ภารกิจของผมในทุกวันนี้เยอะแยะ จนบางทีจะออกมาดูหนังทีนึง 2 เรื่องติดต่อกันในวันเดียว ก็ทำไม่ได้ จำเป็นต้องตัดลงเหลือเพียงเรื่องเดียว ซึ่งคราวนี้เป็นหนังไทยจากค่าย หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม และเป็นหนังที่คุณเพชร พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร แยกออกมากำกับฯ เดี่ยวๆ หลังเคยสร้างความประทับใจกับ ‘สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ารัก’ มาแล้ว
อย่างที่รู้กันว่า ช่วงนี้หนังไทยเอาใจสาววัยสามสิบนั้นมี 2 เรื่อง และนี่คือเรื่องแรก ’30+ โสดออนเซล’ ที่ผมไปชมมา และหยิบมาเขียนถึงให้อ่านกันครับ และแน่นอน โรงหนังที่ไปชมคือ โรงที่ 7 ของ Paragon Cineplex ที่คุ้นเคยกันนั่นเอง
ครั้งเลือกเข้าไปดูโดยไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก แต่ก็หวั่นๆ อยู่บ้างจากคำบอกเล่าของเพื่อนๆ หลายคนในไทม์ไลน์ จนได้เวลาสัมผัสด้วยตาตัวเองในโรงนั่นแหละ
รีวิวหนัง ’30+ โสดออนเซล’
เรื่องราวของสาวช่างภาพวัยล่วงเข้า 30 วิมานที่เฝ้าฝันจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่รักและรอคอยกลับล่มสลาย กลายเป็นสาวโสดอีกครั้ง และพยายามเหลือหลายที่จะตะกายหนีจากคำว่า “ขึ้นคาน” นี่คือภาพของสาวสมัยนี้บางคนกำลังเจอะเจอและกำลังเป็น (แต่ไม่ใช่ทุกคนหรอกครับ) มันจึงดูเป็นพล็อตที่หนังอย่าง ‘รถไฟฟ้ามาหานะเธอ’ นำมาใช้และประสบความสำเร็จอย่างสูง
คราวนี้เป็นทีของ อิง (พลอย เฌอมาลย์) จะเล่าเรื่องราวของตัวเองบ้าง เธอมีเพื่อนสนิทสองคน คนหนึ่ง ไม่มีดีที่หน้าตาแต่มีความมั่นใจเกินร้อย ย้งยี้ (สุดารัตน์ บุตรพรม – ตุ๊กกี้ ชิงร้อย) กับสาวหน้าตาดีขาวสวยหากแต่ก็มั่นเกิน อย่าง (เจี๊ยบ พิจิตรา) ที่สร้างสีสันให้กับหนังเป็นอย่างยิ่ง คนหนึ่งก็ไปทางมุขตลก อีกคนก็ไปทางสวยรั่วๆ ขณะที่พลอยกลับได้ทั้งบทตลกและดราม่า อิง ผิดหวังอกหักจนต้องพึ่งหมอดู และนั่นทำให้เธอได้เจอกับ จืด (เป้ อารักษ์) เจ้าของร้านหมูปิ้งที่เปิดบริการหมอดูเป็นอาชีพเสริม ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นเพื่อนของอิงในเวลาต่อมา
ทว่า ผู้ชายในชีวิตของสาวโสดวัยสามสิบไม่ได้มีแค่จืด เพราะยังมีผู้ชายในสเป็คของอิงอย่าง แทน (เดิมพัน อยู่วิทยา) เศรษฐีหนุ่มผู้มีความเป็นศิลปิน ซึ่งดูเขาก็เอ็นดูอิงอยู่ไม่ใช่น้อย
ภารกิจหลีกหนีความโสดครั้งนี้จะสัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ติดตามได้ในหนังเองแล้วกันนะครับ
สำหรับผม ความประทับใจกับหนัง 30+ โสดออนเซล ผมให้คะแนนเน้นหนักไปที่ตัวนักแสดงเสียมากกว่า แม้ผมจะไม่ได้ชอบนักกับลีลาการแสดงของพลอย แต่ความน่ารักประจำตัวนี่ ทำให้อดมีความสุขไปกับท่าทางและรอยยิ้มของเธอไม่ได้สักที ขณะที่เพื่อนสนิทอย่าง เจี๊ยบ พิจิตรา กลับกลายเป็นตัวแย่งซีนไปเสียหมด ทุกฉากที่เธอเข้า ออร่าที่ส่องออกมาทำให้เธอเด่นดึงดูดสายตาไปที่เธอจุดเดียวโดยปริยาย ส่วนตุ๊กกี้ เรื่องนี้ไม่ค่อยจะสร้างความฮา (ให้กับผม) สักเท่าไหร่ แต่ดีที่ยังพอมีส่วนกับการดำเนินเรื่องอยู่ ต่างกับตัวละครของเจี๊ยบ ที่ไม่มีผลอะไรกับเรื่องราวเลย
ตัวละครอีกตัวที่ผมว่า น่ารักดี คือ ตัวน้องสาวของจืด แม้บทจะไม่มากนัก แต่ดูน่ารักแบบวัยรุ่นๆ ซึ่งก็ไม่มีผลอะไรกับเรื่องเช่นกัน
มุขในหนังส่วนใหญ่ค่อนข้างเป็นมุขแป้ก (สำหรับผม) แต่ผมก็เห็นหลายคนในโรงหัวเราะคิกคักให้กับมัน แสดงว่ามันก็คงจะถูกจริตกับหลายๆ คนพอสมควร ความประทับของบทกลับมีในช่วงท้าย ที่พอได้ซึ้ง และพอมีบทพูดที่โดนๆ อยู่บ้าง แม้จะไม่ถึงขั้นน้ำตาไหลพรากๆ หรือซึมลึกแม้เมื่อออกมานอกโรงก็ตามที
ปิดท้ายด้วยเรื่องของเพลงประกอบ ซึ่งผมว่าทำออกมาได้ดีพอควร โดยเฉพาะ 2 เพลงที่ร้องโดย ตู่ ภพธร เห็นเครดิตขึ้นว่าเป็นผลงานของพี่จิก ประภาส ชลศรานนท์ ก็สมควรเพราะอยู่
หนังเรื่องนี้ จึงกลายเป็นหนังที่ขายนักแสดงมากกว่าบท ขายมุขแป้กมากกว่ามุขฮา ทว่า ก็ดูได้เพลินๆ นะ
ชื่อเรื่อง : 30+ โสดออนเซล / 30+ Single On Sale
ผู้กำกับภาพยนตร์ : พุฒิพงศ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร
ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : พัลลภ สินธุ์เจริญ, วรลักษณ์ กล้าสุคนธ์
นักแสดงนำ : พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, เจี๊ยบ พิจิตรา สิริเวชชะพันธ์, เป้อารักษ์ อมรศุภศิริ, ต้น-เดิมพัน อยู่วิทยา, สุดารัตน์ บุตรพรม
แนว/ประเภท : Comedy, Romance
เรท : ท
ความยาว : – นาที
ประเทศ : ไทย
ปี : พ.ศ.2554
ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย : หัวฟิล์มท้ายฟิล์ม, สหมงคงฟิล์ม
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย : 13 ตุลาคม 2554
