รีวิวซีรีส์ Anthracite เถ้าความตาย | ระทึกลัทธิอุบาทว์ในเมืองสวรรค์

บางครั้ง ชีวิตก็ต้องสัมผัสกับอะไรที่ไม่คุ้นเคยดูบ้าง อย่างเช่นซีรีส์จากฝรั่งเศสเรื่องนี้ ‘Anthracite’ หรือชื่อไทย ‘เถ้าความตาย’ ที่เล่าถึงหญิงสาวนักสืบผู้ที่เป็นลูคีเมียแต่ต้องการค้นหาความจริงของเหตุการฆ่าตัวตายหมู่ในเมืองเล็ก ๆ แถบเทือกเขาแอลป์ ผลงานจากทีมนักแสดงที่ไม่คุ้นหน้า แต่ถ่ายทำในทัศนียภาพที่โคตรสวยงาม เมื่อคิดได้เช่นนั้น ก็เลยต้องลองดูกันสักตั้ง

ความเห็นส่วนตัวของนายแพท

มันคือลิมิเต็ดซีรีส์ความยาว 6 ตอนจากฝรั่งเศสที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหน้าใคร กับเรื่องราวกับปะปนกันหลายสิ่ง ทั้งเรื่องเมืองเล็กที่มีเหมืองเก่าอยู่ข้างใต้ ทั้งเรื่องแล็บทดลองที่ปล่อยสารพิษทำร้ายชาวเมือง ทั้งเรื่องลัทธิประหลาดที่มีคนตายหมู่เมื่อ 30 ปีก่อน ก่อนจะส่งผลมาถึงปัจจุบัน มันอาจมีตัวเอกที่คาแรกเตอร์น่ารำคาญไปนิด เล่าเรื่องและบทสนทนาที่พาสับสนอยู่พอประมาณ แต่เพราะมันชวนอยากรู้คำตอบ มันจึงได้พาเราไปเจอกับความจริงเบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด

เมืองที่ทิวทัศน์งามเหมือนกับสรวงสวรรรค์ แต่กลับมีแต่เรื่องน่าสลดหดหู่ ความจริงที่ชวนอึ้งเมื่อมันแทบจะผิดไปจากการรับรู้ในทีแรกอย่างสิ้นเชิง

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Anthracite’

ในปี 1994 เคยเกิดเหตุฆ่าตัวตายหมู่ในเลวิออน่า เมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในแถบเทือกเขาแอลป์ เหตุครั้งนั้น หน่วยสวาทบุกเข้าไปยังคฤหาสน์หลังหนึ่ง พบว่าทุกคนตายหมดยกเว้นเพียง เคเลบ โฆฮันซัน (Stefano Cassetti จากซีรีส์ ‘Into the Night’) ที่ยังรอดอยู่ และนี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอีก 30 ปีถัดมา

หลังพบว่า โซลาล เอล์มัน (Jean-Marc Barr) พ่อของตัวเองที่กำลังสืบหาความจริงอะไรบางอย่างได้หายตัวไป ก็ทำให้ อีด้า (Noémie Schmidt จากซีรีส์ ‘Délits mineurs’) ผู้เป็นลูกสาวต้องเดินทางมาสืบหาพ่อยังสกีรีสอร์ตที่ ฌาโร แกตซี (Hatik จากหนังเรื่อง ‘DogMan’) ชายหนุ่มมีคดีติดตัวทำงานอยู่ และในที่สุด ฌาโรก็ถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับลัทธิประหลาดเมื่อ 30 ปีก่อนเข้าจนได้

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง ฌาโรได้รับความช่วยเหลือจากอีด้าผู้มีความกี๊คในตัวอย่างเหลือล้น ทำให้ทั้งคู่เริ่มสนิทกันอย่างรวดเร็ว

ศพหญิงสาวที่ถูกพบใต้น้ำแข็ง มีร่องรอยแอนทราไซต์ที่ทาอยู่บนหน้า จิโอวานน่า เดลูก้า (Camille Lou จากหนังเรื่อง ‘Open Season’) ตำรวจสาวก็เข้ามาสืบคดีนี้ ฌาโรกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ทั้งเบาะแสเงื่อนงำยังพาไปเกี่ยวข้องกับเคเลบ เจ้าลัทธิที่ถูกขังอยู่ในโรงพยาบาลบ้ามาสามสิบปี ก่อนจะได้รู้ว่า เขาเองก็มีความเชื่อมโยงกับลัทธิประหลาดนี้ไม่น้อยเช่นกัน

รีวิวซีรีส์ ‘เถ้าความตาย’

ซีรีส์ฝรั่งเศสในเน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้ อาจมีชื่อไทยสั้น ๆ ว่า ‘เถ้าความตาย’ แต่เมื่อเปิดดูข้างในแบบพากย์ไทย พบว่ามันขึ้นว่าชื่อ ‘เถ้าความตาย: ปริศนาลัทธิเอแคร็งส์’ เป็นลิมิเต็ดซีรีส์ความยาว 6 ตอนที่น่าจะดูจบได้ในวันเดียว เรื่องราวก็เป็นไปตามชื่อเรื่อง มันเล่าถึงเอแคร็งส์ที่เป็นลัทธิประหลาดและเป็นสาเหตุสำคัญแห่งความน่าหดหู่ของเมืองเล็ก ๆ ที่สงบเงียบและสวยงามเคียงข้างเทือกเขาแอลป์ที่ปกคลุมด้วยหิมะเมืองนี้

เปิดตัวละครสำคัญในซีรีส์เรื่องนี้

มันเล่าเรื่องของตัวเอกที่เป็นสาวกี๊คเจ้าของเว็บนักสืบผู้เป็นลูคีเมีย อีด้า เอล์มัน เธอมีพ่อเป็นนักข่าวที่เข้าไปสืบเรื่องลึกลับบางอย่างในเมืองนี้ก่อนที่จะพบมีคนมาทำร้ายพ่อและลักพาตัวหายไป ทำให้เธอต้องเดินทางมาที่เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ พร้อมกับพกพาความกี๊คมาด้วย เวลาเธอจะบอกเล่าอะไร มันจะเต็มไปด้วยข้อมูลยาวที่เล่าอย่างรวดเร็วจนตามแทบไม่ทันเลยล่ะ

พร้อมกันนั้น มันก็เล่าถึงตัวเอกอีกตัวอย่าง ฌาโร หนุ่มปารีสลูกหนึ่งที่ถูกทัณฑ์บนทำให้เขาต้องหนีมาทำงานและหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่ แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะไม่ปล่อยให้เขาได้สงบสุข เมื่อเรื่องร้าย ๆ ที่เกี่ยวพันกับอดีตของตัวเขาเองมันตามตัวเขาเจอ แม่ของเขา จูเลียตต์ เคยอยู่ในลัทธินี้ ก่อนเธอจะซึมเศร้าและจุดไฟเผาบ้าน แต่นั่นมันก็แค่สิ่งที่เขารู้

ที่จริงแล้ว มันมีอีกตัวละครที่เข้ามาเพียงชั่วตอนเดียว อย่าง เอมม่า มาร์แซส์ (Ludmilla Makowski จากซีรีส์ ‘Lupin’) หญิงสาวที่เข้ามาพัวพันกับฌาโรและกลายเป็นศพในเวลาต่อมา น่าเสียดาย เธอน่ารักดีแต่มีบทน้อยจังเลย (ความเห็นส่วนตัวนะ)

แม้ซีรีส์เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยตัวละคร แต่ถ้าพูดถึงตัวสำคัญรอง ๆ ลงไป ก็เห็นจะมี โรเมโอ (Nicolas Godart) ที่เป็นทั้งหนุ่มรักร่วมเพศ เพื่อนที่ลานสกี น้องชายของผู้หมวดจิโอวานน่า ตำรวจสาวที่สืบคดีคนตายปริศนา เธอเคยแท้งลูกจนเป็นซึมเศร้า แล้วก็เป็นอดีตภรรยาของเอร์วาน ตำรวจอีกคน

ลัทธิอุบาทว์ในเมืองที่มีแล็บทดลองและเหมืองใต้ดิน

ศพของเอมม่าที่ถูกพบอยู่ใต้แผ่นน้ำแข็งนั่น ใบหน้าของเธอมีเถ้าแอนทราไซต์สีดำ ไม่ต่างกับที่เคยถูกพบเมื่อ 30 ปีก่อน เรื่องราวของลัทธิที่เคยเกิดขึ้นในปีนั้นจึงถูกรื้อฟื้น เมื่อมีการจัดปาร์ตี้กลางคืน มียาเสพติดและดนตรีที่คฤหาสน์ริมทะเลสาบ แต่ครั้งนั้น ปาร์ตี้แนวลัทธิในคฤหาสน์หลังนี้ทำให้คนฆ่าตัวตายหมู่ มีคนรอดแค่เจ้าลัทธิอย่างเคเลบเท่านั้น

ความจริงต่อมาที่ถูกเปิดเผยก็คือ เคเลบที่อยู่ในโรงพยาบาลบ้า เผยว่ากำลังต้องการตัวฌาโร ไอเดียผู้ถูกเลือกกลับมาอีกครั้งแล้วสินะ

เรื่องราวมันพัวพันกันไปหมด ทั้งเรื่องเหมืองใต้ดิน ลัทธิอุบาทว์ ศพปริศนา ห้องแล็บทดลอง และพ่อของอีด้าที่พกกล้องวิดีโอไปทุกที่ เพื่อมตามถ่ายเรื่องราวของลัทธิประหลาด หนึ่งในเบาะแสที่จะพาเราไปค้นพบความจริง ทำให้เรารู้สึกว่า เมืองเล็ก ๆ แห่งอาจดูน่าไปเยือนในทีแรก แต่กลับแฝงไว้ด้วยเรื่องลึกลับด้านมืด

ความรู้สึกที่มีต่อ ‘เถ้าความตาย: ปริศนาลัทธิเอแคร็งส์’

ซีรีส์เรื่องนี้ ค่อนข้างมีการเล่าเรื่องที่อลหม่าน นั่งดูไปก็งงงวยไป เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง จับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกแม้จะพอเข้าใจเรื่องราวโดยรวมได้อยู่ ก็เลยได้แต่ตามเรื่องไป และอีกส่วนหนึ่ง มันอาจมีตัวละครที่ชวนรู้สึกน่ารำคาญในสายตาของใครบางคนไปบ้าง อีด้า คือตัวละครตัวนั้น เธอกำลังตามหาพ่อที่ถูกใครบางคนลักพาไป แถมที่นั่นก็มีเรื่องลัทธิประหลาด คาแรกเตอร์ของเธอที่ควรจะซีเรียสกับภารกิจมากกว่า แต่ก็กลับดูร่าเริงใจอย่างประหลาด สิ่งหนึ่งที่จะหลอนคนดูไปตลอดก็น่าจะเป็นเพลง ‘What Is Love’ ของ Haddaway ที่จะโผล่มาให้ได้ยินอยู่เรื่อย ๆ และอีด้าคือหญิงสาวที่นำเพลงนี้ออกมาหลอนหูผู้ชม

พูดก็พูดเถอะ ความอลหม่านในการเล่าเรื่องของมันนั้น แฝงไว้ด้วยเรื่องราวที่พาให้อยากค้นหาคำตอบ ซึ่งก็มากพอจะผลักดันให้คนดูบางกลุ่มยังคงไปต่อ เพื่อพบความจริงในตอนท้ายที่เรียกได้ว่าพลิกกลับด้านและเกินคาดอยู่พอสมควร

มันเล่าเรื่องของเมืองเลวิออนน่า แล็บอาร์กาเซียที่ผู้คนพากันประท้วงขับไล่ มีเรื่องสารพิษที่มีสาเหตุมาจากแล็บแห่งนี้ บทมีเรื่องของพ่อที่ทำทุกทางเพื่อจะช่วยลูกสาว คนบางกลุ่มที่กำลังตามล่าพ่อของอีด้า และก็มีบอกเล่าถึงตัวละครที่เป็นชายรักชาย วิธีการเล่าก็ไม่ต่างจากซีรีส์ทั่วไป เล่าสลับเวลากันไปมาโดยที่เรื่องนี้จะแปะปีบอกไว้ให้ตลอดเพื่อไม่ให้คนดูงงไปมากกว่าเดิม

สิ่งหนึ่งที่พบก็คือ ในรอบแรกที่ดูไปด้วยอารมณ์มึนงงตามเรื่องไม่ทันในบางจุด เมื่ออดทนไปจนถึงจุดจบของเรื่องแล้วกลับมาดูใหม่อย่างคนที่รู้เรื่องมาก่อนแล้ว จะเข้าใจในแต่ละสิ่งที่บทวางทิ้งเอาไว้ ทว่าเมื่อมองดูตามจริง จะมีสักกี่คนที่ตามกลับมาเก็บข้อมูลกันอีกครั้ง

แต่ต้องบอกว่า ในเรื่องของมุมมองการถ่ายภาพนั้นถือว่าซีรีส์ทำได้ค่อนข้างดี พวกเขาใช้ลูกเล่นการถ่ายหลาย ๆ แบบในแต่ละช่วงเวลาของการเล่า อย่างช่วงไหนที่ต้องการทัศนียภาพบวกกับการเคลื่อนไหวก็จะใช้โดรนถ่าย เป็นต้น นอกนั้น การที่ซีรีส์เล่าเรื่องของเมืองเล็กที่อยู่เคียงข้างธรรมชาติที่เป็นภูเขาสูง มีหิมะและลานสกี ก็ทำให้ได้เห็นทัศนียภาพเบื้องหลังสวย ๆ ของเทือกเขาแอลป์เป็นของแถมของการนั่งดูลิมิเต็ดซีรีส์เรื่องนี้

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์