เมื่อวันเสาร์-อาทิตย์ (28 และ 29 ก.ค. 50) ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ไปมีส่วนร่วมอยู่ใน งานเทศกาลดนตรีที่น่าสนใจมางานหนึ่งครับ งานนั้น เป็นงานที่รวมเอาศิลปินที่เคยอยู่ในช่วงอัลเทอร์เนทีฟครองเมือง มาร้องและเล่นบนเวทีเดียวกัน ไม่น่าเชื่อว่า มันผ่านมา 10 ปีกว่าแล้ว นานมากทีเดียว…
เทศกาลดนตรีอัลเทอร์เนทีฟไทย
งานนี้จัดขึ้นที่ บางกอกฮอลล์ สวนลุมไนท์บาซาร์ 2 วันติด คอนเซ็ปต์งานนั้นน่าสนใจทีเดียว ไม่เคยมีใครคิดจัดงานแบบนี้เลย จนเวลามาผ่านมาเป็น 10 ปี แล้ววันหนึ่ง ก็มีคนคิดจัดขึ้น พวกเขาคือ กลุ่มคนที่จัดงาน โคตรอินดี้” นั่นเอง
วันเสาร์ ผมไปงานและอยู่แค่ช่วงแรก เพื่อแจกบัตรที่เอามาเล่นเกม เสร็จภารกิจผมก็กลับ ปล่อยให้น้องๆ เข้าไปเก็บภาพแทน และสังเกตเห็นว่า คนมางานนี้น้อยมาก แต่ก็คิดในทางที่ดีว่า คนคงทะยอยๆ มากัน
วันอาทิตย์ สี่โมงเย็น ผมไปที่งานอีกครั้ง วันนี้ ผมจะอยู่กับงานจนคิวสุดท้าย รอเวลาอยู่สักพักก่อนจะเข้าไปข้างใน และพบกับพื้นที่ว่างๆ ของฮอลล์ ซึ่งต่างจากปกติที่จะมีเก้าอี้วางเรียงเต็ม ผู้คนเริ่มทะยอยเข้ามาเรื่อยๆ แต่ก็พบว่า ไม่ถึงครึ่งฮอลล์ดีนักที่มีคนนั่งอยู่ นอกนั้นเป็นพื้นที่ว่างๆ มืิดๆ ยาวไปจนถึงประตูด้านหน้า
คนให้ความสนใจในงานนี้กันน้อยขนาดนี้เลยหรือนี่…?
คอนเสิร์ตครั้งนี้ เริ่มขึ้นหลังหกโมงเย็นไปกี่นาทีไม่ทราบได้ เพราะผมไม่ได้ดูเวลาแล้วในช่วงนั้น คอนเสิร์ตเล็กๆ ของกลุ่ม Room Sing ผมนั่งแหงนหน้านั่งดูจอวิดีโอขนาดใหญ่บนเวที เป็นบทสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ เกี่ยวกับงานครั้งนี้ ก่อนจะเป็นช่วงเวลาของเพลงสรรเสริญพระบารมี และตามมาด้วยการทำหน้าที่ของพีธีกรของงาน พล่ากุ้ง จากนั้นถึงจะเป็นการแสดงของวงต่างๆ เรื่อยไปจนจบงาน
แต่ละโชว์สร้างความประทับใจให้กับทั้งคนดูคนเล่นไม่น้อย ด้วยเพราะเพลงต่างๆ ที่เล่นนั้น ก็เป็นเพลงในยุคนั้นเสียส่วนใหญ่ ที่ส่วนมากก็ไม่ค่อยได้เล่นกันนัก บางวงนี่หายไปจากวงการเรียบร้อย เรื่องที่จะได้ดูคงไม่ต้องพูดถึง ศิลปินก็อิ่มเอมใจเมื่อมีคนร้องตามได้ แสดงว่าพวกเขาไม่เคยจางหายไปจากใจของคนที่เติบโตอยู่ในยุคนั้น
แต่เหตุใดงานต้องจบลงอย่างเครียดๆ … เมื่อคุณเฮง คนจัดงาน ออกมาพูดด้วยเสียงเครือๆ
“… ปี 2537 เป็นปีที่วงการเพลงไทยมีค่ายเพลงเกิดขึ้นมากที่สุด ปี 2550 เป็นปีที่ค่ายเพลงกำลังปิดตัวลงมากที่สุด”
“… ปี 2537 เป็นปีที่วงการเพลงรุ่งเรืองถึงขีดสุด ปี 2550 เป็นปีที่วงการเพลงไทย…แย่ที่สุด“
งานครั้งนี้ไม่บรรลุอย่างที่หวัง เมื่อดูจากจำนวนคนดูที่ต้องเรียกว่า “น้อยมาก” กับความผิดหวังตั้งแต่ช่วงของการเดินไปสปอนเซอร์ ที่เดินเข้าไปกี่รายๆ ก็ไม่มีรายไหนเอา มีเพียง สสส. ที่เคยช่วยงานกันไว้เจ้าเดียวที่เป็นสปอนเซอร์ นอกนั้นก็เป็นสื่อต่างๆ ที่ร่วมโปรโมต ขณะที่ศิลปินต่างๆ ก็มีการชักชวนกันมาเรื่อยๆ จนเกิดเป็นงานนี้ขึ้น ด้วยราคาบัตรที่ถือว่าไม่แพง 300 บาทสำหรับ 1 วัน 500 บาทสำหรับ 2 วัน ถ้าเฉลี่ยเป็นวงก็คงเหลือวงละไม่เกิน 20 บาท
สุดท้ายตอนจบ ก็ต้องบอกกับผู้ชมที่ยังอยู่ทุกคนว่า วันนี้ ต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากจะทำ เพราะงานนี้ “ขาดทุน” ครับ พวกเขาหยิบเอาเสื้องาน ป้าย และโปสเตอร์ ที่ทีมงานล่าลายเซ็นของศิลปินเพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกสำหรับตัวเองออกมาประมูล
บรรยากาศดำเนินไปอย่างเคร่งเครียด มีผู้ชมงานร่วมประมูลในมูลค่าที่สูงอย่างมากเพื่อช่วยผู้จัดงานเอาไว้ พร้อมทั้งรับบริจาคที่ทางออกเพื่อรวบรวมเงินไปจ่ายค่าต่างๆ ที่จ้างเขามา ตั้งแต่ดูคอนเสิร์ตมา ผมไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยสักครั้ง ครั้งนี้คงเป็นครั้งแรกเลยแหละ แต่สำหรับทีมงาน พวกเขาเคยเจอเรื่องแบบนี้มาแล้ว ในการจัดคอนเสิร์ตโคตรอินดี้หลายๆ ครั้ง
แต่งานนี้มันใหญ่โตมากกว่านั้นเยอะนะครับ…
ผมเดินออกมาด้วยการบริจาคเงินลงในกล่องด้วยแบงก์ร้อยใบเดียวในกระเป๋า เนื่องจากไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาช้อปซีดีเก่าๆ ในงาน ผมได้ช้อปซีดีไปเพียงชุดเดียวเท่านั้นก็หมดปัญญาช้อปต่อ เมื่อตังก์หมดกระเป๋า ผมก็เดินไปหาตู้เพื่อกดเอทีเอ็ม แล้วเรียกแท็กซี่…
กลับบ้าน…
———————-
ถ้าจะลองวิเคราะห์ถึงความล้มเหลวของการจัดงานครั้งนี้ คงเรียกได้ว่า มีหลายข้อทีเดียวที่พอจะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าว
– วันจัดงาน 28 และ 29 ก.ค. 50 เป็นช่วง long weekend จากวันหยุดอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา แน่นอนว่า คนน่าเลือกไปเที่ยวต่างจังหวัดกันมากกว่าจะมาดูคอนเสิร์ต เรียกได้ว่า เลือกวันจัดงานผิดนั่นเอง
– นอกจากนี้ การที่วันหยุดมันเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา งดเหล้างดยากัน ไม่มีใครมาดูคอนเสิร์ตแล้วไปแฮงต่อไม่ได้ อันนี้ อาจจะสำหรับบางคนนะ เพราะผมไม่แคร์เรื่องเหล้ายาปลาปิ้งอยู่แล้ว
– การจัดงานใหญ่ แต่อ่อนในด้านประชาสัมพันธ์ ถือว่ามีผลอย่างมากต่อจำนวนคนดู และเสี่ยงอย่างมากต่อการขาดทุน ยิ่งไม่มีสปอนเซอร์อย่างนี้ยิ่งเสี่ยงหนัก แต่ผู้จัดยังต้องเดินหน้าต่อ เพราะทุกอย่างมันเริ่มไปแล้ว
– การจัดคอนเสิร์ตรำลึกความหลังแบบนี้ ไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้นในเมืองไทย คอนเสิร์ตของวงดังในอดีตส่วนใหญ่ทำแล้วประสบความสำเร็จ แต่นั่นก็ต้องประกอบด้วยการตลาดที่เข้มแข็ง การโปรโมตที่ปูพรม และตัวศิลปินกำลังสุกงอมได้ที่กับการเรียกอารมณ์ร่วม เพราะต้องเข้าใจอย่างหนึ่งว่า คนมาดู ไม่ได้เป็นวัยรุ่นอีกแล้ว โตขึ้น ทำงานทำการ มีเมียมีผัวมีลูก กันไปหมดแล้ว จะให้มากระโดดเย้วๆ เหมือนวันเก่ามันชักจะยากแล้ว
แม้คอนเซ็ปต์มันดี แต่มันเป็นปัญหาว่า คนพวกนั้น จะเหลือรอดมาเป็นพวกที่ยังรักเสียงเพลงและการดูคอนเสิร์ตแบบวันเก่าอยู่สักเท่าไหร่ นั่นละเป็นปัญหา
ส่วนปัญหาอื่นๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั้น อาจเป็นปัญหาส่วนตัวซึ่งผมไม่อาจล่วงรู้ได้ แต่เท่านี้ ก็คงพอจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ความล้มเหลวของงานนี้ไดพอสมควร
ที่เหลือคงต้องเก็บไว้เป็นบทเรียนในการจัดงานในครั้งต่อๆ ไป ขอลงท้ายเอาไว้ตรงนี้ว่า
———————————
“ผมชอบคอนเซ็ปต์งานครั้งนี้มากๆ ผมชื่นชมมากๆ ที่พวกคุณคิดจะจัดมันขึ้นมา คนตัวเล็กๆ ที่อยากทำฝันของตัวเองให้เป็นจริง ไม่ว่างานนี้จะผิดพลาดยังไงก็ตาม ผมขอเลือกที่จะไม่ใส่ใจมัน”
เลือกวันผิด อันนี้เข้าใจถูกต้องครับ
ประชาสัมพันธ์อ่อน มากๆครับ
งานแบบนี้ถ้าเวิร์ค ถามว่า อย่าง Fat ทำไมไม่จัดล่ะ
ปัจจัยความเสี่ยงสูงมากๆๆๆๆๆ
นึกง่ายๆนะคับ สมัยก่อนตอนอัลเทอร์ดังๆ ผมยังนึกไม่ออกว่ามีคอนเสิร์อัลเทอร์ดังๆ
ให้ดูรึเปล่า แล้วมาจัดตอนนี้ใครจะมาดู
สเกลงานใหญ่เกินไปนะ ผมว่า
ถึงอย่างไรก็ขอเอาใจช่วยคนจัดนะครับ คุณมีความตั้งใจดี ก็อย่าเพิ่งท้อแท้
งานนี้ก็เป็นประสบการณ์กันไป
แต่ที่บอกว่าปี2550 เป็นปีที่แย่ที่สุดของวงการเพลงไทยนี่ ผมไม่เห็นด้วยครับ
อย่าไปยึดติดกับอดีตอันรุ่งโรจน์
วงเก่าๆที่กลับมาเล่นแล้วมีคนมาดูเป็นหมื่นๆ เยอะไปครับ ล่าสุดก็เฉลียง
อย่าลืมว่า อัลเทอร์เนทีฟไทยสมัยก่อนที่รุ่งโรจน์นั้น
ถามว่ามีกี่วงที่ขายเทปได้ ส่วนมากก็ละลายหายไป
อัลเทอร์เนทีฟยุคนั้นผมเองมองว่าเป็นกระแสนึงเท่านั้น
เหมือนยุคนึงฮิตเพลง Dance เพลง Rock ไรประมาณนี้
ไม่มีวงไหนของ อัลเทอร์เนทีฟไทย ที่มีสาวก ระดับจัดคอนเสิร์ตแล้วคนมาดูตึม
พี่ป้างไรนี่อย่าไปนับนะครับ แกน่ะเมนสตรีมเลย
งานนี้ผมเหมือนจะเคยได้ยินประชาสัมพันธ์แว่วๆมาจาก fat หรือเปล่า
ไม่แน่ใจนะครับ ตอนแรกฟังแล้วก็เกิดมีความคิดว่าอยากไปเหมือนกัน
เพราะผมก็เริ่มฟังเพลงไทยก็เพราะแนวนี้เลยล่ะ เลยยิ่งทำให้อยากไประลึกความหลังบ้าง
แต่ติดช่วงสอบพอดีเลยทำให้ผมไม่ได้ไป แต่ถ้ามีโอกาสก็จะไปให้ได้ครับ(อาจจะสายไปสำหรับผม)
ส่วนสาเหตุที่คนไม่ได้ไปอาจจะเป็นเพราะวันหยุดครับ
ส่วนเรื่องเหล้ายาผมว่างานของ สสส. เค้าห้ามอยู่แล้วคิดว่าไม่น่าจะมี ถ้ามีบ้างก็น้อยมาก แต่เรื่องจะไปต่อคงมีบ้างล่ะน่าจะเป็นเรื่องธรรมดา เพราะผมเคยไปงานโคตรอินดี้อยู่
แต่เรื่องที่สำคัญที่ผมคิดคือกลุ่มผู้บริโภคครับ ผมคิดว่าส่วนมากฟังตามกระแสมากกว่า
ปล.ผมรู้สึกเสียใจร่วมกับเหตุการ์ณที่กิดขึ้นด้วยนะครับ ผมไม่คิดว่าจะจบลงแบบนี้
ไม่ไปอ่ะ ไปดูหนังบางกอกฟิล์ม แต่ก็เห็นใจเค้านะ
ผมคนนึงล่ะ ที่ไม่ได้ข่าวอะไรเลยเกี่ยวกับงานนี้ครับ
มีเห็นผ่านตาตาม blog นิดหน่อยเท่านั้น
แต่ก็ยังอยากให้เป็นประสบการณ์เพื่อมีการแก้ตัวครั้งหน้านะครับ
สู้ๆครับ
อ่านแล้วรู้สึกเห็นใจผู้จัดงานนี้มากๆ เป็นคอนเสิร์ตใหญ่ที่ผมประทับใจมากที่สุดในชีวิต
ผมโตไม่ทัน ที่จะได้อยู่ในบรรยากาศในยุคนั้น มาตามย้อนหลังเอาตอนที่มันล่มสลายไปแล้ว
นี่เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นวงเหล่านั้นเล่นสดพร้อมๆกัน ผมชื่นชมคนจัดมากๆ
และรู้สึกเสียใจมากที่รู้ข่าวนี้ และผมก็ไม่ได้เตรียมเงินไปเท่าไหร่ เลยช่วยเท่าที่จะช่วยได้
ยังไงก็ขอบคุณพี่ pat นะครับ สำหรับบัตร และความเป็นมิตร ไว้งานหน้าเจอกันอีกนะครับ
ขอเป็นกำลังใจให้พี่เฮงและกลุ่มโคตรอินดี้ที่จัดงานนี้ขึ้นมานะครับ
ไม่รู้เรื่องเลยครับ อยากให้มี VCD หรือ DVD เหมือน อ๊าก ว๊าก จ๊าก มันโคตรๆ
ประชาสัมพันธ์น้อยไปนิด !! ผมเล่น Net ทุกวัน ดู TV ไปด้วย ไม่เคยได้ข่าวเลย.. แต่ขอชื่นชมว่าเป็นงานที่ Idea ดีเลยหล่ะ !!
…
..
.
ได้ข่าวงานนี้ตาม board ประชาสัมพันธุ์งานมาพักนึง
ตอนแรกตั้งใจ หมายมั่นว่าจะไป ..
แต่พอเอาจริงๆ หยุดยาวๆแบบนี้ ก็กลายเป็นว่าเวลาที่มีอยู่น้อยนิด
เราต้องสละให้ครอบครัวมากกว่า ..
เลยอดไป .. ฟังแล้วใจหาเนาะ .. ปีหน้าสู้ๆ เอาใหม่จ่ะ
…
…
..
.
ได้ข่าวงานนี้ตาม board ประชาสัมพันธุ์งานมาพักนึง
ตอนแรกตั้งใจ หมายมั่นว่าจะไป ..
แต่พอเอาจริงๆ หยุดยาวๆแบบนี้ ก็กลายเป็นว่าเวลาที่มีอยู่น้อยนิด
เราต้องสละให้ครอบครัวมากกว่า ..
เลยอดไป .. ฟังแล้วใจหาเนาะ .. ปีหน้าสู้ๆ เอาใหม่จ่ะ
…
ข้อมูลดีๆ จากงานคอนเสิร์ตินี้เพิ่มเติมได้ที่….
http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=weravong&topic=1288&page=3
ได้ไปชมคอนเสิร์ตในครั้งนี้ จากความไม่ตั้งใจ เพราะเข้าไปหาบัตรชมคอนเสิร์ตงานอื่นใน Thaiticket master เห็นว่าบัตรราคาถูก ก็เลยซื้อไว้3 ใบ ยุคอัลเทอร์เนทีฟ ซึ่งบังเอิญเกิดทันยุคนั้นพอดี ศิลปินก็เป็นทีรู้จักบ้าง ถึงแม้จะไม่ทุกวงก็ตาม แต่เป็นคอนเสิร์ตที่สนุกดีนะ ถึงแม้ว่าตอนจบมันจะ โค-ตะ-ระ เครียดเลย แต่ก็เข้าใจว่าผู้จัดคงไม่มีเจตนาทำแบบนี้ แต่ก็คงไม่มีทางเลือก เราไม่ได้เตรียมเงินไปมากมาย เลยไม่สามารถช่วยผู้จัดได้มากมายเท่าใด เป็นกำลังใจให้ผู้จัด คุณเฮง คุณพล่ากุ้ง นะ อยากบอกว่าคุณแน่มาก
แต่คุณต้องเข้าใจว่าการประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่สำคัญ คนส่วนใหญ่อยากไปดู แต่ไม่รู้เรื่องก็คงมีเยอะ อย่างเรา ถ้าหากไม่ไป Thaiticket ก็คงไม่รู้ ฉะนั้นการอ่อนประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างมากสำหรับคุณ (ลองคิดดู เป๊ปซี่ยอมทุ่มโฆษณาตั้งเท่าไหร่เพื่อจ้างนักเตะดังๆ มาเป็นพรีเซนเตอร์ ทั้งๆ ที่ค่าตัวนักเตะเหล่านั้นแพงโคตร) คุณเห็นหรือยัง เพียงแค่ผู้ผลิตต้องการให้ผู้บริโภคเห็นสินค้าเขาบ่อยๆ เท่านั้น
แต่ยังไงก็ขอชมผู้จัด เพราะเราชอบมากๆๆๆๆๆ
ปีหน้าถ้ามีงานแบบนี้อีก เราไม่พลาดแน่…..สู้ๆ เป็นกำลังใจให้นะ
อย่าท้อ…..”อดทนเวลาที่ฝนพรำอย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง เมื่อวันเวลาที่ฝนจากฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ”
ไปวันเสาร์28วันเดียว วันอาทิตย์ไม่ได้ไป
เหตุการณืวันอาทิตย์เปนเหตุการณืที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย แต่ก็ถือเปนประสบการณ์อย่างนึง
เปนกะลังใจให้ จัดงานดีๆ แบบนี้ต่อไปน่ะ
คราวหน้าต้องดีขึ้นแน่ๆ
น่าเห็นใจแต่ทำไงได้ แนวดนตรีแบบนี้ ผมก็ชอบนะ เพราะฟังแม่งทุกแนวอยู่แล้ว ไอ้เรื่องความมันนะใช่เลย
เห็นด้วยเลย เรื่องการเลือกวันผิด สองวันนั้นเป็นวันหยุดยาว ข้าราชการหยุดถึง 4 วัน ด้วยซ้ำ คนก็อยากพักผ่อนให้เต็มที่ ไปเที่ยวต่างจังหวัด กลับบ้าน หนำซ้ำยังเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาอีก คนไทยเรายังเห็นการเข้าวัดเข้าวา เวียนเทียนกันอยู่เยอะนะ
อีกอย่างเรื่องกระแสอัลเทอร์เนทีฟมันมลายหายไปแล้ว มันแตกแขนง และแตกหน่อเป็นแนวเพลงใหม่ ๆ ที่เราพบเจอได้ในสมัยนี้ ซึ่งเด็กวัยรุ่นซึ่งเป็นผู้ที่จะบริโภคคอนเสิร์ตแบบนี้ เค้าไม่รู้ว่าคืออะไร บวกกับยิ่งไม่ประชาสัมพันธ์ ก็เลยไม่มีคนไป
ส่วนเรื่องที่ว่า ปี 2550 วงการดนตรีแย่ที่สุด นี่ไม่เห็นด้วยเลยนะ วงดี ๆ มีเยอะ และดังมาก ๆ อย่าง Titanium , ก้านคอคลับ , Sqwezz Animal , Flure , Potato ฯลฯ
ส่วนในยุคนั้น เห็นด้วยกับคนข้างบนเลยนะ ที่ดี ๆ จริง ๆ มีน้อยมากนะ และที่คนฮิตก็ยิ่งน้อยเข้าไปอีก วัยรุ่นสมัยนั้น คลั่งไคล้วงจากอเมริกา , อังกฤษมากกว่า อย่าง Oasis , Blur , Suade , Shed Seven , Kula Shaker ฯลฯ ซึ่งเทรนด์มันเป็นแบบนั้นมากกว่า วงไทยที่กำเนิดมาเป็นอัลเทอเนทีฟ ส่วนใหญ่จะดับ อย่างวงดี ๆ อย่าง เธอ , สี่เต่าเธอ , The Must , วาสนา แล้ววงอะไรอีกไม่รู้จำชื่อไม่ได้ แต่โคตรชอบ (ต้องกลับไปดูปกเทป) เดี๋ยวนี้ก็หายไป เพราะกระแสหลักมันเปลี่ยนไปแล้ว
ดังนั้น งานนี้อ่อนประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่อ่อนในแง่ ไม่ประกาศให้คนรู้ว่ามีงานนี้ แต่อ่อนในแง่ที่ไม่สื่อว่า อัลเทอร์เนทีฟ มีอิทธิพลอย่างไรกับวัยรุ่นยุคนั้น อัลเทอร์เนทีฟมันกำเนิดมาจากอะไร มันไม่ทำให้วัยรุ่นอยากรู้ว่า เฮ้ย นี่มันน่าสนใจนี่นา นี่มันเป็นจุดเริ่มต้นของเพลงสมัยใหม่นี่นา โมเดิร์น ด๊อก เกิดยุคนั้น พอส เกิดยุคนั้น แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมกระแสมันถึงซาไป มันไม่กระตุ้นต่อมนั่นเอง พอได้ยินว่ามีงาน ก็ เหรอ ๆ เออ ๆ ก็น่าสนใจดี แต่คงไม่ไปหรอก ประมาณนี้ครับ
comment ไปแล้วอาจจะโดนยำ
concept ดีครับ
แต่หลายๆ วงที่มา ผมว่า “คุณภาพ” ไม่ถึง
แม้ความคิดช่วงนั้น
ผมว่าหลายๆ วงที่มา ตอนสมัยอินดี้เฟื่องฟู
ผมยังคิดเลยว่า เป็น “ตัวปลอม”
(แม้ว่าจะมี “ตัวจริง” เข้าร่วมไม่น้อยเหมือนกัน)
ก็เลยตัดสินใจไม่ไป (ไม่ถึงกับต่อต้าน แต่ขี้เกียจ)
ไม่ล้มเหลวนะได้ใจเราเลยทีเดียว
ยุคนั้นเลย
แต่ว่าไม่ได้ไป ทั้งที่ตอนแรกก็อยากจะไป
แต่ด้วยบรรยากาศบางอย่างในหลายเดือนๆที่ผ่านมา
ก็เลยไม่มีอารมณ์ที่จะไปงานทำนองนี้
เลยไม่ได้ไป
อ่านแล้วก็เห็นใจคนจัดนะ
เห็นด้วยกับคอมเม้นต์ของคุณ badzboy อย่างมาก ๆ ค่ะ
เป้นคน คนหนึ่งที่อยู่ร่วมในงานนี้เหมือนกัน
ได้ร่วมงานทั้ง 2 วัน
ถ้าถามความรู้สึกนี่ต้องบอกว่า ประทับใจกับงานนี้อย่างมาก ๆ รู้สึกได้รับความสุขจากงานนี้อย่างมากมาย
แต่หลังจาก ศิลปิลทั้งหมดลง จากเวที
แล้วคุณเฮงได้ขึ้นไปพูด สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากคอนเสิร์ตจบ ทำให้เรารู้สึกว่า เราต้องแบกความทุกข์กลับมาบ้านด้วย …
จริงๆ ต้องบอกว่า เข้าใจ และเห็นใจผู้จัด
งานนี้ต้องบอกว่าคอนเซ็ปต์งานดีมาก ๆ
แต่ ถ้าให้พูดกันตรง ๆ ก็ต้องนึกถึงความเป็นจริงปัจจุบัน อย่างที่คุณbadzboyคอมเม้นต์ไป
ที่สำคัญงานนี้เราว่าอ่อนประชาสัมพันธ์ด้วย แล้วก็ จัดงานใหญ่มากเกินไปหรือเปล่า …
ปี2550 ไม่ได้เป็นปีที่แย่ที่สุดของวงการเพลงไทยนะค๊ะ ต้องมองในความเป้นกลางด้วยนิดนึง
แต่ยังไงก็ต้องเป็นกำลังใจกับผู้ร่วมกันจัดงานนี้ทุก ๆ คนด้วย
เคยฝันว่าวันหนึ่งจะต้องมี เคยคิดตั้งชื่อเล่นๆด้วยซ้ำ “20 ปลายๆ 30 ต้นๆ หวนคิดถึงยุค อัลเทอร์เนทีฟ คอนเสิร์ต” มารู้ว่ามีตอนมันจบไปแล้ว อ่อนประชาสัมพันธ์มากๆ และวงดีๆยุคนั้นก็มาน้อย
ไปดูมาทั้ง 2 วัน ถ้าจัดอีกก้อจะไปอีก
เหตุการณ์ตอนจบไม่ขอพูดถึง แต่เป็นกำลังใจ คุณเฮง-กลุ่มโคตรอินดี้ และศิลปินที่มาทุกๆ คน
ขอบคุณมากๆ ที่จัดงานนี้ขึ้นมา
ทำให้เรานึกถึงความสนุกสนานสมัยนั้น
เพลงที่เราลืมไปแล้ว แต่พอคุณเล่นขึ้นมา เรากลับร้องตามได้
และต้องขอโทษที่กระโดดสู้ไม่ไหว มันผ่านมา 10 ปีแล้ว
ตดตามมาตั้งแต่ การเล่นรวมศิลปินที่ ฟีบัซ-รัชดา rca เที่ยงวัน-เที่ยงคืน
ถ้าหากยังมีกำลังใจทำต่อในครั้งหน้า
สัญญาว่าจะไปดู ส่งเมล์มาหาเลยก้อได้ว่าจะมีงาน
เพราะรู้ว่างบในการ ปชส. มันน้อย
แต่อย่าเพิ่งถอดใจไปนะ ยังมีคนีกลุ่มที่จะติดตามผลงานอยู่ ถึงแม้จะมีเพียงน้อยนิด
คราวหน้าถ้าจะจัด ขอเป็นที่เล็ก ๆ ให้มันอบอุ่นหน่อยดีมั้ย
เราจะได้ใกล้ชิดกัน ให้สมกับที่รอมานาน
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ
อ้อขอโทษที ลืมให้
g_jorjeab@hotmail.com
อ้อขอโทษที ลืมให้
g_jorjeab@hotmail.com
ไปดูมาทั้ง 2 วัน เป็นอะไรที่มันโครต แต่ตอนจบไม่เป็นไปตามที่คิต
แต่ไม่เป็นไร
เชื่อว่าทุกคนที่ไปงานนี้อยากให้มีคอนเสริตอย่างนี้อีก
และอย่าลืม DVD มีเมื่อไรชื้อแน่
ของแท้ด้วย
ไปดูมาทั้ง 2 วัน เป็นอะไรที่มันโครต แต่ตอนจบไม่เป็นไปตามที่คิต
แต่ไม่เป็นไร
เชื่อว่าทุกคนที่ไปงานนี้อยากให้มีคอนเสริตอย่างนี้อีก
และอย่าลืม DVD มีเมื่อไรชื้อแน่
ของแท้ด้วย
สวัสดีครับเพื่อนๆผมได้อ่านที่เพื่อนๆได้เขียนถึงงานครับ
ขอบคุณมากๆครับผมจะนำไปปรับปรุง
นี้ก็จะ 2 ปีแล้ว มันยากมากครับในการที่จะทำให้มันเกิดงานอีกครั้ง..
แต่ใจมันรักครับ..และคิดถึงมันมากจนทำให้ผมทนไม่ไหวครับ
ปี 2552 เทศกาลดนตรีอัลเทอร์เนทีฟไทยจะกลับมาอีกครั้งครับ
ภายในเดือน กรกฏาคม เจอกันครับผม…ขอขอบใจทุกคำติชม
ขอบคุณครับ..เฮง
ผมรู้สึกเสียดายมากๆ…ถ้าผมรู้ผมจะไปให้ได้ เพราะมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไป ตอนวัยรุ่นอีกครั้ง แต่ฟังจากพวกคุณคอมเมนต์ แล้วทำให้ผม..งง..
มากแต่ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น มีเหตุผลหลายอย่างที่ทำให้งานมัน..แง่ว..
แต่ก็ขอชมเชยและให้กำลังใจ..ผู้จัด..ว่ามีความตั้งใจดี และอยากให้มันเกิดขึ้นอีกสักครั้งหนึ่ง
ลืมอ่าน เดือนกค.วันที่เท่าใด… ครับ…คุณพี่ กรุณาแจ้งให้ทราบด้วย
จักขอบคุณมาก ตอนนี้ผมอยู่ ต.จ.ว ขอรับ
มีจริงอ๊ะป่าวคะ พี่เฮง อยู่ตจว.เหมือนกัน ไม่ค่อยรู้เรื่องกะเค้าหรอก แต่ชอบมากกกกกกก ใจมันรักอ่ะคะ ถ้ามีก็ดีนะ เป็นกำลังใจให้เสมอ เพราะเรามันคออัลเทอร์ฯเหมียนกัน
ผมก็เปนอีกคนที่ชอบพลงยุคนี้ ถ้าเพื่อนๆคนไหนเล่นhi5
แวะมาเข้ากลุ่ม Alternetivethai กันนะคับ
แลกเปลี่ยนความคิดเหนกัน ลำลึกถึงความหลังครั้งเก่า
เสียดาย แต่ไม่เคยได้ยินเลยว่ามีจัดงานนี้ เพ่งมาได้ยินก็งานจบไปแล้ว
ผมว่าถ้ามีการประชาสัมพันธ์ ทางโทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน๊ต ป่านนี้คนมาเพียบครับ ยุคนู้นได้ผมอยู่ ม 1 พอดี มี the must แล้ว ออดี้ ไปโดดมาหลายงาน ครั้งที่ซีคอน มันมากครับ จำได้ต้องใส่รองเท้าซิปปี้หนังออกแก้วๆหน่อย เดฟนิดๆ แนวมาก แล้วมอกะจายดังมากๆ ชุดแรกแล้วก็หายจากไป
ช่วงนั้นวงอัลเตอร์ มากมาย ใต้ดินก็เยอะ รู้สึกมันกว่าตอนนี้อีก
ป.ล. วันเวลาแต่ละยุคมันช่างผ่านไปรวดเร็วจริงๆ
ได้ไปงานนี้มาเหมือนกันค่ะ ไปกับกับน้องสาวและน้องชาย ที่บ้านสาวกอัลเทอร์ กันทั้งห้าคน
ในส่วนตัวแล้วชอบคอนเสิร์ตนี้มาก ถึงแม้จะได้ไปวันอาทิตย์วันเดียว แต่คอนเสิร์ตสุดยอดมากค่ะ งานที่จัดถึงจะทุนน้อย แต่ก็มันก็แบบอัลเทอร์นะคะ ีไม่มีสื่อ ไม่มีโฆษณา เพียวมากๆ ศิลปินก็มาเล่นแบบด้วยใจ(ในความรู้สึกนะ)ไม่ได้มาแบบแนวจะขายของ คนที่มาออกร้านขายซีดี เสื้อยืด ก็แบบสาวกอัลเทอร์สุดๆ
อยากจะบอกว่า ถ้ามีใครมีำำกำลังใจและ กำลังทรัพย์จะจัดอีก บอกมานะคะ อยากช่วย อยากให้มันเกิดขึ้นอีก
เป็นกำลังใจให้นะคะ่ อยากให้ศิลปินเพลงแนวนี้มีกำลังใจทำผลงานต่อไป
สวัสดีครับเพื่อนๆๆขอบคุณทุกคำแนะนำ…และใกล้ถึงเวลาการกลับมาอีกครั้ง…เทศกาลดนตรีอัลเทอร์เนทีฟไทยอีกครั้ง…..คิดถึงทุกๆๆคนครับ
อยากติดต่อกับคุณเฮงครับ eba_oat@hotmail.com
ถ้ามีงานแบบนี้อีกบอกนะครับ ผมจะไป ชอบมากแต่ไม่่อยทราบข่าวอะ
10 ปีที่ผมหายไป 19 ส.ค.นี้เรากลับมาพบกัน
U” BEER ร่วมกับ HEAVY ORGANIZER
จะพาคุณย้อนกลับไปเป็น “#เด็กเทป” ดนตรีแฟชั่น 90’s (#อัลเทอร์เนทีฟ)
โปรฯ สุดคุ้ม 2 ใบ 1,800 บาท ถึง 3 ส.ค. จากราคาใบละ 1,200 (บัตรมีจำนวนจำกัด)
แล้วไปโดดกันวันเสาร์ที่ 19 สิงหาคมนี้ ที่ JJ Mall JATUJAK (เจ.เจ. มอลล์ จตุจักร) 15:00-24:00น.
ศิลปิน : #เสกโลโซ/ #Paradox/ #SmileBuffalo/ #YokeePlayboy/ #พราว/ #อรอรีย์/ #สี่เต่าเธอ/ #SickChild/ #NurserySound/ #StudentUgly/ #สุกัญญามิเกล/ #TNT/ #อัยย์/ #พองพอง/ #ดาจิม
ซื้อบัตรได้ที่ 7-11ทุกสาขา และ http://www.allticketthailand.com
เวลาไม่สามารถกรอกลับหน้าเอ หน้าบีได้ “เด็กเทป” จะพาคุณกรอกลับไปเอง..ชาว 90’s ห้ามพลาด..
ติดตามข่าวสารได้ที่ http://www.facebook.com/Dektape
จัดโดย HEAVY ORGANIZER