รีวิวซีรีส์ Wednesday 2 | แอดดัมส์ ผู้ไขเรื่องลึกลับในเนเวอร์มอร์

หลังซีซันแรกของแม่สาวแพ้สีสัน ที่ลงมาในบริการของเน็ตฟลิกซ์ ออกมาปังอย่างมากในปี 2022 จากนั้นทีมงานก็ปล่อยให้แฟน ๆ รอคอยเป็นปี ๆ ในที่สุด เธอก็กลับมาวาดลวดลายการเป็นนักเรียนสาวนักสืบแห่งสถาบันเนเวอร์มอร์กันอีกครั้งใน ‘Wednesday 2’ หรือก็คือ เรื่องราวของ เวนส์เดย์ แอดดัมส์ ในซีซันที่สองนั่นเอง

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เวนส์เดย์ ซีซันที่สองนี้?

ซีซันนี้ ยังคงสานต่อจากซีซันแรก เวนส์เดย์ยังคงเล่นบทนักสืบต่อไป แต่หนนี้ นิมิตที่เคยใช้จนคุ้นมือกลับหดหาย แม้รู้สึกว่าเพื่อนรักรูมเมทจะต้องตาย ก็พร้อมยินดีทำทุกทางเพื่อช่วยให้รอด บทยังคงเล่นกับปัญหาชีวิตวัยรุ่นในสถาบันเนเวอร์มอร์ แม้พวกเขามีพลังโน่นนี่ เป็นเอาต์แคสต์ แต่เจอปัญหาไม่ต่างจากคนธรรมดาหรือนอร์มี่ ส่วนเรื่องเผ่าพันธุ์มนุษย์พลังพิเศษ​ นอกจากมีจะไฮด์เป็นพวกใหม่มาตั้งแต่ซีซันแรกแล้ว ก็ยังมีเอเวียนที่ควบคุมนกได้ ก็ยังมีซอมบี้เพิ่มเข้ามาด้วยอีก

ตัวละครใหม่เพิ่มมาเยอะ ตัวละครเก่าก็เอากลับมาเหมือนกัน แต่สร้างสีสันสุด คงต้องยกให้กับการสลับคาแรกเตอร์กันของ 2 รูมเมท

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Wednesday 2’

ในซีซันที่สอง เวนส์เดย์ แอดดัมส์ (Jenna Ortega จากหนัง ‘Scream VI’ และ ‘X’) สาวน้อยผู้เป็นภูมิแพ้สีสัน ขี้สงสัยและใจร้อน ตอนนี้อยู่นอกโรงเรียนเนเวอร์มอร์ และยังคงง่วนอยู่กับการสืบคดีฆาตกรต่อเนื่องในแคนซัสซิตี้ แต่เมื่อปีการศึกษาใหม่ผ่านมาถึง เธอก็กลับมายังสถาบันอีกครั้ง เป็นพ่อโกเมซ (Luis Guzmán) และแม่มอร์ทิเชีย (Catherine Zeta-Jones จากซีรีส์ ‘National Treasure: Edge of History’) ที่มาส่งตามเคย

คราวนี้ เธอมาพร้อมกับพักซลีย์ (Isaac Ordonez จากหนัง ‘A Wrinkle in Time’) น้องชายผู้มีพลังไฟฟ้าที่เพิ่งเข้ามาเรียนในสถาบันแห่งนี้เป็นปีแรก

บางสิ่งที่นี่ยังเหมือนเดิม รูมเมทของเธอก็ยังเป็นคนเดิม อีนิด ซินแคลร์ (Emma Myers จากหนัง ‘A Minecraft Movie’) มนุษย์หมาป่าผู้รักในสีสันที่เพิ่งกลายร่างได้สำเร็จในซีซันที่แล้ว แต่บางสิ่งก็เปลี่ยนไป ครูใหญ่เปลี่ยนใหม่เป็น แบร์รี่ ดอร์ท (Steve Buscemi จากหนัง ‘Hotel Transylvania 2’) ผู้แสนจะร่าเริงและเจ้ากี้เจ้าการ ส่วนนายอำเภอเจริโคก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

แต่สิ่งที่จะไม่เปลี่ยนคือ เวนส์เดย์ ผู้มีจิตใจมุ่งมั่น เมื่อเจอเรื่องแปลกประหลาดน่าสงสัย เธอจะกระโจนเข้าใส่และสืบหาความจริงในทันที

รีวิวซีรีส์ ‘เวนส์เดย์ ซีซัน 2’

แม้ตัวจริงจะเลยวัยเรียนไปมากแล้ว แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ด้วยรูปลักษณ์และความสามารถของ Janna Ortega เธอสามารถเล่นเป็นวัยรุ่นวัยเรียนได้อย่างเนียน ในเรื่องราวที่มีทั้งความแฟนตาซีแบบดาร์ก ๆ บทสนทนาที่เพี้ยนแต่ครีเอต และกับเรื่องราวที่ออกมาในสไตล์นักสืบ

มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ในซีซันที่สอง ของเวนส์เดย์?

นอกจากความเปลี่ยนแปลงของซีซันนี้ ที่เวนส์เดย์จะมีน้องชายมาเรียนด้วย ครูใหญ่และนายอำเภอที่เปลี่ยนไปแล้ว ก็ยังพบด้วยว่า เดี๋ยวนี้ เธอกลายเป็นคนดังหลังช่วยสถาบันให้รอดพ้นภัยร้ายจากผู้แสวงบุญ แต่เมื่อใดก็ตามที่เธอใช้พลังนิมิต จะมีน้ำตาสีดำไหลออกจากตา เธอบอกใคร ๆ ว่าเป็นข้อผิดพลาดทางพลังจิต แต่แม่เธอเชื่อว่าเกิดการใช้พลังวิเศษแบบผิด ๆ ซะมากกว่า

ยังมีตัวละครที่สืบเนื่องมาจากซีซันแรก ไทเลอร์ที่ถูกเปิดโปงว่าเป็นสัตว์ประหลาดไฮด์ จนต้องถูกกักขังอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวช ส่วนพ่อของเขากลายเป็นอดีตนายอำเภอที่จ่มจ่อมอยู่กับความเศร้า ขณะที่คดีฆาตกรรมและเรื่องลึกลับก็ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เกิดเหตุนักสืบที่กำลังสืบเรื่องชู้รักโดนกาฝูงใหญ่จิกกัดจนตาย และไม่นาน กัลปินผู้พ่อก็มีอันเป็นไปในสภาพเดียวกัน ไม่ใช่แค่นั้น พักซลีย์ก็ดันขุดศพจากต้นไม้กะโหลก ซึ่งต่อมากลายเป็นสเลิร์ป สัตว์เลี้ยงซอมบี้ที่เพ่นพ่านไปทั่วเมือง ส่วนนิมิตของเวนส์เดย์บอกว่าอีนิดรูมเมทจะต้องตาย ก่อนที่พลังของเธอจะหดหายไปพร้อมกับคัมภีร์ของกู๊ดดี้ที่แม่เอาไป ไหนจะเรื่องมีสตอล์กเกอร์ที่แอบติดตามเธอทุกฝีก้าว

ทุกอย่างพัวพันยุ่งเหยิงแต่แม่สาวชุดดำก็ไม่ย่อท้อ ยังคงมุ่งมั่นสืบหาความจริงเพื่อช่วยรูมเมทต่อไป

มีแต่เรื่องชวนสงสัย ให้สาวน้อยขี้ใจร้อนต้องออกสืบ

เหตุการณ์ในสถาบันเนเวอร์มอร์มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย ครูใหญ่คนใหม่นาม แบร์รี่ ดอร์ท (Steve Buscemi) หมายมั่นจะจัดงานกาล่าระดมทุน ดึงมอร์ทิเชียแม่ของเธอขึ้นมาเป็นหัวเรือใหญ่ และได้บิยังก้า บาร์เคลย์ (Joy Sunday) ไซเรนสาวมาช่วยอีกแรง

จะว่าไป ซีซัน 2 นี้ก็มีตัวละครใหม่เข้ามาอีกเพียบเหมือนกันแฮะ ไม่ว่าจะ คาพรี (Billie Piper) ครูสอนดนตรีคนใหม่, หมอแฟร์เบิร์น (Thandiwe Newton) แห่งโรงพยาบาลจิตเวชวิลโลว์ฮิล และมี แอ็กเนส เดมิล (Evie Templeton จากหนังเรื่อง ‘Pinocchio’) แฟนพันธุ์แท้ของเวนส์เดย์ที่ล่องหนได้อีกด้วยนะ แล้วก็ยังมีใครบางคนที่โผล่มาทีหลัง ยังพูดถึงไม่ได้

ไม่ใช่แค่นั้น เมื่อบทพาเอาคนอื่น ๆ ในครอบครัวแอดดัมส์มาเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็น การเอ่ยอ้างถึงโอฟีเลีย น้องสาวของแม่, ลุงเฟสเตอร์ (Fred Armisen) ที่มาตั้งแต่ซีซันแรก ลุงหัวล้านที่ใช้ไฟฟ้าช็อตคนอื่นได้ แล้วก็ยังมีคุณยาย (หรือก็คือแม่ของมอร์ทีเชีย) อีกคน

สิ่งที่เกิดขึ้นในซีซัน ยังคงเป็นภารกิจของเวนส์เดย์ที่ต้องการสืบหาต้นตอเพื่อจะช่วยให้อีนิดหลุดพ้นจากความตาย แสดงถึงความห่วงใยที่เจ้าตัวเองก็อาจไม่ยอมรับ แต่ด้วยบุคลิกส่วนตัวที่ใจร้อน ขี้สงสัย และชอบจะพุ่งเข้าหาไม่ว่ามันจะดูอันตรายแค่ไหน เวนส์เดย์เลือกจะทำภารกิจโดยไม่ได้บอกความจริงให้อีนิดล่วงรู้ ซึ่งหลายครั้งก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดต่อกัน

ซีซันนี้ เวนส์เดย์จะต้องพบกับความยากลำบาก เมื่อนิมิตที่เธอใช้อย่างสนุกมือมาตั้งแต่ซีซันแรก กลับมาหดหายไปอย่างปุบปับ ทำให้การเล่นเป็นนักสืบไม่ง่ายอีกต่อไป

ขณะที่อีนิดเอง ก็เปลี่ยนไปคบกับบรูโน่ (Noah B. Taylor) เพื่อนมนุษย์หมาป่าด้วยกัน อาจเพราะมีอะไรที่เหมือน ๆ กัน จนตีตัวออกหากจากเอแจ็กซ์ (Georgie Farmer) ที่เป็นกอร์กอน สร้างสถานการณ์หนึ่งหญิงสองชายขึ้นมาอีก สรุปก็คือ บทเขียนให้อีนิดวุ่นเรื่องรักสามเส้า แต่ให้เวนส์เดย์วุ่นทุกอย่าง ทั้งเรื่องพ่อแม่ที่คอยมาควบคุมตลอด เรื่องสืบคดีเพื่อช่วยให้อีนิดรอดพ้นความตาย และก็ยังต้องหาว่าใครกันที่ตามเธอเป็นสตอล์กเกอร์

บทในซีซันนี้ จะแนะนำเอาต์แคสต์ชนิดใหม่ให้ผู้ชมได้รู้จัก พวกเขาถูกเรียกว่า เอเวียน ที่สามารถควบคุมนกได้ ในซีซันนี้ จึงพบอีกาตาเดียวที่คอยติดตามเวนส์เดย์อยู่ไม่ห่าง นอกจากนี้ ก็ยังมีไฮด์ มีกอร์กอน มีมนุษย์หมาป่า มีซอมบี้ ที่จะถูกพูดถึงมากหน่อย

และก็ไม่ใช่จะมีแต่ตัวละครใหม่ เพราะตัวละครเก่าก็ยังกลับมา ก็วีมส์ (Gwendoline Christie) อดีตครูใหญ่นั่นยังไง แม้จะตายไปแล้ว ก็ยังมีบทบาทในซีซันนี้

ความรู้สึกหลังชมซีซันสองของยัยวันพุธ

เวนส์เดย์เป็นตัวแทนของคนขี้สงสัยแต่ใจร้ายจริง ๆ เธอชอบกระโจนเข้าใส่ ไม่เกรงกลัวสิ่งใด เพราะตัวจะไม่มีพลังวิเศษ มีอย่างมากก็แค่นิมิตที่จู่ ๆ ก็หายไป เป็นที่รักและเป็นห่วงเพื่อนรูมเมทแต่ไม่อยากบอกให้อีกฝ่ายรู้ พยายามช่วยเหลืออย่างลับ ๆ แม้จะต้องโดนเข้าใจผิด เป็นเด็กสาวที่พยายามจะเป็นตัวเองอย่างที่สุด และอยากจะหลุดออกจากการควบคุมของพ่อแม่

ส่วนอีนิด ก็จะเป็นตัวแทนของเด็กสาวที่มีบุคลิกสว่างสดใส แต่ขณะเดียวกัน ก็กดดันเล็ก ๆ กับความแตกต่างของตัวเอง ในซีซันนี้ เราก็จะได้พบว่า ความแตกต่างนั้นมันไม่ใช่ข้อด้อย บทของมันบอกให้เราภูมิใจในความเป็นตัวเองเข้าไว้ ซึ่งจะเป็นขั้วตรงข้ามกับรูมเมทที่เป็นตัวเองเกินเบอร์ไปหน่อย

ช็อตที่น่าสนใจที่สุดของซีซัน คือ การสลับร่างสลับบุคลิกกันระหว่างเวนส์เดย์และอีนิด สองคนเล่นคาแรกเตอร์ของอีกคนได้โคตรเหมือน แถมยังมีตัวเชื่อมโยงอย่างยัยติ่งที่หายตัวได้ พูดถึงแอ็กเนสขึ้นมา เราก็จะเห็นว่า Evie Templeton สาวน้อยคนนี้เล่นได้โดดเด่น แทรกตัวขึ้นมาตัวละครสำคัญในซีซันอย่างนั้นเลย

ในซีซันนี้ เราจะได้เห็นงานถ่ายทอดเรื่องราวของไอแซค ซอมบี้สัตว์เลี้ยงของพักซลีย์ (ส่วนเขาจะกลายเป็นอะไรนั่นต้องไปค้นหาคำตอบเอาเอง) ที่ทำให้นึกถึงงานสต็อปโมชั่นอันเก่า ๆ ของ ทิม เบอร์ตัน ถ้านึกไม่ออกก็ลองไปชมงานอย่าง ‘Frankenweenie’, ‘Corpse Bride’ และ ‘The Nightmare Before Christmas’ กันดูนะ

8 ตอนของซีซัน 2 จบไปแล้ว ก็ได้แต่รอคอยซีซัน 3 กันต่อไปสินะ

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์