รีวิว The Addams Family 2 | ตระกูลนี้ผียังหลบ แอดดัมส์โร้ดทริปสุดป่วน

จำได้ว่า สมัยเมื่อปี 1991 มีหนังเรื่องนึงที่บอกเล่าเรื่องของตระกูลเพี้ยนที่สมาชิกแต่ละคนมีนิสัยประหลาด ในคฤหาสน์หลังนั้นมีทั้งคนทั้งผีอาศัยรวมอยู่ด้วยกัน เป็นหนังที่ไม่รู้จะกลัวหรือฮาดี ส่วนผสมมันรวมๆ กันแล้วดูพิลึก เมื่อมาถึงปัจจุบัน เขาหยิบมาสร้างใหม่ในแบบแอนิเมชัน และปีนี้ เขาก็สร้างภาคต่อตามออกมา ‘The Addams Family 2’ ชื่อไทยก็ ‘ตระกูลนี้ผียังหลบ 2′

หลังภาคแรก อารัมภบทกันไปประมาณหนึ่งแล้ว ภาคนี้จึงหันมาว่าด้วยเบื้องลึกของตัวละครบางตัวกันบ้าง แถมภาคนี้ยังมีความเป็นโร้ดมูฟวี่ที่ตัวละครต้องขับรถไปท่องไปทั่วอเมริกา เรื่องราวที่ใช้ผู้เขียนบทไปถึง 4 คน ขณะที่ผู้กำกับรวมผู้ช่วยก็ 4 คนไม่น้อยหน้ากัน แต่จะออกมาสนุกหรือไม่แค่ไหนนั้น

วันนี้ เราจะได้รู้กันแล้วล่ะครับ!

เรื่องย่อแอนิเมชัน ‘ตระกูลนี้ผียังหลบ 2’ 

มันเป็นเรื่องราวของครอบครัวแอดดัมส์ที่ประกอบไปด้วย โกเมซ (Oscar Isaac จากหนัง ‘Ex Machina’ และ ‘Star Wars: Episode IX – The Rise of Skywalker’) และมอร์ติเซีย (Charlize Theron จากหนัง ‘Atomic Blonde’ และ ‘Mad Max: Fury Road’) สามีภรรยาที่มีลูกสอง หนึ่งคือเด็กสาวอัจฉริยะนักทดลองอย่าง เวนส์เดย์ (Chloë Grace Moretz จากหนัง ‘Shadow in the Cloud’ และ ‘Kick-Ass’) กับเด็กชายจอมเพี้ยนอย่างพักสลีย์ (Javon ‘Wanna’ Walton) มีลุงเฟสเตอร์ (Nick Kroll) ตัวอ้วนกลมที่ครั้งนี้กลายมาเป็นตัวทดลองให้กับเวนส์เดย์

แต่ระยะหลังมานี่ เวนส์เดย์ก็ชักทำตัวแปลกแยก ไม่ค่อยสุงสิงกับสมาชิกในครอบครัวแฮะ

โกเมซเลยปิ๊งไอเดียโร้ดทริปขึ้นมา เป็นทริปเชื่อมความสัมพันธ์ภายในครอบครัว เพื่อความแน่นแฟ้นอะไรประมาณนั้น ยังไม่ทันจะได้ออกเดินทาง จู่ๆ มีแขกมาเยือน เขาบอกว่าเวนส์เดย์คือลูกสาวที่ถูกสับเปลี่ยนตัวไปตอนอยู่ในโรงพยาบาล แถมระหว่างทริปครอบครัว คนพวกนั้นที่ต้องการตัวเวนส์เดย์ก็ตามมารังควานไม่ลดละ

งานนี้แอดดัมส์แฟมิลี่จะต้องสูญเสียสมาชิกคนสำคัญไปรึไงหว่า?

รีวิวแอนิเมชัน ‘The Addams Family 2’

จะว่าไป หนังภาคนี้ก็เป็นหนังแนวโร้ดมูฟวี่เรื่องหนึ่งนี่เอง เพราะตลอดทั้งเรื่องครอบครัวแอดดัมส์ต้องตะลอนไปเที่ยวทั่วอเมริกา พวกเขาจะขับรถคันใหญ่ที่มีลักษณะเหมือนบ้านเคลื่อนที่ที่มีทุกสิ่งครบครันไม่ต่างจากบ้านหลังหนึ่ง ที่เดินทางทั้งคืนเพื่อไปแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ เพื่อกระชับมิตรระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

สาเหตุนั่นก็คงเป็นเพราะ เวนส์เดย์ ลูกสาวคนโตสุดอัจฉริยะที่ทำให้ตัวแปลกแยกกับคนอื่นๆ ความรู้สึกในตอนนี้ของเวนส์เดย์นั้น เธอรู้สึกเหมือนเป็นแกะดำ ไม่เข้าพวก

แค่ความเพี้ยนไม่เหมือนใครของคนในครอบครัวก็อาจทำให้ทริปนี้ป่วนมากพอแล้ว แต่คนเขียนบทก็เพิ่มความสนุกเข้าไปอีกด้วยการให้พวกเขามีคนจาก ดร. ไซรัส สเตรนจ์ (Bill Hader จากหนัง ‘It Chapter Two’ และ ‘Inside Out’) สะกดรอยติดตามเพื่อนำตัวเวนส์เดย์กลับไป คนที่บอกว่าเธอคือลูกสาวที่ถูกเปลี่ยนตัวตอนเป็นทารกแรกเกิดในโรงพยาบาล

งานนี้จึงเป็นโร้ดทริปที่ทั้งกระชับความสัมพันธ์และหนีจากตัวก่อกวนไปพร้อมๆ กัน

สำหรับนายแพทแล้ว ตัวละครหลายๆ ตัวในภาคนี้สร้างเสียงหัวเราะได้ดีนะ แม้กระทั่งเจ้าผีดิบตัวโตที่มีความสามารถชวนเซอร์ไพรซ์ หรือจะเป็นความสัมพันธ์แบบเพี้ยนๆ ของเวนส์เดย์กับพิกสลีย์ ที่คนพี่มักจะแกล้งคนน้องแบบแปลกๆ อยู่เสมอ แต่บางมุกก็อาจแป้กไปบ้าง บางช่วงเวลาอาจดูดร็อปไปหน่อย แต่พอเดินมาถึงอีกช่วง ก็อาจทำให้ขำจนตัวโยนได้เช่นกัน

เรื่องราวอาจจะไม่มีส่วนที่ชวนตื่นเต้นอะไรเท่าไหร่นัก คงเน้นให้เป็นหนังผจญภัยและหนังครอบครัวอะไรประมาณนั้น

ครอบครัวแอดดัมส์ที่มีความเพี้ยนแปลกไม่เหมือนใคร กำลังเผชิญปัญหาที่ลูกสาวผู้เงียบขรึมของพวกเขาอาจไม่ใช่สมาชิกที่เกี่ยวพันกันทางสายเลือด แต่ถึงอย่างไร ทุกคนก็ยังคงเห็นเธอเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เหลือก็แต่ว่าเธอจะรู้สึกเหมือนกันหรือไม่ หนังอาจจะไม่ได้ใส่แง่มุมลึกซึ้งขนาดนั้น เน้นความฮาความป่วนไปเรื่อย ก็อาจเป็นได้ที่ทำให้บางคนรู้สึกว่าหนังสนุกน้อยกว่าภาคก่อน

แต่โดยรวมๆ แล้ว แอนิเมชันเรื่องนี้ค่อนข้างจะให้ความบันเทิงกับผู้ชม หลายมุกก็ทำงานได้ดี ผสานกันไปกับเพลงประกอบที่ผู้คนรู้จัก จึงพอจะจัดได้ว่า เป็นหนังที่เหมาะจะตีตั๋วเข้าไปเพื่อหาความบันเทิงในวันเครียดๆ ได้อยู่เหมือนกัน

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง