืองนี้ยังไม่มีซูเปอร์ฮีโร่อย่างแบทแมน แต่ก็มีชายคนหนึ่ง นามว่า อาเธอร์ เฟล็ค (Joaquin Phoenix จากหนัง ‘Her’, ‘Gladiator’, ‘Walk the Line’ และอีกมากมาย) ผู้ใฝ่ฝันอยากจะทำอาชีพที่ให้ความสุขกับผู้คนอย่างที่แม่ของเขาสั่งสอนเรื่อยมา

แต่ทุกอย่างเหมือนไม่เคยเป็นใจให้เขาเลยสักนิด

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด อาชีพตลกเดี่ยวที่ยังไม่รุ่งดี รับจ๊อบก็โดนแกล้งสาระพัด หมองหม่นซึมเศร้าจนมีอาการทางจิต มีชีวิตเลี้ยงดูแม่ที่ชราผู้โหยหาความช่วยเหลือจากมหาเศรษฐีที่พึ่งและความหวังของเมือง

ดำดิ่งสู่ความเศร้า เมื่อเขาหัวเราะอย่างไร้เหตุผล ในสถานการณ์ที่ไม่ได้มีอะไรที่น่าหัวเราะ ตัวตลกที่สังคมไม่รักไม่เหลียวแล จนเขาต้องกลายเป็นอีกคน

รีวิวหนัง ‘โจ๊กเกอร์’

ต้องยอมรับว่าได้เตรียมตัวเตรียมใจมาพอสมควรกับหนังเรื่องนี้ ด้วยเพราะมันไม่ใช่หนังสไตล์ซูเปอร์ฮีโร่ แม้มันจะเป็นตัวละครจากคอมิกซูเปอร์ฮีโร่ก็ตาม ด้วยนี่เป็นหนังที่เล่าอย่างมืดมนและดราม่าหนักหน่วงเอามากๆ

เหตุการณ์ที่เป็นดั่งจุดกำเนิดของวายร้ายตัวฉกาจในโลกของแบทแมน โจ๊กเกอร์ที่มีต้นตอมาจากชีวิตอันอับเฉาในเมืองอันยุ่งเหยิง เต็มไปด้วยสกปรกเน่าเฟะทั้งของสภาพบ้านเมือง และโดยเฉพาะผู้คน

ยิ่งกับคนที่มีแนวโน้มที่จะไม่ปกติอยู่แล้วยิ่งไปกันใหญ่

มันคือความขัดแย้งที่เห็นกันได้ชัดมากๆ ในคาแรกเตอร์และสภาพแวดล้อมในหนังเรื่องนี้ อาเธอร์คือคนที่ต้องอยู่กับเมืองที่บ้าคลั่ง ผู้คนที่ใจร้าย เห็นแก่ตัว หลอกลวงไม่จริงใจ แต่เขากลับถูกสอนให้สร้างความสุขและยิ้มให้กับผู้คน ทว่าสิ่งที่ได้รับคือความสิ้นหวัง เสียงหัวเราะที่เขาหวังจะสร้างมันกลับเงียบกริบ สิ่งที่สะท้อนกลับมันคือเสียงหัวเราะเยาะที่ยิ่งทำให้เขาดำดิ่ง

มันคือตัวอย่างของคนที่โดนสังคมซัดกระหน่ำ และภายในใจก็มองทุกอย่างเป็นลบ ทั้งนอกและในนั้นเลวร้ายไปพร้อมๆ กัน

ทั้งสองสิ่งรวมเข้ากับต้นกำเนิดของเขา บวกกับบางสิ่งที่เขากำลังเผชิญ สิ่งที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน ยิ่งส่งให้เขากลายเป็นวายร้ายโจ๊กเกอร์ไปในที่สุด

เขากลายเป็นวายร้ายทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะเป็น

คงไม่แปลกที่ใครไปดูหนังเรื่องนี้แล้วจะรู้สึกดำดิ่งสู่ก้นบึ้งแห่งความหม่นมัวหดหู่ มันอาจไม่ได้ถึงกับบีบคั้นจนน้ำตารินไหล แต่มันคงเป็นอาการอึดอัดผสมกับความเข้าใจเห็นอกเห็นใจในสิ่งที่แฮปปี้ต้องเผชิญ และมองเห็นว่าเหตุใดเขาจึงได้กลายเป็นโจ๊กเกอร์

เรื่องราวสองในสามส่วนของหนังนั้นหนักหน่วงจริงๆ ทั้งไม่ได้ชวนตื่นเต้นแต่อย่างใด ส่วนสุดท้าย คือส่วนที่มีทั้งความอัดแน่นที่อดรนทนมาตลอดที่มันได้ระเบิดออกมา ฉากที่รุนแรงกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างในหนังเปลี่ยนไป รวมทั้งอารมณ์ความรู้สึกของคนดูก็ด้วย

แม้จะยอมรับว่า Robert De Niro เล่นเอาไว้น่าดูชมแล้ว แต่ใจต้องยอมรับว่าหนังเรื่องนี้ส่งเสริมและสร้างขึ้นมาเพื่อ Joaquin Phoenix คนนี้คนเดียว เรียกได้ว่าเขาแบกหนังทั้งเรื่องเอาไว้ บทบาทของการเป็นชายโรคจิตผู้ทนทุกข์อยู่กับโลกที่ไม่เคยรักเขา (อย่างน้อยก็ในความคิดของเขา) ชายผู้ที่พยายามเหลือเกินที่จะเป็นตัวตลกที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคน แต่ข้างในใจนั้นร่ำไห้อยู่ตลอดเวลา ความวิปลาสที่สังคมไม่เคยเหลียวแลแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธที่ตอกกลับทำร้ายผู้คนจนการณ์กลับกลายเป็นเขาคือศาสดาแห่งการปลุกระดม

Joaquin Phoenix ทำหน้าที่ตรงนี้ไว้ดีมากๆ จนน่าจะใกล้เคียงกับการคว้ารางวัลมาครองที่สุด

ทว่า แว่บหนึ่งในความคิด หนังเรื่องนี้จริงจังจนไม่อาจให้คนไร้วุฒิภาวะได้ดู เพราะมันคือการวิพากษ์สังคม การตอกกลับในทางความรุนแรง ไม่ใช่การบอกเล่าตัวละครวายร้ายของซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป แต่มันคือหนังดราม่าที่หม่นมืดอย่างแท้จริง คนที่จะมาดูหนังเรื่องนี้คงต้องยอมรับตรงนี้ให้ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องคาดหวังผิดๆ เอากับหนังแล้วเดินจากโรงไปด้วยความผิดหวังเหมือนกับหนังหลายๆ เรื่องก่อนหน้า วิจารณญาณคือสิ่งหนึ่งที่สำคัญระหว่างและหลังการรับชม

แม้คุณจะถูกสังคมหรือใครต่อใครทำร้าย แต่โปรดอย่ามองโจ๊กเกอร์อย่างฮีโร่เลยนะบ่องตง

ชื่อภาพยนตร์: Joker / โจ๊กเกอร์
ผู้กำกับภาพยนตร์:  Todd Phillips
ผู้เขียนบทภาพยนตร์:  Todd Phillips, Scott Silver
นักแสดงนำ:  Joaquin Phoenix, Robert De Niro, Zazie Beetz
ความยาว: 121 นาที
ปี: 2019
แนว/ประเภท: Drama, Crime, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 3 ตุลาคม 2562
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: BRON Studios, Creative Wealth Media Finance, DC Comics, Warner Bros.