ค่ำคืนของวันพุธ เป็นค่ำคืนของความสนุกหรรษา กับภาพยนตร์ที่สร้างจากวรรณกรรมชิ้นเยี่ยม ‘The Chronicles of Narnia’ หรือ ‘นาร์เนีย’ ชื่อสั้นๆ ที่พวกเราเรียกขานกันนั่นเอง
ไหนๆ ก็ไหนๆ ที่แพทโซนิคได้ไปชมภาพยนตร์เรื่องในวันที่มันยังไม่ฉายจริง ก็ขอหยิบมาเล่าในบล็อกแห่งนี้ เรื่องราวของวรรณกรรมเยาวชนที่เป็นมาแล้วทั้ง ซีรี่ส์ทางทีวี และภาพยนตร์ที่ฉายบนจอธรรมดา และวันนี้ ขยายมาฉายมาบนจอยักษ์ 3 มิติ
วันนี้ ผมไปดู ‘The Chronicles of Narnia : The Voyage of The Dawn Treader’ หรือ ‘อภินิหารตํานานแห่งนาร์เนีย 3 : ผจญภัยโพ้นทะเล’ ในชื่อไทย ที่โรง Major Cineplex เอกมัย ครับท่าน ไม่คาดคิดเหมือนกันว่า หนังรอบพิเศษรอบนี้จะเป็นแบบ 3 มิติ เซอร์ไพรส์เหมือนกันนะครับเนี่ย
หลังไปผจญภัยหลังตู้เก็บเสื้อผ้า ร้อยปีถัดมา พวกเขาก็กลับไปยังนาร์เนียอีกครั้งเพื่อช่วยเหลือเจ้าชายแคสเปียน ครานี้ พี่น้องตระกูลพรีเวนซี่จะกลับไปสู่โลกแห่งนาร์เนียอีกครั้ง…
เมื่อเอ็ดมันด์ และลูซี่ พรีเวนซี่ พร้อมกับ ยูซตาส ลูกพี่ลูกน้องของพวกเขาที่ดูจะไม่ถูกขี้หน้ากันสักเท่าไหร่ ต้องไปเผชิญเรื่องราวผจญภัยด้วยกันในโลกแห่งนาร์เนีย ทำให้เราได้รับรู้ว่า ยังมีดินแดนที่เรายังไม่รู้จัก บนแผนที่ที่เป็นอาณาเขตของนาร์เนียอยู่ เป็นดินแดนที่ยังไม่เคยมีใครไปถึง…
พวกเขาทะลุผ่านภาพวาดไปยังท้องทะเลอันเวิ้งว้าง และได้พบกับกษัตริย์แคสเปี้ยน ที่แล่นเรือนาม Dawn Treader ไปไกลแสนไกลเพื่อทำภารกิจสำคัญอันหมายถึงความอยู่รอดของนาร์เนีย โดยตัวละครแต่ละตัว จะต้องพานพบกับอุปสรรคทั้งภายนอกและภายในใจของพวกเขาเอง ในการที่จะฟันฝ่าเพื่อให้ผ่านไปถึงจุดมุ่งหมาย ไม่ว่าจะเป็นเวทมนตร์ที่มีชีวิต คอยหลอกล่อจิตใจให้ไขว้เขว หรือเหล่ามนุษย์ประหลาด ที่โผล่มาเพียงเพื่อเป็นจิ๊กซอลสู่การดำเนินของเรื่องราว หรือสัตว์ดุร้ายขนาดยักษ์ ที่ยากแก่การต่อกร
…ระหว่างทาง ที่ทำให้เด็กคนหนึ่ง โตขึ้นกลายเป็นผู้ใหญ่อีกคนหนึ่ง
แน่นอนว่า เหล่าราชาและราชินีแห่งนาร์เนีย จะต้องได้พบกับอัสลาน เจ้าราชสีห์ตัวใหญ่ที่กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งวรรณกรรมซีรี่ส์นี้ ใครที่อยากเจอเขาอีก ไม่ต้องห่วง แต่ต้องลุ้นเอาว่าจะออกมาตอนไหนเท่านั้น นาร์เนียภาคนี้ มาพร้อมกับผู้กำกับฯ คนใหม่ Michael Apted ผู้สร้างผลงานส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์สารคดีเสียแทบทั้งสิ้น
ด้วยการดำเนินเรื่องที่ทำได้สนุกตั้งแต่การปูพื้นในช่วงแรก ไปจนถึงช่วงไคล์แมกซ์ สเปเชียลเอฟเฟ็กซ์นั้นอลังการงานสร้างอยู่แล้วสำหรับงานของสตูดิโอจิ้กจอกศตวรรษที่ 20 แห่งนี้ ขณะที่งานจัดวางองค์ประกอบภาพต่างๆ ก็ดูสอดรับกับความเป็น 3 มิติได้อย่างดี แม้จะดูว่าภาพออกมาเป็นแผ่นๆ ซ้อนกัน มากกว่าจะดูเป็นร่างกายมนุษย์ที่มีนูนเว้าตามที่เราเห็นในของจริงๆ ก็ตาม
แต่เพราะการต้องมานั่งดูในแถวที่นั่งด้านหน้า มองจอในแนวเฉียง และใส่แว่น 3 มิติ ทำให้ค่อนข้างหลุดจากบทสนทนาได้ง่ายด้วยความใกล้ของจอ และลักษณะของภาพที่เป็น 3 มิติ ทำให้ต้องใช้สายตาค่อนข้างมาก ถ้าคุณเลือกที่นั่งได้ ขอให้เลือกที่นั่งกลางจอ และไกลจอออกไปพอสมควร น่าจะทำให้ได้รับอรรถรส และอ่านซับไปพร้อมๆ กับการซึมซับเรื่องราวได้ดีกว่า
แล้วก็ผ่านไป ภาคที่สามของ อภินิหารตำนานแห่งนาร์เนีย จากวรรณกรรมชุดของ C.S. Lewis ที่มีถึง 7 เล่ม และถูกตีพิมพ์รายปีตั้งแต่ 1950-1956 เริ่มต้นที่ ‘The Lion, the Witch and the Wardrobe’ (1950), ‘Prince Caspian: The Return to Narnia’ (1951), ‘The Voyage of the Dawn Treader’ (1952), ‘The Silver Chair’ (1953), ‘The Horse and His Boy’ (1954), ‘The Magician’s Nephew’ (1955) และ ‘The Last Battle’ (1956)
ซึ่งเราคงจะเห็นได้ว่า ในภาคภาพยนตร์นั้น สร้างตามการเรียงของการตีพิมพ์นั่นเอง ขณะที่คนที่เป็นแฟนหนังสือวรรณกรรมชุดนี้ อาจจะบอกว่า ถ้าหากเรียงกันจริงๆ ตามเวลาของเหตุการณ์แล้ว จะเป็นอีกแบบหนึ่ง และ ‘The Voyage of the Dawn Treader : ผจญภัยโพ้นทะเล’ จะกลายเป็นภาคที่ 5 ไปในทันที อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะอ่านด้วยการเรียงลำดับแบบไหน ก็น่าจะได้อรรถรสความสนุกสนานที่ไม่แพ้กัน
ดูท่าว่าจะต้องติดตามกันไปยาวๆ อีกหลายปี เฉกเช่นเดียวกับวรรณกรรมชุดพ่อมดน้อย Harry Potter ของ J.K. Rowling เสียกระมัง
Taglines: Return to magic. Return to hope. Return to Narnia.
ชื่อภาพยนตร์ : The Chronicles of Narnia : The Voyage of The Dawn Treader / อภินิหารตํานานแห่งนาร์เนีย 3 : ผจญภัยโพ้นทะเล
ผู้กำกับการแสดง : Michael Apted
ผู้เขียนบท : Christopher Markus, Stephen McFeely, Michael Petroni (screenplay) และ C.S. Lewis (novel)
นักแสดงนำ : Ben Barnes, Eddie Izzard (ให้เสียงพากย์), Skandar Keynes, Georgie Henley, Will Poulter, Liam Neeson (ให้เสียงพากย์)
แนว/ประเภทภาพยนตร์ : Action/Fantasy
ความยาว : 115 นาที
เรท : USA – PG, ไทย N/A
สตูดิโอ : Twentieth Century Fox Film Corporation, Walden Media
วันที่เข้าฉายในไทย : 9 ธันวาคม 2553
อยากบอกว่าชอบหนังเรื่องนี้ และ หนังแนวนี้มาก ๆ ครับ
อยากดู ๆ
ชอบเรื่องนี้มากเลยยครับผม