ดูตัวอย่างแล้วชวนสนใจใคร่ดูได้ทันที เรื่องราวของเอไอหุ่นแม่บ้านกับจอทีวีที่รูปลักษณ์ดูโบราณ แต่สามารถปั่นหัวคนในบ้านให้ต้องหวาดระแวง เพราะนางไม่ธรรมดา ไม่ได้อยากเป็นแม่บ้าน เริ่มรุกรานและไล่เมีย ใช่แล้ว นายแพทกำลังพูดถึงซีรีส์ดราม่าฮอร์เรอร์ไซไฟ ‘Cassandra’ หรือชื่อไทย ‘คาสซานดร้า’ นั่นเอง
คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เรื่องนี้?
พล็อตอาจจะดูคุ้นตา แต่น่าสนใจที่ดีไซน์ของเอไอหุ่นแม่บ้านออกแนวย้อนยุค นั่นเพราะครอบครัวตัวเอกย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่เป็นสมาร์ทโฮมแห่งแรกของโลก แต่เอไอคาสซานดร้าที่มุ่งมั่นจะเป็นมากกว่าแม่บ้านตัวนี้มีที่มาที่ไป บทเล่าสลับถึงเหตุการณ์ในอดีตในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งนั่นทำให้เรื่องราวน่าติดตามมากขึ้น แม้ว่าจะมีตัวละครงี่เง่าชวนรำคาญใจ พฤติการณ์ของคาสซานดร้าที่หนักข้อขึ้นเพิ่มความตื่นเต้นในช่วงหลัง
แต่ด้วยความที่พล็อตไม่ได้แปลกใหม่ เรื่องราวที่คาดเดาได้ไม่ยาก ซีรีส์จึงทำได้เพียงสนุกเพลินๆ
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Cassandra’
ครอบครัวหนึ่งที่หลีกหนีจากเรื่องราวปวดร้าวใจ ลาจากบ้านหลังเดิมเพื่อไปเจอภัยร้ายในบ้านหลังใหม่ อย่างเช่นครอบครัวนี้ ดาวิด คุณพ่อนักเขียนนิยายชื่อดัง กับ แซม ‘ซามิร่า’ พริลล์ (Mina Tander) ศิลปินหญิงนักปั้นประติมากรรม หลังพบเจอเรื่องสะเทือนใจ พวกเขาย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ในบ้านหลังเก่าที่เคยเป็นสมาร์ทโฮมแห่งแรกของโลก ความจริงแล้วมันก็อาจแค่ลานขยะที่เต็มไปด้วยจอและหุ่นเก่าๆ ตัวหนึ่ง
แต่พอเข้าไปอยู่จริงๆ มันกลับไม่ใช่ พวกเขาพาลูกทั้งสองคน ฟินน์ (Joshua Kantara) พี่ชายนักดนตรีที่ได้มีห้องส่วนตัว จูโน่ น้องสาวรักการร้องเพลงที่ยังฝันร้าย มาอยู่ที่นี่ การค้นพบว่ามันมีหุ่นรับใช้พร้อมจอมากมายในบ้านสร้างความประหลาดใจในทีแรก ก่อนจะรู้ว่ามันคือฝันร้าย
คาสซานดร้า คือหุ่นแม่บ้านที่ถูกออกแบบไว้ในยุค 70’s เธอเป็นเอไอที่ล้ำในยุคนั้น มีชีวิตจิตใจและมีความต้องการเป็นของตัวเอง
รีวิวซีรีส์ ‘คาสซานดร้า’
ซีรัส์เยอรมันเรื่องนี้ เล่าเรื่องครอบครัวพริลล์ที่หนีบางสิ่งมาเจอกับสมาร์ทโฮมยุคเก่าในบ้านหลังเก่า ที่นั่นมีหุ่นแม่บ้านนามคาสซานดร้า และมีทั้งจอที่มาพร้อมกล้อง ที่ทำให้เธอมองเห็นและได้ยินทุกกิจกรรมในบ้าน แถมเธอยังสามารถสั่งเปิดปิดประตูทุกบานและเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างในบ้านได้ตามใจ ซึ่งนั่นทำให้ครอบครัวที่หวังหลีกหนีฝันร้าย ต้องมาเจอฝันร้ายซ้ำสอง
หุ่นตัวนี้คือเอไอสุดฉลาดล้ำ เพียงในเวลาไม่นาน คาสซานดร้าก็ซื้อใจจูโน่ได้สำเร็จ เธอทำอะไรให้พวกเขาได้ตั้งหลายอย่าง แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยถูกกับคุณนายคนใหม่ของบ้านหลังนี้ เรียกตัวเองว่านางฟ้าทูนหัวแต่ที่จริงชอบจุ้นไปซะทุกเรื่อง อ่านความรู้สึกได้จากแววตาของคนในบ้าน และแซมเป็นคนแรกที่สัมผัสได้ถึงรังสีชั่วร้ายของหุ่นแม่บ้านตัวนี้
นี่อาจเป็นตัวอย่างหนึ่งของซีรีส์ที่เหมาะจะอยู่ในเน็ตฟลิกซ์ คือ มันไม่ได้น่าสนใจมากพอจนละสายตาจากมันไม่ได้ แต่คนดูก็สามารถทำอย่างอื่นไปด้วยได้เช่นกัน
ซีรีส์จะเดินเรื่องปัจจุบันของพวกเขา สลับกันไปเรื่องอดีต บททำให้เราได้เห็นภาพเหตุการณ์ในอดีตของคาสซานดร้าที่เคยมีชีวิตอยู่จริงๆ ในบ้านหลังเดียวกันนี้ในช่วง 60’s – 70’s ในฐานะภรรยาของ ฮอสส์ ชมิตต์ สามีจอมเจ้าชู้ที่เธอไม่เคยรู้สึกไว้ใจ ทั้งสองมีลูกชายชื่อปีเตอร์ ซึ่งเราก็พอจะเดาๆ กันได้ว่า เดี๋ยวเราก็จะได้รู้ที่มาที่ไปของหุ่นแม่บ้านตัวนี้ รวมทั้งแรงจูงใจในพฤติกรรมของนาง
คาสซานดร้า พูดจาสนทนาโต้ตอบกับคนได้เหมือนคนจริงๆ มีอารมณ์แบบผู้หญิง มีความขี้อิจฉา เก่งในด้านการปั่นสมาชิกของครอบครัวเพื่อสร้างความร้าวฉาน และบางทีก็อาจจะประสาทแดกหน่อยๆ ทั้งที่รู้ว่าครอบครัวนี้ไม่ใช่ครอบครัวดั้งเดิมของตน แต่ดันคิดว่าพวกเขาใช่ จึงหมายมั่นจะปัดทิ้งแซมออกไปเพื่อตนจะได้เป็นเมียของดาวูดและเป็นแม่ของเด็กๆ
มันคือซีรีส์เยอรมนีที่พล็อตมันดูคุ้นๆ หุ่นสาวขี้อิจฉา เกลียดชังนายสาวคนใหม่ จึงไม่ได้อยากจะเป็นแค่แม่บ้าน แต่อยากจะเป็นเมีย และด้วยความสามารถต่างๆ ที่เหนือกว่าเจ้าของบ้าน เลยออกจะน่ากลัวหน่อยๆ
นอกจากนี้ บทของซีรีส์ก็ยังมีหลายพล็อตรองให้เลือกเล่า หนึ่งคือเรื่องรักของหนุ่มเกย์ ฟินน์ที่มีเพื่อนร่วมชั้นเป็นสตีฟ และสองคนก็เริ่มต้นความสัมพันธ์ สองคือเรื่องความหลังที่เป็นเหตุให้ครอบครัวพริลล์ต้องย้ายมาอยู่ที่นี่ นั่นคือ คาธลีน พี่สาวของแซมที่จากไปอย่างกะทันหันด้วยสาเหตุบางอย่าง ที่เหลือก็เป็นเรื่องผัวๆ เมียๆ เวลาปัจจุบัน ก็มีเรื่องผัวที่น่าหงุดหงิดเพราะไม่เชื่อใครในบ้าน กับเวลาอดีต เรืองผัวคนที่ค่อนข้างเจ้าชู้แถมเป็นนักวิทย์ที่ใส่ใจแต่งานทดลองจนสร้างเรื่องขึ้นมา
จะเรียกว่าสนุกก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้น แต่จะเรียกว่าไม่สนุกก็ดูจะไม่เชิง หุ่นคาสซานดร้าที่ตอแหลเก่ง รู้ว่าเด็กน้อยถือหางนางอยู่ก็เล่นใหญ่เล่นโต เข้ากันได้ดีกับผัวที่โง่เง่าไม่รู้จบ เมียบอกก็ไม่ฟัง ลูกบอกก็ยังไม่ฟัง จนบางทีก็อยากจะสมน้ำหน้าถ้าไม่ติดว่าเด็กๆ เองก็ต้องรับเคราะห์กรรมไปด้วย คิดไปอีกที ลูกของเธอก็ดูเหมือนจะมีความคิดสับสนในตัวเองอยู่ไม่น้อย จนแทบนึกว่าเป็นไบโพลาร์เสียด้วยซ้ำ
หลายครั้งหลายหนที่เรารู้สึกได้ว่า คำพูดนี้ สถานการณ์นี้ เราเคยเจอมันมาก่อนแล้ว ใช่ครับ พล็อตอะไรแบบซีรีส์เรื่องนี้ เคยถูกบอกเล่ากันมาก่อน มันเลยไม่ได้เป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด ทำให้มันเป็นซีรีส์ที่ดูได้ไม่ย่ำแย่ แต่จะคาดหวังเซอร์ไพรส์นี่ต้องบอกว่ายากหน่อยนะ
ขณะที่ตอนจบก็ดูเหมือนจะปุบปับอยู่ประมาณนึงแม้จะพอเข้าใจสภานการณ์ได้พอควรก็ตามที
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Cassandra / คาสซานดร้า |
ผู้กำกับ | Benjamin Gutsche |
ผู้เขียนบท | Sina Flammang, Benjamin Gutsche |
นักแสดง | Mina Tander, Lavinia Wilson, Joshua Kantara, Filip Schnack, Michael Klammer, Franz Hartwig, Mark Lewis, Toni Gojanovic |
แนว/ประเภท | สยองขวัญ, ไซไฟ, ระทึกขวัญ, ดราม่า |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 6 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 6 กุมภาพันธ์ 2025 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Rat Pack Filmproduktion |
คะแนนรีวิวซีรีส์ คาสซานดร้า
พล็อตและบท - 6.4
การดำเนินเรื่อง - 6.8
การแสดง - 6.8
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรโมชัน - 7.2
เพลงและดนตรีประกอบ - 6.8
6.8
Cassandra
พล็อตอาจจะดูคุ้นตา แต่น่าสนใจที่ดีไซน์ของเอไอหุ่นแม่บ้านออกแนวย้อนยุค นั่นเพราะครอบครัวตัวเอกย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านที่เป็นสมาร์ทโฮมแห่งแรกของโลก แต่เอไอคาสซานดร้าที่มุ่งมั่นจะเป็นมากกว่าแม่บ้านตัวนี้มีที่มาที่ไป บทเล่าสลับถึงเหตุการณ์ในอดีตในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งนั่นทำให้เรื่องราวน่าติดตามมากขึ้น แม้ว่าจะมีตัวละครงี่เง่าชวนรำคาญใจ พฤติการณ์ของคาสซานดร้าที่หนักข้อขึ้นเพิ่มความตื่นเต้นในช่วงหลัง แต่ด้วยความที่พล็อตไม่ได้แปลกใหม่ เรื่องราวที่คาดเดาได้ไม่ยาก ซีรีส์จึงทำได้เพียงสนุกเพลินๆ