รีวิวซีรีส์ The Red Sleeve | พระเจ้าจองโจกับนางในแขนเสื้อแดง

เหมือนชีวิตช่วงนี้จะได้ดูซีรีส์เกาหลีแนวพีเรียดบ่อยครั้งขึ้นนะ แม้จะยังมีปัญหากับการรับมืออยู่บ้าง ด้วยเพราะมันเป็นซีรีส์ที่ตัวละครค่อนข้างเยอะ ความสัมพันธ์จึงยุ่บยั่บ ไม่พอ ตัวละครขุนน้ำขุนนางที่มีอายุแต่ละคนก็ไว้หนวดไว้เคราจนแยกใบหน้าได้ยาก แต่ถึงกระนั้นก็นับว่าเป็นซีรีส์ประเภทที่ดูสนุกได้เกือบทุกเรื่อง แล้ววันนี้ก็พาตัวเองมาพบกับอีกหนึ่งในนั้น ‘The Red Sleeve’ ที่ว่าด้วยหญิงสาวนางในผู้ใส่อาภรณ์แขนเสื้อสีแดง

เรื่องราวความรักที่เกิดกับองค์รัชทายาทที่วันหนึ่งจะได้ขึ้นเป็นกษัตริย์ กับหญิงสาวผู้เข้าวังมาเป็นนางกำนัล นางใน และวันหนึ่งจะได้ขึ้นเป็นนางสนมเอก จากนวนิยายของคังมีคัง ดัดแปลงเป็นบทซีรีส์โดยจองแฮรี เจ้าของผลงาน ‘The Emperor: Owner of the Mask’ และ ‘Gye-Baek’

ล่าสุด ซีรีส์เรื่องนี้จะมีทั้งหมด 17 ตอน พิเศษไม่เหมือนใครเพราะเขาต้องการให้เรื่องราวถูกบอกเล่าอย่างสมบูรณ์ที่สุด

เรื่องย่อซีรีส์ ‘The Red Sleeve’

มันคือเรื่องราวความสัมพันธ์ที่น่าสนใจระหว่างกษัตริย์จองโจ (Lee Jun Ho/อีจุนโฮ จากซีรีส์เรื่อง ‘Confession’, ‘Wok of Love’ และ ‘Rain or Shine’) กับนางสนมเอก (Lee Se Young/อีเซยอง จากซีรีส์เรื่อง ‘Doctor John’, ‘The Crowned Clown’ และ ‘A Korean Odyssey’) แต่ก่อนจะถึงเวลานั้น ทั้งสองเป็นรัชทายาทกับนางกำนัลที่ไม่ถูกกันแต่แรกเริ่ม

ซองด็อกอิม คือชื่อของหญิงสาวที่มีเบื้องหลังชีวิตที่น่ารันทด กำพร้าพ่อ พัดพรากจากแม่และพี่ชาย ได้เป็นบุตรบุญธรรมของสามีภรรยาที่พระชายาฝากฝังให้ สุดท้ายได้มาอยู่ในรั้วในวัง อยู่ในสังกัดตำหนักทงกุงจึงขึ้นตรงกับองค์รัชทายาทอีซาน เธอเป็นหญิงนิสัยกล้าและมีจิตใจที่มุ่งมั่นจะปกป้ององค์รัชทายาท แต่ดันเกิดความเข้าใจผิดจนเกิดความเง้างอนต่อกัน

แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้องค์รัชทายาทมีใจให้นางใน

องค์รัชทายาทมีพระอาจารย์อย่าง ฮงด็อกโร (Kang Hoon/คังฮุน จากซีรีส์เรื่อง ‘You Are My Spring’ และ ‘Rookie Historian Goo Hae-Ryung’) ผู้ปรารถนาจะเป็นมือขวาขององค์ชายและค่อนข้างไม่ชอบใจที่เห็นด็อกอิมกลายเป็นคนโปรดของพระองค์ นอกจากนี้ องค์รัชทายาทเองก็มีเบื้องหลังของตนเอง เขาคือหลานของท่านปู่ที่เป็นกษัตริย์องค์ปัจจุบัน สูญเสียท่านพ่อไปพร้อมกับเงื่อนงำบางอย่าง และเหลือเพียงท่านแม่ที่ห่วงใยถึงขนาดวานให้ด็อกอิมคอยสอดแนมและรายงานทุกสิ่งที่เกิดกับพระองค์

เมื่อวันที่องค์รัชทายาทครองบัลลังก์กลายเป็นพระเจ้าจองโจ พระองค์ปรารถนาจะให้ด็อกอิมก้าวขึ้นมาเป็นนางสนมเอก แต่เธอต้องการจะเป็นอิสระด้วยเพราะรู้ว่าชีวิตนางสนมนั้นไร้ซึ่งความสุข

แม้สุดท้าย เธอจะไม่อาจหนีพ้นตำแหน่งนี้…

รีวิวซีรีส์ ‘The Red Sleeve’

ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นขึ้นจากความพ่อแง่แม่งอน แต่ก็ทำให้ใกล้ชิดและผูกพันจนเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ทว่าสองคนคิดเห็นแตกต่าง คนหนึ่งอยากให้อีกคนเข้ามาใกล้ อีกคนกลับต้องการอิสระ ความขัดแย้งที่นำมาซึ่งเรื่องราวอันน่าสนใจ สอดประสานไปกับเรื่องราวทั้งร้ายและดีที่เกิดขึ้นในวังและราชสำนัก ผสมกับลีลาการเล่าแบบสลับขั้วไปมาระหว่างเคียดขึ้งจริงจังกับบ้าบอ

กษัตริย์ที่หลงรักนางในหัวใจอิสระ

ในมุมของคนที่ชอบดูซีรีส์เกาหลีแต่ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์อะไรมากมาย ก็แค่พอจะได้ยินมาบ้างว่า ตัวตนของของกษัตริย์ที่พบรักสนมเอกนั้นมีอยู่จริง นอกจากนั้น ก็ยังได้ยินมาว่าเขารวบรวมเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในประวัติศาสตร์มาใส่ไว้ด้วย อย่างเช่น รัชทายาทซาโดผู้เป็นพระบิดาขององค์รัชทายาทอีซานนั้นเคยเลี้ยงสุนัข ทั้งยังไม่ถูกกันกับพระบิดาของตนเอง แล้วก็ยังมีเรื่องที่อ้างอิงว่ากษัตริย์องค์ก่อนเคยเสียชีวิตเพราะเสวยปูดอง และก็เชื่อว่าคงจะมีอีกหลายจุดที่อิงมาจากเรื่องจริง

แม้ทีมงานจะบอกว่าตัวเองไม่ได้ทำซีรีส์อิงประวัติศาสตร์ก็ตาม

ทีนี้ มาพูดถึงหัวใจของนางในกันบ้าง จะว่าไป ซองด็อกอิมก็ดูจะแตกต่างจากภาพลักษณ์ของหญิงสมัยนั้นอยู่เหมือนกันเนอะ เธอมีชีวิตในวัยเด็กที่ยากลำบาก แต่ก็ยังดีที่ได้พระชายาคอยช่วยเหลืออุ้มชู ในที่สุดก็ในเข้าวังมาเป็นนางใน ด้วยอุปนิสัยมุ่งมั่นจะปกป้ององค์รัชทายาท จึงใช้ความสามารถพิเศษในการเขียนอักษรพู่กันและความเฉลียวฉลาด ช่วยพระองค์ไว้ได้หลายหน แต่เธอกลับเลือกจะปฏิเสธการทาบทามให้เป็นนางสนมจากซังกุงสูงสุด

และแม้จะรู้ว่ากษัตริย์พระองค์ใหม่มีใจให้ตน

ไม่ใช่ว่าด็อกอิมไม่ทะเยอทะยาน เธอรู้ดีว่าชีวิตของการเป็นนางในก็คือการที่ติดอยู่ในวังหลวงไปตลอดชีวิต และเธอก็เกรงว่า พระราชาก็คงจะมีคนที่สามสี่ห้าไปเรื่อย เธอคงไม่อาจมีความสุขได้ในชีวิตที่เหลือ เลยจะขออยู่คนเดียวเสียดีกว่า…ว่างั้น

นำเสนอความไม่ลงรอยในวังหลวง

โดยรวมแล้ว เหมือนซีรีส์ตั้งใจจะเล่าเรื่องราวในวังหลวงโดยขับเน้นเรื่องราวของฝั่งหญิง เรื่องความไม่เท่าเทียมของหญิงนางในเมื่อเทียบกับเหล่าองครักษ์และนักวิชาการ พวกเธอถูกมองเห็นเป็นชนชั้นต่ำในสายตาของขุนน้ำขุนนาง โดนดูถูกเหยียดหยามอยู่ไม่น้อย ทั้งที่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า วังหลวงที่ขาดนางในไปจะวุ่นวายยุ่งเหยิงเพียงใด นางในเป็นฟันเฟืองที่สำคัญยิ่ง แต่กลับมีน้อยคนมากที่จะมองเห็นความสำคัญ

ในซีรีส์เรื่องนี้ จะมีทั้งการตั้งสมาคมลับของเหล่านางใน หลังจากผู้ก่อตั้งรู้สึกเจ็บแค้นใจจากการกระทำของกษัตริย์ในอดีต มีทั้งกลุ่มลับของฝ่ายองค์รัชทายาทที่เริ่มต้นนั้นยังไม่แน่ชัดว่าตั้งขึ้นเพื่อการใด ผู้ชมอย่างเราก็คงได้แต่เฝ้าลุ้นให้พระเอกได้ขึ้นเป็นกษัตริย์สมใจ และได้ครองรักกับนางเอกที่เขาคลั่งรัก….สักที

นอกจากนี้ เรื่องก็ยังเน้นไปที่ตัวละครฝ่ายหญิง ท่านอาของพระเอกอย่าง องค์หญิงฮวาวาน​ (Seo Hyo Rim/ซอฮโยริม จากซีรีส์ ‘What’s Wrong With Secretary Kim’) ผู้ที่เอาจริงเอาจังกับการชิงดีชิงเด่นเหนือพระราชินี (Jang Hee Jin/จางฮีจิน จากซีรีส์ ‘Flower of Evil’) ทั้งสองเป็นตัวละครที่ส่งผลต่อเป้าหมายของอีซานอย่างมากในเรื่องนี้

เล่าสลับเรื่องจริงจัง กับเรื่องรักโรแมนติกและ… ชวนหัว

แม้เรื่องราวจะค่อนข้างเป็นไปอย่างน่าสงสัยเคลือบแคลง องค์รัชทายาทที่พยายามจะล่าเสือที่ออกฆ่าชาวบ้านด้วยลูกศรของตนเองโดยไม่ยอมแจ้งพระราชา ไหนจะเรื่องหนังสือเวียนลึกลับ หรือการมีพฤติกรรมชอบแอบไปประชุมในหอคณิกาเพื่อวางแผนบางอย่าง รัชทายาทที่ถูกทำโทษบ๊อยบ่อย ไม่พอยังมีเรื่องการชิงดีชิงเด่นของท่านอา ที่กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมากับองค์ราชินีผู้อ่อนวัยกว่า

แต่ซีรีส์ก็ไม่ทำให้คนดูต้องเครียดตลอดเวลา เพราะเขาสลับฉากด้วยพาร์ทโรแมนติกระหว่างองค์รัชทายาทกับด็อกอิม จากเดิมที่พ่อแง่แม่งอนในตอนแรก กลายเป็นคนสำคัญต่อกันในเวลาต่อมา แม้บทจะดูจงใจชวนรู้สึก ‘ก็ได้เหรอ?’ ไปบ้าง แต่ก็ตามมาซึ่งฉากที่ชวนอิ่มเอิบใจ

ไม่พอแค่นั้น เพราะบทยังวางเอาฉากชวนขำแทรกไว้ด้วยเสมอ ทั้งความเปิ่นขององค์รัชทายาท นางในที่ชอบพูดคุยเรื่องซุบซิบ และอะไรอีกหลายๆ อย่าง ที่ทำให้ซีรีส์เรื่องมีความอารมณ์ดีคั่นอารมณ์เครียดๆ กับเหตุปองร้ายรัชทายาทได้อยู่เสมอ

นอกจากนี้ เคมีที่ดูเข้ากันดีระหว่าง อีจุนโฮ กับ อีเซยอง ยังทำให้หลายคนฟินไปตามๆ กัน โดยเฉพาะสายตาที่บ่งบอกหัวใจของจุนโฮที่ทำหน้าที่ได้ดีอย่างเหลือเชื่อ ด้านบทก็ถือว่าเขียนได้สนุก มีเรื่องราวให้ฟิน ขำ ลุ้นเครียด แต่ก็ปลุกให้สนใจอยากติดตามต่อไปได้ตลอด

มันเลยไม่แปลกที่ยิ่งฉายเรทติ้งจะยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ แบบนี้

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์