รีวิวหนัง Minari มินาริ | ครอบครัว เพ(ร)าะปลูกจึงเติบโต

หลังจากหนังเกาหลีใต้อย่าง ‘Parasite’ ไปคว้ารางวัลออสการ์ถึงแดนอเมริกา ความเป็นเกาหลีก็เหมือนประกาศศักดาบนแผ่นดินนั้นเรียบร้อยแล้ว สปอตไลท์ฉายส่องมายังคนในวงการหนังที่มีเชื้อสายเกาหลีอย่างขนานใหญ่ และปีนี้ ชิ้นงานหนังอเมริกันที่ผู้กำกับเป็นอเมริกันเชื้อสายเกาหลี นักแสดงนำหลายคนก็เป็นคนเกาหลี บ้างก็ย้ายมาตั้งรกรากในแถบทวีปอเมริกาแล้ว หนังเรื่องนั้นคือ ‘Minari’ ชื่อไทย ‘มินาริ’ นั่นเองครับ

เรื่องราวที่หยิบเอาชีวิตช่วงหนึ่งของผู้กำกับ อย่าง Lee Isaac Chung/อี ไอแซค จอง ลูกชายของพ่อที่เป็นคนเกาหลีผู้อพยพมาตั้งรกรากในรัฐอาร์คันซอ สถานที่ในเรื่อง ก่อนที่เขาจะก้าวไปเรียนในมหาวิทยาลัยเยล ในสาขานิเวศวิทยา (Ecology) แต่ยังเรียนไม่ทันก็เบนเขมมาเรียนศาสตร์การหนังแทน แล้วเขาก็เดินมาถึงวันนี้ วันที่หนังของเขาเข้าชิง 6 รางวัลออสการ์ และตัวเขาเองมีชื่อเข้าชิงทั้งผู้กำกับยอดเยี่ยมและบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ส่วนชื่อของหนังนั้น มีที่มาจากชื่อของพืชสมุนไพรพื้นบ้านของเกาหลี ซึ่งมันก็ปรากฏร่วมเป็นหนึ่งในตัวละครในหนังเรื่องนี้ด้วย

เรื่องย่อหนัง ‘Minari’

มันเป็นเรื่องของครอบครัวเกาหลีครอบครัวหนึ่งที่ย้ายมาตั้งรกรากอยู่ที่รัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา ครอบครัวนี้มีครบทั้งพ่อ เจค็อบ (Steven Yeun/สตีเว่น ยอน จากซีรีส์เรื่อง ‘The Walking Dead’ หนังเรื่อง ‘Burning’ และ ‘Okja’) แม่ โมนิกา (Han Yeri/ฮันเยริ จากซีรีส์เรื่อง ‘Hello, My Twenties!’ หนังเรื่อง ‘Love Guide for Dumpees’ และ ‘As One’) ลูกสาวคนโต แอนน์ (Noel Cho) และเดวิด (Alan S. Kim/อลัน คิม) ลูกชายคนเล็กที่เป็นโรคหัวใจอ่อนแอ

ทั้งสี่ย้ายมาจากแคลิฟอร์เนีย เมื่อพบเจอกับทุ่งหญ้ากับบ้านที่มีล้อ โมนิการู้สึกไม่พึงพอใจเพราะคิดว่าชีวิตของเธอและลูกควรจะได้อะไรที่ดีกว่านี้ แต่เจค็อบก็ยังยืนยันจะทำฟาร์มที่นี่และหวังที่จะก้าวออกมาจากการเป็นลูกจ้างแยกเพศลูกเจี๊ยบเสียที

เพราะความห่างไกลและความคิดถึง ทำให้โมนิกาพาคุณยายซุนจา (Youn Yuh Jung/ยุนยอจอง จากหนังเรื่อง ‘The Housemaid’, ‘Keys To The Heart’) ย้ายมาอาศัยอยู่ด้วย ทำให้กลายเป็นครอบครัวที่มีสมาชิกทุกช่วงวัยอาศัยอยู่ร่วมกัน ทะเลาะและยิ้มให้กัน ผ่านพบกับอุปสรรคและบาดแผลเพื่อเติบโตไปพร้อมกัน

รีวิวหนัง ‘มินาริ’

การเริ่มต้นใหม่มักยากเสมอ เต็มไปด้วยแรงกดดัน เต็มไปด้วยความไม่รู้ว่าจะมีสิ่งใดรออยู่เบื้องหน้า ยิ่งเป็นการเริ่มต้นเพื่อตั้งรกรากในดินแดนแห่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคย มันต้องอาศัยพลังใจอย่างสูง การที่หนึ่งครอบครัวเกาหลีจะย้ายไปตั้งรกรากด้วยกันในอเมริกา แถมยังเป็นการเริ่มต้นของอาชีพใหม่ ในที่ดินแห่งใหม่ ที่พวกเขาไม่คุ้นเคย ไม่เคยเจอความยากลำบากขนาดนี้ คงต้องบอกว่ายากเย็นแสนเข็ญเป็นอย่างยิ่ง

สมาชิกของครอบครัวใหม่ในอาร์คันซอ

เจค็อบ เป็นพ่อที่มีหัวใจเด็ดเดี่ยว เขาอยากจะเป็นความภูมิใจของลูกๆ อยากจะพาครอบครัวก้าวออกมาจากความยากจน เขารู้ว่ามันต้องเริ่มต้นด้วยความลำบาก แต่การจะดึงมือของทุกคนในครอบครัวให้ลุกขึ้นมาสู้พร้อมกันนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

โมนิกา เป็นแม่คิดถึงแต่การมีอนาคตที่ดีให้ลูกๆ คิดถึงความมั่นคงทางรายได้ที่จะทำให้ครอบครัวเดินไปอย่างตลอดรอดฝั่ง เธอจึงไม่เคยเห็นด้วยกับเจค็อบที่เขาเลือกย้ายมาทำสวน-ทำฟาร์มอยู่ที่นี่ ส่งผลให้ต้องทะเลาะมีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้ง ลูกๆ ทั้งสองคนก็เห็นอยู่

ทั้งสองคนเคยสัญญากันไว้ว่าจะแต่งงานและอยู่เพื่อกันและกัน สิ่งนี้อาจเป็นสิ่งสำคัญที่ยึดโยงให้ทั้งสองยังเลือกจะเดินไปด้วยกันอยู่ แม้โมนิกาจะมองไม่เห็นเลยว่า มันจะดีขึ้นกว่าเดิมได้อย่างไร ภาพที่เธอมองเห็นช่างแตกต่างเหลือเกินกับเจค็อบ

ส่วนลูกๆ นั้น คนโตเป็นเด็กผู้หญิงที่กำลังเริ่มเรียนรู้ที่จะดูแลน้องชาย ขณะที่คนเล็กอย่าง เดวิด แรกๆ ก็ดูจะไม่ค่อยชอบคุณยายสักเท่าไหร่ แต่ไปๆ มาๆ ก็เหมือนจะผูกพัน ต่างคนต่างกลายเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันไปเสียฉิบ

ทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตและตั้งคำถามถึงรากเหง้าตัวเอง

หนังเรื่องนี้ ถ่ายทอดความเป็นครอบครัวเอเชียออกมาให้โลกได้เห็น คนเกาหลีที่ยังพกพาเอาความเป็นคนเอเชียไปอยู่บนดินแดนตะวันตก พวกเขายังไม่เคยลืมรากเหง้าและยังภาคภูมิใจในความเป็นเกาหลีของตนเอง เจค็อบเลือกจะทำฟาร์มปลูกผัก หากเขาก็ยังเลือกผักที่ชาวเกาหลีกิน มุ่งหมายจะขายผักเพื่อชาวเกาหลีที่อพยพมาอยู่ในอเมริกา

แต่การทำการเกษตรบนผืนดินที่ไม่คุ้นเคย อาจจำเป็นต้องแลกมาด้วยอะไรหลายๆ อย่าง

ชายชาวเกาหลีผู้นี้มีความคิดที่เป็นตัวของตัวเอง เขาไม่เชื่อในเรื่องงมงาย เขาเชื่อในความรู้ ระหว่างทาง เขาต้องเจออุปสรรคมากมายที่เป็นทั้งบททดสอบจิตใจว่าจะยังไปต่อกันได้อยู่ไหม ทั้งบนผืนดินที่มีประวัติ ปัญหาการจัดการน้ำเพื่อใช้ในฟาร์ม ไหนจะเรื่องราวในบ้าน เขาทะเลาะกับภรรยาอยู่บ่อยๆ ต่างฝ่ายต่างเห็นไม่ตรงกันแม้มุ่งหวังจะนำพาครอบครัวก้าวไปเหมือนๆ กัน ลูกชายที่มีโรคประจำตัว ผู้ไม่ค่อยชอบคุณยายของตัวเอง แต่ก็ดูเหมือนเริ่มจะผูกพันกันมากขึ้นทุกที

เรื่องราวการเริ่มต้นใหม่ที่แต่ละคนร่วมกันถักทอ มันอาจจะไม่มีอะไรมากมาย ดูเรียบง่าย แต่ก็คือ ‘ครอบครัว’

‘มินาริ’ เรื่องนี้มีดีตรงไหนงั้นรึ?

การเดินทางในที่แห่งใหม่ ไม่พ้นต้องพบเจอทั้งอุปสรรคและบาดแผล แต่ระหว่างทางคือประสบการณ์ที่สร้างความผูกพันให้กับผู้ร่วมทาง เรื่องราวที่ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่า ความจริงที่ครอบครัวต้องช่วยกันฝ่าฟัน

1. แต่ละคนแสดงดีกันทั้งกระบิ เอาจริงๆ ก็คงไม่สามารถจะเลือกใครได้เลยว่า แสดงได้ดีที่สุด หรือใครที่เล่นได้มาตรฐานต่ำกว่าคนอื่นๆ ถือเป็นความสำเร็จขั้นเยี่ยมยอดที่ได้นักแสดงกลุ่มนี้มาเล่นร่วมกัน พวกเขาทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันจริงๆ
2. ชอบในความน่ารักของคู่ยาย-หลาน ความสัมพันธ์ของคู่หลานชายเดวิด กับคุณยายซุนจอน ดูเป็นไม้เบื่อไม้เมากันเล็กๆ แต่ก็ทำให้หนังมีพาร์ทคอมิดี้ พาผู้ชมได้คิกคักไปกับความน่ารักของคุณยายและหลาน แต่อีกส่วนก็สร้างพาร์ทดราม่าที่ทรงพลังให้บังเกิดขึ้นได้ด้วย ถ้าไม่มีความไม่ลงรอยกันมาก่อน ความดราม่าก็คงไม่รุนแรงนัก
3. แต่งสีโทนอบอุ่น เห็นทุ่งหญ้าเขียวตลอดเรื่อง ด้วยโทนสี ด้วยภาพของทุ่งหญ้าที่เขียวขจี ก่อเกิดความอบอุ่นมีแรงผลักดันให้ผุดขึ้นภายในจิตใจคนดู เหมือนว่า โลกนี้ยังมีหวัง ต้องสู้อย่าทดท้อ ผสมผสานกับดนตรีประกอบที่เป็นเหมือนลมเบาๆ ที่ผลักให้เราโบยบิน
4. เรียบง่าย นี่แหละครอบครัว หนังเดินเรื่องไป พร้อมกับความขึ้นลงของสถานการณ์ ครอบครัวที่มีทั้งเรื่องดีและเรื่องร้ายเข้ามา คนในครอบครัวก็เช่นกัน เดี๋ยวทะเลาะกัน เดี๋ยวก็ดีต่อกัน หลายคนจึงอินและน้ำตาไหลให้กับมัน

‘มินาริ’ คือ พืชสมุนไพร

เรื่องราวในนั้น บอกว่าคุณยายคือคนที่หาที่เหมาะๆ เพาะปลูกพืชชนิดหนึ่งที่กลายเป็นชื่อของหนัง มินาริ คือชื่อของพืชสมุนไพรพื้นบ้านของเกาหลี รูปร่างคล้ายผักชี มีกลิ่นแรง ฟังดูจากที่คุณยายบอกหลาน เหมือนมันจะเป็นพืชที่สาระพัดประโยชน์ เก่งกาจในหลายมุมมอง พวกมันมักจะงอกงามหลังผลัดใบครั้งแรก

เช่นเดียวกับเส้นทางชีวิตของครอบครัวนี้

ชื่อภาพยนตร์: Minari / มินาริ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Lee Isaac Chung/อี ไอแซค จอง
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Lee Isaac Chung/อี ไอแซค จอง
นักแสดง: Steven Yeun/สตีเว่น ยอน, Han Yeri/ฮันเยริ, Alan S. Kim/อลัน คิม, ยูนยอจอง 
ดนตรีประกอบ: Emile Mosseri
แนว/ประเภท: Drama
ความยาว: 115 นาที
ปี: 2021
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
วันเข้าฉายในประเทศไทย: รอบพิเศษ 25-28 มีนาคม 2021 ฉายจริง 1 เมษายน 2021
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Plan B Entertainment, A24, Mongkol Major