รีวิวซีรีส์ The Eternaut นักท่องเวลาแห่งนิรันดร์ | เอาตัวรอดในวันโลกล่มสลาย

หลายวันก่อน ผมเคยเปิดเข้าไปดูซีรีส์ ‘The Eternaut’ หรือชื่อไทย ‘นักท่องเวลาแห่งนิรันดร์’ ในเน็ตฟลิกซ์ แล้วพบว่าเสียงพูดของทุกตัวละครไม่ดังเลย เป็นแบบนี้อยู่ 2-3 ครั้งที่ลองเปิดดู ทำให้เลือกจะเลยผ่านไป จนมาวันนี้นี่แหละที่พบว่าเสียงพูดมันดังแล้วแฮะ จึงได้โอกาสเริ่มเปิดดูอีกครั้ง จนได้บทความรีวิวซีรีส์ในวันนี้

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์แนวเอาตัวรอดเรื่องนี้?

เอาเข้าจริง เราไม่ค่อยได้เสพซีรีส์ของชาวอาร์เจนไตน์สักเท่าไหร่นัก ยิ่งแนวไซไฟเอาตัวรอดในโลกที่ล่มสลายยิ่งแล้วใหญ่ เรื่องนี้จึงทำให้เราประทับใจเพราะมันคือโลกที่ไฟดับทั้งเมือง สภาพอากาศเปลี่ยนจนมีหิมะพิษตกลงจนเมืองขาวโพลน ทั้งยังมีสิ่งมีชีวิตต่างดาวรุกรานอีก คนที่เหลือรอดจึงต้องหาทางเอาชีวิตรอดกัน บทไล่ไปตั้งแต่สเกลเล็กอย่างภายในบ้าน จนขยายไปทั่วเมือง

จากจินตนาการที่แตกต่างออกไปในโลเกชั่นที่ไม่คุ้นเคย สร้างเป็นซีรีส์แนวเซอร์ไววัลที่แตกต่างออกไป อาจเริ่มต้นแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่เร่งเร้าในตอนท้าย ก่อนจะบอกว่า ติดตามซีซันถัดไปกันนะทุกคน

เรื่องย่อซีรีส์ ‘The Eternaut’

เหตุนี้เกิดขึ้นในประเทศอาร์เจนตินา ประเทศที่ได้ชื่อว่าไฟดับบ่อยครั้งจนเกิดปัญหาความขัดแย้งและการประท้วงตามมา แต่ในวันหนึ่ง กลับเกิดเหตุไฟดับไปทั่วทั้งเมือง ก่อนจะพบว่าสภาพอากาศก็เปลี่ยนแปลงไปด้วย เกิดพายุหิมะตกหนักทั้งที่เป็นฤดูร้อน แถมเป็นหิมะพิษที่ห้ามโดนตัว อากาศข้างนอกก็ยังเย็นเฉียบ ถ้าออกไปข้างนอกโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันร่างกายก็จะร่วงล้มในทันที

ซีรีส์ที่เล่าเรื่องของคนกลุ่มหนึ่งที่วันนั้น พวกเขาได้มาอยู่ด้วยกันพอดี แม้ต่างคนต่างความคิดแต่ต้องช่วยเหลือกันเพื่อจะพาทุกคนรอดตายไปจากอันตรายที่ไม่มีใครรู้ที่มานี้ไปด้วยกัน

รีวิวซีรีส์ ‘นักท่องเวลาแห่งนิรันดร์’

ซีรีส์จากอาร์เจนตินาเรื่องนี้พัฒนาบทขึ้นจากการ์ตูน พูดถึงอาร์เจนติน่าที่มีปัญหาเรื่องไฟดับกันจนเป็นอาจิณอยู่แล้ว เลยมีการประท้วงกันอยู่บ่อยๆ แต่คงไม่มีครั้งไหนที่ร้ายแรงเท่าครั้งนี้ เมื่อจู่ๆ ไฟก็ดับทั่วทั้งเมือง แต่มันไม่ใช่ไฟดับธรรมดา เมื่อมือถือ โทรศัพท์บ้าน รถยนต์ทั้งหลาย ล้วนใช้งานไม่ได้ ไม่ใช่แค่นั้น เพราะเกิดหิมะตกหนัก แถมเป็นหิมะพิษ โดนตัวไม่ได้ ตายทันที ทำให้ประชากรมนุษย์โลกตายเป็นเบือ เหลือรอดน้อยมาก

นี่มันซีรีส์ดิสโทเปียหลังโลกล่มสลาย+เซอร์ไววัลเอาตัวรอดจากหายนะ ที่มาจากความคิดของคนอาร์เจนเลยนี่นา ได้ข่าวว่ามันเป็นการ์ตูนที่ถูกตีพิมพ์ไว้ตั้งแต่ปี 1957 เลยเชียวนะ

เรื่องราวมันโฟกัสไปที่คนกลุ่มหนึ่งในบ้านของ ตาโน (César Troncoso) กับภรรยา อานา (Andrea Pietra) ในวันต้อนรับการมาเยือนของกลุ่มเพื่อนรัก ในบ้านวันนั้นจึงมีทั้ง ฮวน (Ricardo Darín), ลูกัส (Marcelo Subiotto), บิเซนเต, รูโซ และโอมาร์ (Ariel Staltari) แต่บรรยากาศอันอบอุ่นก็เปลี่ยนไปในทันทีเมื่อเกิดอย่างที่ว่าไปข้างต้น ก่อนที่จะได้เปิดรับ อิงกริด หญิงคนที่มาส่งของที่หนาวแทบตายอยู่ในโรงรถ และต้องสูญเสียไปทั้งบิเซนเตและรูโซเพื่อพวกเขาสัมผัสกับหิมะพิษข้างนอกนั่น

ส่วนคนที่อยู่ในบ้าน บางทีก็ทะเลาะกันอย่างไร้สติ ต่างคนต่างพยายามจะออกไปเพื่อเตือนครอบครัว และคนที่เราจะได้เห็นบ่อย ๆ เขาคือ ฮวน ที่มุ่งมั่นออกไปตามหาภรรยา เอเลนา และลูกสาว กราลา เขาสวมหมวกกรองอากาศของตาโนเพื่อออกไปข้างนอก

และการที่มีตัวละครมุ่งหน้าออกไปข้างนอกนั่นแหละ ที่ทำให้เราคนดูได้เห็นสภาพบ้านเมืองที่ขาวโพลนเพราะหิมะและซากศพที่ระเกะระกะกลางถนน ทั้งพาเราไปเจอกับคนที่ยังเหลือรอดในที่ต่างๆ ซึ่งก็จะตอบสนองต่อคนแปลกหน้าที่ผ่านหิมะพิษมาอย่างปลอดภัย จนส่งผลให้เกิดความรุนแรงให้เกิดขึ้น และทำให้เราเห็นว่า การมีหน้ากากกันพิษและรถยนต์ในสภาวะโลกล่มสลายแบบนี้ กลายเป็นอภิสิทธิ์แค่ไหน ทุกคนต่างพยายามแย่งชิงทรัพยากรที่เหมือนจะเหลือเฟือในช่วงแรก คนที่เหลือรอดเริ่มจะแบ่งกลุ่มหรือรวมตัวกันแล้ววางแผนป้องกันตนเอง

ขณะที่สถานการณ์ในบ้านของตาโน ก็ไม่ใช่จะเรียบ ๆ นิ่ง ๆ ซีรีส์บอกเล่าถึงความไม่ไว้วางใจ เพราะบางคนเป็นเพื่อนกัน แต่บางคนก็เป็นคนนอกที่เจ้าของบ้านมองว่า คนในบ้านเป็นเหมือนเรือที่ลอยอยู่กลางทะเล กังวลกลัวว่าคนนอกจะก่อกบฏ ทั้งยังมองว่าตนเป็นเจ้าของบ้าน จะเปลี่ยนแปลงกฎอย่างไรตามใจก็ได้ ทำให้เขากลายเป็นตัวละครที่ไม่ค่อยเป็นที่รักของคนดูนักหรอก ก็เขามีความคิดเผด็จการ คิดว่าตนเป็นใหญ่ คอยสั่งคนโน้นคนนี้ให้ทำตาม เขาไม่เชื่อใจเพื่อนบ้านและมองว่าอีกไม่นานเขาจะต้องฆ่ากันเองเลยไม่อยากรวมกลุ่มด้วย

อีกอย่างที่เราเห็นคือ ผู้ชายในเรื่องมักเลือกจะช่วยตัวเองและพวกให้รอด ขณะที่ผู้หญิงจะคำนึงถึงคนอื่นมากกว่า ซึ่งบางครั้งก็นำพาเรื่องที่ดี แต่บางทีก็ชักพาเรื่องเดือดร้อนกลับมาให้

ไม่นานนัก เราคนดูก็ได้พบอีกสิ่งที่ชวนเซอร์ไพรส์ มีลูกไฟที่พุ่งลงมาจากฟากฟ้าเป็นระยะ และต่อมาก็มองเห็นพวกแมลงยักษ์ที่กรูกันตั้งรกรากแถมใช้มนุษย์เป็นแหล่งอาหาร สถานการณ์กำลังเลวร้ายหนักและกลุ่มคนต้องรวมพลังกันเพื่อปกป้องกันเอง ตอนนี้ มนุษย์ทุกคนมีศัตรูร่วมกันแล้ว และดูเหมือนจะไม่ได้มีแค่แมลงยักษ์เท่านั้นที่พวกเขาต้องรับมือ ฉะนั้น สิ่งที่จะพาให้พวกเขารอดพ้นได้มีเพียงสามัคคีกันเท่านั้น

ระหว่างที่ดูไป ก็อาจพบเบาะแสเล็กๆ ที่บอกใบ้ว่า ฮวนน่าจะมีพลังในการเดินทางข้ามเวลาได้ท้ายตอนที่สอง ยิ่งเมื่อดูผ่านไปหลายตอนมากขึ้น เราก็จะเริ่มค้นพบว่า ฮวนเดินผ่านชีวิตแบบไหนมา กำลังเจอชีวิตแบบไหน และเขามองเห็นสิ่งใดในอนาคตบ้าง และเมื่อเรื่องราวมันเดินจนถึงตอนจบของตอนที่หก เราก็ได้พบว่า มันยังมีอีกหลายสิ่งที่ซีรีส์ต้องบอกเล่านี่นา

บางสิ่งยังไม่ถูกเฉลย ความลับที่ถูกปิดบังไว้เกี่ยวกับ กราลา ลูกสาวของฮวน การต่อสู้ในส่วนที่เหลือระหว่างมนุษย์โลกและมนุษย์ต่างดาวที่ยังไม่ได้บทสรุป เป็นไปได้เลยแหละที่ซีรีส์เอาตัวรอดเรื่องนี้มันจะต้องมีซีซัน 2 ติดตามมา

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์