รีวิวหนัง Cleaner ไต่ระทึก ตึกนรก | ถึงพล็อตจะเชย แต่บู๊ระห่ำดีนะ

หลังโด่งดังจากการเป็นเรย์ในมหากาพย์สตาร์วอร์ส เรายังได้เห็นผลงานใหม่ของ เดซี ริดลีย์ ตามมาอยู่เป็นระยะทว่ายังไม่มีหนังเรื่องใดเปรี้ยงปร้าง ในปีนี้ เธอก็มีอีกหนึ่งผลงาน เป็นหนังแอ็กชันทริลเลอร์ที่เล่าเรื่องของคนเช็ดกระจก ‘Cleaner’ หรือชื่อไทย ‘ไต่ระทึก ตึกนรก’ เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนตึกสูง มีการขู่วางระเบิด และคนเล็กๆ อย่างเธอกลายเป็นคนกอบกู้สถานการณ์

คิดเห็นเช่นไรกับหนังเรื่องนี้?

หนังแอ็คชันทริลเลอร์ที่เล่าเรื่องของอดีตทหารสาวที่กลายมาเป็นนักโรยตัวเช็ดกระจกบนตึกสูง แต่ดันบังเอิญติดแหง็กอยู่ข้างตึกในคืนก่อการร้ายจับตัวประกันเพื่อหวังเปิดโปงธุรกิจพลังงานพอดี จึงกลายเป็นผู้กอบกู้สถานการณ์เลวร้ายไปโดยไม่ได้ตั้งใจ ด้วยสถานการณ์มันดูคล้ายหนังดายฮาร์ทไปหน่อย

หนังเล่าเรื่องด้วยบทที่แสนเชย แต่ทดแทนมาด้วยลีลาพะบู๊ที่ได้ใจ เดซี ริดลีย์ กลายเป็นสาวมาดเท่ที่ต้องช่วยทั้งตัวประกันและน้องชายออทิสติกของตนเอง

เรื่องย่อหนัง ‘Cleaner’

เกิดเหตุก่อการร้ายขึ้นกลางกรุงลอนดอน ที่ตึกแอกเนียนทาวเวอร์ อาคารสำนักงานของมหาอำนาจด้านพลังงาน นักประท้วงก่อการกลางงานกาล่าด้านพลังงานเพื่อหวังเปิดโปงความชั่วช้าสู่ชาวโลก ทั้งยังขู่ว่าจะระเบิดทั้งตึก งานนี้เลยต้องมีฮีโร่มาช่วยกอบกู้

โจอี้ (Daisy Ridley จากหนังเรื่อง ‘Murder on the Orient Express’) อดีตทหารหญิงที่ทิ้งชีวิตความระห่ำไว้ข้างหลัง และเริ่มต้นใหม่กับการเป็นนักโรยตัวเสี่ยงอันตรายเช็ดกระจกบนตึกสูง 1,000 ฟุต แต่เรื่องง่ายกลับกลายเป็นยาก เมื่อเธอต้องพา ไมเคิล (Matthew Tuck) น้องชายที่เป็นออทิสติกไปอยู่ในนั้นด้วย แล้วโจอี้จะทำงานยากนี้ไม่ให้เกิดความสูญเสียได้อย่างไรกันนะ

รีวิวหนัง ‘ไต่ระทึก ตึกนรก’

ถ้าพูดถึงงานของ Martin Campbell หลายคนอาจเคยผ่านมาแล้วกับผลงานอย่างหนังเจมส์ บอนด์ รุ่นลายคราม ‘Casino Royale’, ‘GoldenEye’ หรืองานระยะหลังๆ อย่าง ‘The Foreigner’ และ ‘The Protégé’ ก็ต้องนับว่า เขาเป็นผู้กำกับที่ยังพอมีชื่ออยู่บ้าง

ครั้งนี้ เขาได้บทหนังที่เล่าเรื่องของนักโรยตัวเช็ดกระจกผู้หยุดยั้งเหตุก่อการร้ายบนตึกสูงมาอยู่ในมือ แต่มันช่างดูไม่ต่างอะไรกับการดูหนัง ‘Die Hard’ อีกภาค เปลี่ยนแค่ตึกใหม่ สถานการณ์ใหม่ กับตัวเอกที่เป็นเพศหญิง

บทหนังเขียนให้หญิงสาวอดีตทหารนาวิกต้องหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นสาวนักเช็ดกระจกบนตึกสูง แถมเขียนให้เธอต้องคอยดูแลน้องชายที่เป็นออทิสติกผู้เก่งเรื่องแฮ็กจนต้องถูกไล่ออกจากสถานดูแลฯ แล้วเธอก็ดันบังเอิญมาติดแหง็กอยู่นอกอาคารในช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ร้ายอย่างพอดิบพอดี

ด้านผู้ก่อการร้ายก็เลือกเอาวันงานกาล่าที่จัดขึ้นในตึกที่ทำการเป็นวันลงมือ มีแขกเหรื่อราว 300 ชีวิตร่วมงาน พวกเขาทำตัวเป็น activist ที่อยากจะเปิดโปงการประกอบธุรกิจพลังงานอย่างไม่รักษ์โลกและฉ้อฉล จับคนร่วมงานเป็นตัวประกัน ขู่ว่าจะระเบิดและฆ่าพวกเขา บีบให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดต้องเปิดปากสารภาพและอัดคลิปเก็บไว้

และด้วยความหนังเล่าถึงนักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมโลก ทำให้บทหนังบางส่วนพูดถึง เกรต้า มูฟเมนต์ และที่สำคัญคือ นักข่าวหิวแสงอย่าง เพียร์ซ มอร์แกน ซึ่งก็ทำให้เราคนดูนั่งขำได้พอประมาณเหมือนกัน

งานนี้ Clive Owen น่าจะได้บทสำคัญเพราะเป็นชื่อที่คุ้นหู แต่ดูเหมือนคนที่โดดเด่นกว่าจะเป็น Taz Skylar (จากซีรีส์ ‘One Piece’) ผู้รับบทเป็นโนอาห์ในเรื่อง และแม้กลุ่มผู้ก่อการร้ายจะมาเป็นแก๊ง แต่โนอาห์กลับแย่งซีนทุกคนไม่สนหน้าไหน เขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้วยบุคลิกใจกล้าบ้าบิ่นและมีความคิดต่อต้านมนุษย์ ปฏิบัติการของเขาจึงไม่สนความเป็นความตายของตนเอง

ด้านโจอี้สาวเช็ดกระจก เธอที่ฝึกฝนด้านพละกำลังมาตั้งแต่ยังเด็ก แถมยังเคยเป็นทหาร จึงเป็นตัวละครที่เหมาะจะเล่าในฐานะฮีโร่ แต่ส่วนหนึ่งก็เพราะเธอได้ร่วมงานกับผู้ว่าการที่ให้ความไว้เนื้อเชื่อใจ นอกจากนี้ น้องชายออทิสติกก็ยังพอเป็นส่วนหนึ่งในงานนี้สำเร็จลุล่วงไปได้เช่นกัน

ถ้าจะบอกว่า หนังเรื่องมีดีตรงไหน ก็คงเป็นเรื่องคิวบู๊ที่ทำได้เดือดดี โดยเฉพาะ เดซี ริดลีย์ ที่แปลงร่างเป็นสาวเท่ ไต่ตึกแบบไร้เครื่องช่วย แถมยังบู๊ได้ใจ แม้บทจะดูเชย ไม่ต่างจากการกลับไปเจอหนังฝรั่งแนวแอ็คชันทริลเลอร์ในยุค 90’s หรือแถบๆ นั้นเลย

อีกสิ่งที่ทำให้หนังยังไปไม่ถึงความไต่ระทึกเท่าที่ควร ก็คงเป็นมุมกล้องที่ยังทำได้ไม่ถึงขั้นหวาดเสียวจนต้องลุ้นตาม

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง