รีวิวหนัง มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ | ผสานเรื่องรัก-บู๊ จีนกำลังภายในสุดตื่นตา

ประโคมข่าวกันเสียใหญ่โตทีเดียวกับหนังเรื่องใหม่จากผู้กำกับ ฉีเคอะ ที่สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่สร้างรายได้ระดับประวัติศาสตร์ในแผ่นดินบ้านเกิดของ ‘Legends Of The Condor Heroes: The Gallants‘ หรือชื่อไทย ‘มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’ ส่งผลให้นายแพทและผู้คนมากมายตั้งตารอวันจะได้พบกันในโรงภาพยนตร์ ซึ่งความน่าสนใจของมัน นอกเหนือจากการหยิบเอานิยายกำลังภายในระดับตำนานมาเล่าขานใหม่แล้ว ก็ยังพาเอาดาราระดับซูเปอร์สตาร์อย่าง เซียวจ้าน มาร่วมงานด้วยอีกต่างหาก

คิดเห็นเช่นไรกับมังกรหยกภาคนี้?

ไม่ได้ดูหนังของ ฉีเคอะ มานานเท่าไหร่แล้วนะ นึกถึงสมัยก่อนที่หนังจีนของผู้กำกับคนนี้เข้าไทยเป็นว่าเล่น คราวนี้ เขาหยิบเอานิยายกำลังภายในสุดอมตะของ กิมย้ง มาบอกเล่าใหม่อีกครั้ง นี่คือภาคเริ่มต้น ที่ผสานทั้งเรื่องรักของตัวละครนำ ก๊วยเจ๋งกับอึ้งย้ง ที่มีเจ้าหญิงมองโกลเข้ามาจนกลายเป็นรักสามเส้า ก่อนจะพาผู้ชมไปพบกับฉากสงครามอันอลังการงานสร้างระหว่างกิมก๊กและมองโกล

เซียวจ้านกลายเป็นก๊วยเจ๋งที่หล่อสุดเท่าที่เคยดูมา ขณะที่สองสาวก็สวยจนเลือกไม่ถูกเลย

เรื่องย่อหนัง ‘Legends Of The Condor Heroes: The Gallants‘

มันคือเรื่องราวของความแค้นเคืองและความเกลียดชังในยุคสงครามที่เต็มไปด้วยการแก่งแย่งช่วงชิงอำนาจ และก๊วยเจ๋ง (รับบทโดย เซียวจ้าน จากหนังเรื่อง ‘กระบี่เทพสังหาร’) และอึ้งย้ง (รับบทโดย จวงต๋าเฟย จากซีรีส์เรื่อง ‘You Are Desire’) คือสองตัวละครสำคัญในเรื่องนี้

ก๊วยเจ๋ง คือชายที่เกิดในแผ่นดินซ่ง แต่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนมาเติบโตอยู่ในทุ่งหญ้ามองโกล เขากลายเป็นบุตรบุญธรรมแห่งท่านเจงกิสข่าน แต่ในระหว่างเดินทางท่องยุทธภพและพัฒนาฝีมือตนจากการอบรมสั่งสอนของเหล่าอาจารย์อยู่นั้น เขาก็ได้พบกับอึ้งย้งที่รักและผูกพัน ทั้งยังได้รับถ่ายทอดวิชาจากปรมาจารย์ผู้ถ่ายทอดคัมภีร์ยุทธ์ “เก้าอิม” และ “18 ฝ่ามือพิชิตมังกร” อันไร้เทียมทาน แต่เพราะมีเรื่องผิดใจ ทำให้ทั้งสองต้องแยกจาก และเพราะวิชาอันเทียมทานนั้นเป็นที่ต้องการของพิษประจิม อาวเอี๊ยงฮง แปรเปลี่ยนชะตาให้พลิกผัน

จนในที่สุด ทั้งก๊วยเจ๋งและอึ้งย้งจำต้องป้องกันพรมแดนของราชวงศ์ซ่งใต้ ท่ามกลางลูกธนูของศัตรูที่ระดมยิงมาราวกับห่าฝนด้วยจิตวิญญาณของวีรบุรุษ

รีวิวหนัง ‘มังกรหยก จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่’

ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดย ฉีเคอะ หนึ่งในจอมยุทธ์ผู้เกรียงไกรในโลกภาพยนตร์ และดัดแปลงมาจากผลงานอมตะฝึมือ กิมย้ง ยอดยุทธ์นิยายกำลังภายในเข้มข้น สำหรับแฟนมังกรหยกที่ติดตามมายาวนาน คงจดจำเรื่องราวได้หมด มองความต่างระหว่างนิยายและภาพยนตร์ออก แต่สำหรับคนไม่ได้ติดตามมาอย่างจริงจัง พวกเขาก็ยังสามารถติดตามเรื่องราวได้โดยไม่ต้องสนใจว่ามันจะถูกปรับเปลี่ยนไปมากน้อยเท่าใด

บทหนังถูกปรับมาให้คนที่แม้ไม่ต้องเป็นแฟนตัวยงของก๊วยเจ๋ง-อึ้งย้ง ก็ล้วนเข้าใจ เริ่มต้นต้อนรับคนดูด้วยการโฟกัสที่ความสัมพันธ์ของตัวละครนำ ทำให้มองเห็นความรัก การพลัดพราก ความเข้าใจผิด และมีแง่มุมรักสามเส้าที่ใครๆ ก็เข้าใจได้มานำเสนอ

ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ที่เล่าผ่านกรรมวิธีทำไก่อบเหล้าดอกท้อ พาคนดูพันผูกเอาใจช่วยไม่ว่าฝ่ายใดจะประสบความยากลำบาก และโดยไม่ทันตั้งตัว บทหนังก็พาให้คนดูได้รู้จักกับอีกหนึ่งตัวละครสำคัญ ฮั่วเจิง หรือ วาเจน (รับบทโดย จางเหวินซิน) เจ้าหญิงแห่งแผ่นดินมองโกล หญิงแกร่งผู้มีนิสัยดุดันคนที่บิดาวางให้ได้แต่งงานกับก๊วยเจ๋ง ซึ่งคงต้องบอกว่า หนังภาคนี้เหมือนมีนางเอก 2 คน และก็เป็น 2 คนที่นายแพทรู้สึกเลือกยากเหลือเกิน เพราะน่ารักทั้งคู่จริงๆ

ไม่ว่าจะเป็นหนังและซีรีส์เวอร์ชันไหน ก๊วยเจ๋งก็จะเป็นยอดฝีมือเสมอ เขาแสวงหาวิชาความรู้และฝึกฝนวิทยายุทธจนช่ำชองเก่งกาจ เช่นเดียวกับภาคนี้ที่เขาฝึกได้สำเร็จ และคัมภีร์เล่มนั้นก็เป็นที่ต้องการของพิษประจิม

สิ่งที่ยังคงเหมือนกับที่เคยเจอมาในเวอร์ชันนิยาย พิษประจิม ซึ่งก็คือ อาวเอี๊ยงฮง (Ouyang Feng) ยังคงเกี่ยวข้องกับวิชาลมปราณคางคก ครอบครองไม้เท้าอสรพิษ มุ่งหมายเรียนรู้วิชาเก้าอิมและฉกฉวยเอาจากก๊วยเจ๋งเช่นเคย เอาจริงๆ การเลือกเล่าไปในทางนี้ ก็ดูเหมือนจะเขียนมาเพื่อให้เหมาะกับคนที่เพิ่งมารู้จักมังกรหยกเป็นครั้งแรกเลยแหละ

ก่อนเข้าไปเจอกับหนัง ก็คาดคิดว่ามันคงเน้นเล่าเรื่องสงครามเป็นหลัก แต่ที่จริงกลับไม่ใช่ มันมีพาร์ทดราม่าและเรื่องรักเข้ามาพอสมควรเลย กว่าจะที่จะเล่าเรื่องสงคราม ซึ่งก็ชวนรู้สึกว่าไม่มากเท่าที่คาดหวัง พูดง่ายๆ ว่ายังไม่หนำใจนั่นแล

หนังเล่าเรื่องราวสงครามของกิมก๊กกับมองโกลได้ยิ่งใหญ่อลังการดี ด้วยโปรดักชันที่อลังการน่าตื่นตา บอกเล่าถึงชีวิตของคนที่อยู่ตรงกลางและต้องลำบากในการตัดสินใจ ก๊วยเจ๋งคือบุรุษผู้อยู่บนสองทางแยก เขายังคิดว่าตนเป็นคนจงหยวน แต่เติบโตภายใต้ความไว้เนื้อเชื่อใจของดินแดนทุ่งหญ้า และเมื่อหนังจบลง คนดูก็จะได้รู้จักว่า “จอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่” นั่นเป็นเช่นไร และเมื่อหนังจบลง ทีมงานก็ไม่ยอมให้ลุกไปไหน ต้องนั่งดูต่อเพราะมีฉากแถมในช่วงเครดิตปิดท้ายกันด้วยแหละ

หนังรอบที่ดูเป็นเสียงพากย์ของพันธมิตร และนี่คืองานพากย์ครั้งสุดท้ายในนามของทีม การดูหนังจีนกำลังภายในในแบบพากย์ไทย ให้ฟีลลิ่งเหมือนกับการดูหนังจีนที่คุ้นเคยตั้งแต่เด็ก จากนี้คงคิดถึงวิธีการพากย์แบบหยอดมุกเป็นระยะ ที่พาคนดูหัวเราะคิกคัก เพราะคงไม่มีทีมพากย์พันธมิตรอีกแล้ว

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง