ซีรีส์เกาหลีหลายเรื่อง กำเนิดขึ้นมาจากเว็บตูน เว็บคอมิก หลายเรื่องออกแนวอนาคต ไซไฟ แอ็คชัน ผสมดราม่า เรื่องไหนกระแสดี เรื่องนั้นก็จะกลายมาเป็นซีรีส์คนแสดง อย่างเช่นเรื่องนี้ ‘Black Knight’ เรื่องราวอนาคตที่ทั้งคาบสมุทรเกาหลีกลายสภาพเป็นทะเลทราย และอากาศเลวร้ายจนต้องให้หน้ากากกันแก๊สพิษเพื่อความอยู่รอด
ซีรีส์ที่ความยาวระดับลิมิเต็ดเรื่องนี้ เรียบเรียงจะเว็บตูนเรื่อง ‘Delivery Knight’ ที่เขียนโดย อียุนคยูน มี โจอึยซอก (มือเขียนบท ‘Golden Slumber’, เขียนบทและกำกับ ‘Master’) เป็นผู้กำกับ และมีนักแสดงนำที่คุ้นหน้าคุ้นตาอย่าง คิมอูบิน, อีซม และ คังยูซอก กับเรื่องราวที่ผสมผสานกัน ระหว่างความเป็นไซไฟ แอ็คชัน และดราม่า
ในโลกหลังการล่มสลายที่ถูกเรียกว่าเป็นแนว… ‘ดิสโทเปีย’
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Black Night’
เหตุเกิดในปี 2071 ที่ซึ่งโลกเกิดภาวะอากาศเป็นพิษ คาบสมุทรเกาหลีกลายเป็นทะเลทราย และประชากรลดลงเหลือเพียง 1 เปอร์เซนต์ พวกที่เหลือรอดก็ต้องอยู่ในชนชั้นสังคมที่เข้มงวด ผู้คนมักจะไม่ค่อยออกมาข้างนอกกัน หรือถ้าต้องออก ก็ต้องใช้หน้ากากกรองแก๊สพิษอยู่เสมอ ประชากรจำเป็นพึ่งพาการขนส่งอากาศและอาหารเพื่อการบริโภคและอยู่รอดในสภาวะอากาศเช่นนี้ พนักงานขนส่งเลยกลายเป็นคนสำคัญในระบบสังคม พวกเขาถือเป็นนักรบที่ต้องขับรถไปส่งของตามจุดต่างๆ แล้วก็ยังต้องเก่งกาจในการป้องกันการถูกปล้นอีกต่างหาก
5-8 (Kim Woo Bin/คิมอูบิน จากซีรีส์เรื่อง ‘Our Blues’ และ ‘Uncontrollably Fond’) คืออัศวินหรือคนส่งของระดับพระกาฬ ที่ความเชี่ยวชาญสูงในด้านการต่อสู้และป้องกันตัว วันหนึ่ง เขาได้พบกับ ยุนซาวอล (Kang You Seok/คังยูซอก จากซีรีส์เรื่อง ‘Start-Up’ และ ‘Once Again’) เด็กหนุ่มผู้ลี้ภัยที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นคนส่งของและเลื่อมใสใน 5-8 อย่างมาก ด้าน จองซอลอา (Esom/อีซม จากซีรีส์เรื่อง ‘Taxi Driver’ และ ‘Because This Is My First Life’) แม้เธอจะเป็นผู้พันหัวหน้าหน่วยข่าวกรองที่ฝันจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่เธอก็แอบเลี้ยงดูยุนซาวอลเหมือนกับเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ในที่สุด คนส่งของอย่าง 5-8 ก็เลือกที่จะช่วยให้ยุนซาวอลได้เป็นคนส่งของ
รีวิวซีรีส์ ‘แบล็คไนท์’
หลังจากที่คิมอูบินพักการแสดงไปรักษาอาการป่วยของตนเอง เขาก็กลับมารับงานแสดงเช่นเดิม ก่อนหน้านี้ก็มีซีรีส์เรื่อง ‘Our Blues’ หนังเรื่อง ‘Alienoid’ ให้ดูกันไปแล้ว มาคราวนี้ก็มาเล่นนำในซีรีส์กันอีกครั้ง ในบทนำอย่างการเป็นคนส่งของที่เก่งด้านบู๊ในโลกที่เกาหลีกลายเป็นทะเลทรายและเต็มไปด้วยมลพิษ
ซีรีส์ที่เล่าถึงระบบชนชั้นในโลกดิสโทเปีย
ซีรีส์บอกต้นตอของความล่มสลายของมนุษยชาติด้วยสาเหตุแห่งอุกกาบาตยักษ์ ก่อนที่มันจะสร้างหายนะจนทำให้มีมนุษย์เหลืออยู่เพียง 1% เท่านั้น และเป็นปกติ โลกดิสโทเปียก็มักจะบอกเล่าถึงระบบสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างเช่นเรื่องนี้ ก็มีการกำหนดระบบชนชั้นขึ้น ชั้นใน ชั้นกลาง ชั้นนอก เท่านั้นไม่พอ ยังมีกลุ่มคนที่ไม่เคยถูกช่วยเหลือ ซีรีส์เรียกพวกเขาว่า ผู้ลี้ภัย ที่เหมือนเป็นชนชั้นล่างสุดของสังคม และพวกเขาหลายคนก็พยายามจะก้าวขึ้นมามีชีวิตที่ดีขึ้น หนึ่งในวิธีที่พวกเขามองเห็น ก็คือการเป็น Knight หรือ คนส่งของ ให้ได้นั่นเอง
ตัวพระเอกของเราก็เช่นกัน เขาก็คือคนหนึ่งที่ก้าวขึ้นมาจากการเป็นผู้ลี้ภัย เขาต้องผ่านด่านทดสอบมหาหิน มีคนตายจากการทดสอบครั้งนี้ทุกครั้ง แต่เพื่อชีวิตที่ดีกว่าก็จำเป็นต้องยอม อีกอย่างก็คือ เมื่อมาเป็นคนส่งของแล้ว เขาจะได้ชื่อที่เป็นตัวเลข อย่างเช่นพระเอกก็ได้ชื่อเป็น 5-8 ไม่มีใครรู้จักชื่อจริงของเขา เหมือนต้องการลบเลือนตัวตนและใช้ชีวิตที่เหลือในฐานะคนส่งของ
และแม้จะก้าวขึ้นมาเป็นคนส่งของแล้ว เขาก็ยังคงให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยตลอดมา ยิ่งเมื่อได้พบว่า ยุนซาวอล ผู้ลี้ภัยหนุ่มที่มองเขาเป็นฮีโร่นั้น ก็ต้องการจะเป็นคนส่งของเหมือนเขา จึงพาเข้ามาฝึกเพื่อให้ผ่านการทดสอบ แท้จริง เบื้องลึกในใจ เขามีบางสิ่งที่ต้องการจะทำให้สำเร็จ
ชอนมยองกรุ๊ป กลุ่มทุนที่ตัวจริงคือวายร้าย
ในโลกที่ล่มสลายแบบนี้ นอกเหนือการมีระบบชนชั้น ก็ยังมีเรื่องของธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่หากินอยู่บนความเดือดร้อนของผู้คน และครั้งนี้เป็นชอนมยองกรุ๊ป กลุ่มทุนอันทรงอิทธิพลที่วาดหวังเอาไว้สวยหรูว่าจะสร้างพื้นที่สะอาดเพื่อผู้คน ที่นำโดยทายาทอย่าง ซีอีโอรยูซอก (Song Seung Heon/ซงซึงฮอน จากซีรีสืเรื่อง ‘Autumn in my Heart’ และ ‘Black’) แท้จริง พวกมันคือวายร้ายที่มุ่งหมายผูกขาดการผลิตและจำหน่ายออกซิเจนไว้เพียงผู้เดียว ทั้งหวังจะเป็นผู้บงการทุกสิ่งในโลกใบใหม่ ในเมื่อทุกคนต้องพึ่งพาเครื่องช่วยหายใจ ก็เลยต้องพึ่งพาชอบมยองกรุ๊ป ทั้งหมดทั้งมวล มันจึงนำไปสู่ความวุ่นวายยุ่งเหยิง
ส่วนไอ้อาชีพคนส่งของที่แสนจะมีบทบาทมากในเวลานั้นเนี่ย แท้จริงก็คือการเป็นคนในสังกัดของชอนมยองกรุ๊ปนั่นแหละ และแม้ในโลกที่มนุษย์เหลือน้อยเต็มที่เช่นนี้ กลุ่มทุนยักษ์ก็ยังคงยึดโยงกับคนในวงการการเมืองไม่แตกต่างจากโลกในช่วงเวลาปกติเลย
คนส่งของในตำนาน กับผู้พันหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง
ซีรีส์เรื่องนี้ บอกเล่าแบบมึนๆ นิดหน่อย อาจจะต้องอาศัยการปะติดปะต่อเรื่องราวกันมากนิดนึง เพราะบทสนทนาบางทีก็มาแบบไม่บอกอะไรตรงๆ โจ่งแจ้งนัก บทฉาก บทจะตัดก็ตัดไปดื้อๆ ก็มี แต่โดยรวม ก็ถือว่าบันเทิงได้อยู่ ช่วงแรก อาจต้องใช้สมาธิในการติดตามเรื่องพอสมควร แต่เมื่อมาถึงตอน 3 ที่จัดเต็มแอ็คชัน ก็น่าจะติดตามกันแบบสบายหัวกันมากขึ้น
ซึ่งสิ่งที่มองเห็นตั้งแต่เริ่มต้น คือ 5-8 (ห้าขีดแปด) เขาเป็นพระเอกคนส่งของที่เก่งเวอร์ เพียงตัวคนเดียวแต่ยิงสู้กับคนเป็นสิบได้ ซึ่งบทซีรีส์ก็เล่าในเวลาถัดมาแล้วว่า คนที่จะผ่านการทดสอบเข้ามาเป็นคนส่งของได้เนี่ย ต้องมีทักษะการต่อสู้ขั้นเยี่ยมยอด จึงไม่แปลกที่พระเอกจะเก่งเวอร์ได้ขนาดนี้
ตัวเขาเอง ที่ไต่เต้าขึ้นมาจากผู้ลี้ภัยที่เป็นชนชั้นที่ถูกละเลย การเข้ามาทำงานภายใต้ชอยมยองกรุ๊ป ย่อมต้องอะเจนด้าอยู่ในใจ แล้วเหตุการณ์ที่มีเด็กสาวถูกฆ่าตายและเขาเป็นผู้พบเห็นเหตุการณ์ก็ทำให้เขาต้องได้รู้จักกับ จองซอลอา ผู้พันหัวหน้าหน่วยข่าวกรองอย่างช่วยไม่ได้ ก็เด็กสาวคนที่ตายนั่นคือ จองซึลอา (Roh Yoon Seo/โนยุนซอ จากซีรีส์ ‘Crash Course in Romance’ และ ‘Our Blues’) น้องสาวของผู้พันเขานั่นเอง
ความรู้สึกหลังดู ‘แบล็คไนท์’
แม้เราจะพอดูรู้ว่าซีอีโอรยูซอกเป็นคนทะเยอทะยาน และมั่นใจในตัวเองสูง แต่โดยรวมแล้ว เราไม่ค่อยรู้เบื้องหลังของเขาสักเท่าไหร่ ทำให้ไม่อินกับตัวละครเท่าที่ควร อีกทั้งเราได้เห็นว่า 5-8 และเหล่าคนส่งของที่ก้าวขึ้นมาจากเป็นผู้ลี้ภัย รวมทั้งผู้พัน ต่างก็ต้องการเปิดโปงและพยายามขัดขวางรยูซอก แต่ก็เหมือนกัน เพราะเรื่องมันไม่ได้ปูให้รู้อะไรมาก ทำให้ซีรีส์มันพอตื่นตาในช่วงกลางๆ ที่เป็นการแข่งขันเพื่อคัดเลือกคนส่งของ ที่ทำให้รู้สึกเหมือนได้ดู ‘The Hunger Games’ หรือ ‘Squid Game’ ในอีกเวอร์ชันหนึ่ง แต่หลังจากนั้น ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรอีก เหมือนต้องแค่นดูต่อให้มันจบ
ความโดดเด่นของซีรีส์อย่าง ‘Black Knight’ คือ ดนตรีประกอบก็ดูเข้าที เช่นเดียวกับงานเทคนิคพิเศษที่เกาหลีเขาเนรมิตบ้านเมืองของตัวเอง ให้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทรายได้อย่างแนบเนียน ขณะที่ฉากต่อสู้ดูสมจริงน้อยไปหน่อย ดูแล้วไม่เชื่อว่างั้นเถอะ และเมื่อมาถึงตอนจบ สิ่งที่รู้สึกคือ มันค่อนข้างรวบรัด ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น และจับอะไรเป็นเนื้อเป็นหนังได้ยากเหลือเกิน
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Black Knight / แบล็คไนท์ / 택배기사 |
ผู้กำกับ | Cho Ui Seok/โจอึยซอก |
ผู้เขียนบท | Lee Yoon Kyun (webcomic) |
นักแสดง | Kim Woo Bin/คิมอูบิน, Kang You Seok/คังยูซอก, Esom/อีซม, Song Seung Heon/ซงซึงฮอน |
แนว/ประเภท | ไซไฟ, แอ็คชัน, ดิสโทเปีย |
จำนวนตอน | 1 ซีซัน: 6 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 12 พฤษภาคม 2023 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Netflix |
แบล็คไนท์
พล็อตและบท - 6.3
การแสดง - 6.9
การดำเนินเรื่อง - 6.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7.5
6.8
Black Knight
ซีรีส์เกาหลีจำนวน 6 ตอนที่ดัดแปลงสร้างจากเว็บตูน เรื่องเล่าของเกาหลีในอนาคตที่กลายเป็นทะเลทราย อากาศที่เป็นพิษ และเหลือมนุษย์เพียง 1 เปอร์เซนต์ จนเกิดระบบชนชั้นและออกซิเจนกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้มีบางคนคิดจะกุมชะตาผู้คนด้วยอำนาจที่มี ซีรีส์ที่เล่าเรื่องไม่ละเอียด ไม่ชวนอินไปกับเรื่องราวและตัวละครได้มากพอ ฉากต่อสู้ก็ยังดูไม่สมจริง สิ่งที่โดดเด่นเหลือเพียงงานซีจีและดนตรีประกอบเท่านั้น