รีวิวหนัง Gran Turismo แกร่งทะลุไมล์ | อย่าเพิ่งมองว่าเป็นแค่หนังรถแข่ง

สำหรับคนที่ชอบความเร็ว หนังรถแข่งคงเป็นอะไรที่พวกเขาโปรดปราน แต่โลกนี้ก็สร้างหนังประเภทนี้กันออกมาพอสมควรทีเดียว จนคิดว่า หนังรถแข่งเรื่องถัดๆ ไปคงเจอแรงกดดันน่าดูที่จะต้องเล่าอะไรที่แตกต่างให้ผู้ชมได้รู้สึกแปลกใหม่ และสนุกลุ้นจนอะดรินาลีนหลั่ง และวันนี้ กำลังมีหนังเรื่องใหม่อย่าง ‘Gran Turismo’ ชื่อไทย ‘GT แกร่งทะลุไมล์’ ที่เข้าฉายในบ้านเราสัปดาห์นี้ครับ

ภาพจากหนังเรื่อง ‘Gran Turismo’
source: Sony Pictures Thailand

เมื่อพูดถึง Neill Blomkamp ที่เคยกำกับมาทั้ง ‘District 9’, ‘Elysium’ และ ‘Chappie’ ที่ล้วนแล้วแต่เคยเข้ามาฉายเมืองไทยด้วยกันทั้งนั้น ก่อนที่จะหันไปกำกับหนังสั้น แม้จะกลับมาทำหนังยาวอย่าง ‘Demonic’ แต่ก็ไม่เปรี้ยง จนมาถึงเรื่องนี้ มันเป็นทั้งหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่คลั่งไคล้การบังคับพวงมาลัยอยู่ในบ้าน แต่วันหนึ่ง เขาได้มาซิ่งแข่งขันในสนามแข่งของจริง

แค่นึกภาพก็มันสุดติ่งแล้วล่ะครับ


เรื่องย่อหนัง ‘Gran Turismo’

ยานน์ มาร์เดนเบอระ (Archie Madekwe จากหนังเรื่อง ‘Midsommar’ และ ‘Heart of Stone’) เด็กหนุ่มเมืองคาร์ดิฟฟ์ ลูกชายของสตีฟ (Djimon Hounsou จากหนังเรื่อง ‘Guardians of the Galaxy’) พ่อผู้ที่เคยเป็นนักเตะอาชีพและหวังว่าเขาออกไปเล่นฟุตบอลเหมือนอย่างน้องชาย แต่ความชื่นชอบของเขาคือการอยู่ในห้องกับพวงมาลัยที่พ่วงกับเกมจำลองการขับรถแข่งที่ชื่อ ‘แกรน ทัวริสโม’ ความคลั่งไคล้ที่ทำให้เขากลายเป็นนักแข่งสุดเก่ง แต่นั่นก็ยังอยู่แค่ในโลกของเกมออนไลน์

แต่โชคชะตาก็มาถึงเด็กหนุ่มคนนี้จนได้ มันเริ่มมาจาก แดนนี่ มัวร์ (Orlando Bloom) ฝ่ายการตลาดที่ขายความคิดนี้กับทางนิสสัน เลือกเฟ้นเอาบรรดานักขับซิมูเลชั่นฝีมือดีทั้งหลาย มาเข้าค่ายฝึกซ้อมร่วมกันและคัดเลือกหามือดีที่สุดไปแข่งในสนามจริง

ตัวอย่างภาพยนตร์อย่างเป็นทางการของ ‘Gran Turismo แกร่งทะลุไมล์’ [ซับไทย]

แต่งานนี้จำเป็นต้องพึ่งพาวิศวกรสักคนที่ช่วยฝึกเด็ก และหวยก็ตกที่ แจ็ค ซอลเทอร์ (David Harbour จากซีรีส์เรื่อง ‘Stranger Things’ และหนังเรื่อง ‘Violent Night’) อดีตนักแข่งที่มีความฝังใจกับการแข่งขันจนต้องเลิกราไป แล้วชีวิตของเด็กหนุ่มที่ถูกพ่อบ่นมาตลอด ก็กำลังจะก้าวไปไกลเกิดคิดฝัน


รีวิวหนัง ‘GT แกร่งทะลุไมล์’

แทนที่จะสร้างเรื่องเป็นตัวละครสักตัวในเกม แต่เพราะ ‘Gran Turismo’ แตกต่างออกไป มันคือซิมูเลชั่นที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งรถแข่งได้ทุกจุดตามต้องการ สร้างสนามแข่งที่ถอดแบบมาจากของจริงทุกกระเบียดนิ้ว คำนวณมาทุกอย่างให้การขับรถแข่งที่บ้าน มีความใกล้เคียงกับการขับในสนามแข่งมากที่สุด โดยมีพวงมาลัย คันเร่งและเบรก ที่ต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์และจอภาพ

หลายคนมีความสุขกับมันมาก แม้มันจะเป็นเกม แต่ก็อาจมองว่ามันไม่ใช่เกมได้เหมือนกัน สิ่งที่มันแตกต่างจากการแข่งขันจริงๆ ก็คือ มันไม่ต้องโมรถด้วยเงินมหาศาล ไม่ต้องมีทีมงานคอยช่วยเหลือในพิท เกมโอเวอร์ก็เริ่มใหม่ ฝึกซ้อมได้ไม่จำกัดหนจนเก่งและช่ำชองโดยไม่ต้องเสี่ยงชีวิตที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกวินาที

Archie Madekwe และ David Harbour ในหนังเรื่อง ‘Gran Turismo’
source: Sony Pictures Thailand

หนังเริ่มต้นดูการปูเรื่องครอบครัวสั้นๆ ก่อนจะเริ่มปูเรื่องที่มาของโปรเจกต์พานักแข่งซิมูเลชันสู่สนามจริง ค่อยๆ เพิ่มดีกรีความเดือดทีละขั้น บอกเล่าชีวิตของยานน์ที่กำลังจะกลายเป็นนักแข่งระดับโลก แต่ต้องผ่านด่านแล้วด่านเล่า แม้จะดูง่ายแต่ทุกอย่างคือสิ่งที่นักแข่งหนุ่มคนหนึ่งจะต้องผ่าน

ครึ่งหลังของหนังเรื่องอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะฉากในสนามแข่งที่ใส่มุมมองของคนขับ มุมองของโดรนที่บินฉวัดเฉวียน ผสานกับเสียงเครื่องยนต์ และเสียงดนตรีประกอบชวนเร้าใจและบีบคั้นอารมณ์ เสมือนเราอยู่หลังพวงมาลัยในห้องคนขับ อยู่บนถนนในสนามแข่งขัน เรียกได้ว่า หนังชักพาให้อะดรีนาลีนหลั่งไหลไม่ยั้งหยุดกันเลยทีเดียว

ออร์แลนโด บลูม ในหนังเรื่อง ‘Gran Turismo’
source: Sony Pictures Thailand

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ระบบเสียง ด้วยเพราะหนังทำมาเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ IMAX ทำให้มิกซ์เสียงมาอย่างดี เสียงอย่างกระหึ่ม ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องยนต์ หรือเสียงของเพลงประกอบ ที่เต็มไปด้วยเพลงชวนขยับหัวใจตาม นี่ถ้าได้ดูในโรง IMAX จริง คงยิ่งระทึกยิ่งกว่านี้เป็นแน่ ส่วนในด้านของเทคนิคภาพ ก็อาจจะมีบ้างที่หนังใช้ CG เข้ามาช่วย แม้ไม่เนียนไปบ้างแต่ไม่มีอะไรขัดหูขัดตา จนคิดว่า มันเป็นหนังที่คอหนังสายรถแข่งต้องชื่นชอบ ต่อให้ไม่ใช่ก็ยังต้องชอบแหละ หนังมันย่อยง่ายมาก ไม่มีอะไรซับซ้อนเข้าใจยากเลย

โปสเตอร์หนัง ‘แกร่งทะลุไมล์’ เวอร์ชันไทย
source: Sony Pictures Thailand

บทหนังบอกเล่าให้เราได้เจอว่า การเป็นนักแข่งรถนั้นต้องพบเจอกับอะไรบ้าง และเขาต้องแข็งแกร่งขึ้นอย่างไรเพื่อที่จะรับมือกับทุกอย่างที่ถาโถมเข้ามา ทั้งเรื่องสภาพแรงกดในห้องคนขับที่ต่างจากซิมูเลชันอย่างชัดเจน คำดูถูกถากถาง การรับมือกับสื่อ และที่สำคัญ เหตุที่ไม่คาดคิดระหว่างแข่ง ซึ่ง Archie Madekwe ก็รับหน้าที่นี้ได้ดี

แม้ในสนามแข่งจริง คนที่เป็นสแตนด์อินจะเป็น Jann Mardenborough ตัวจริงมาร่วมเล่นก็ตาม เช่นเดียวกันกับ David Harbour ที่เล่นเข้ากับหนุ่มรักแข่งได้ดี

และหนังไม่ยอมที่จะละเลยปมดราม่าครอบครัว ที่ทำให้นายแพทต้องเสียน้ำตาให้กับหนัง


รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง

ชื่อภาพยนตร์Gran Turismo / GT แกร่งทะลุไมล์
กำกับNeill Blomkamp
เขียนบทJason Hall, Zach Baylin
แสดงนำDavid Harbour, Orlando Bloom, Archie Madekwe, Maeve Courtier-Lilley
แนว/ประเภทแอ็คชัน, ดราม่า, กีฬา
เรทPG-13
ความยาว135 นาที
ปี2023
สัญชาติสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น
เข้าฉายในไทยรอบพิเศษ 24 – 30 สิงหาคม 2023
ฉายจริง 31 สิงหาคม 2023
ผลิต/จัดจำหน่าย2.0 Entertainment, Epic Films, Michael De Luca Productions, PlayStation Productions, Sony Pictures Entertainment (SPE)

คะแนนหนัง GT แกร่งทะลุไมล์

พล็อตและบท - 7
การแสดง - 7.2
การดำเนินเรื่อง - 7.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.8
งานภาพ และโปรดักชัน - 7.6

7.4

Gran Turismo

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ ระบบเสียง ด้วยเพราะหนังทำมาเพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ IMAX ทำให้มิกซ์เสียงมาอย่างดี เสียงอย่างกระหึ่ม ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องยนต์ หรือเสียงของเพลงประกอบ ที่เต็มไปด้วยเพลงชวนขยับหัวใจตาม นี่ถ้าได้ดูในโรง IMAX จริง คงยิ่งระทึกยิ่งกว่านี้เป็นแน่ ส่วนในด้านของเทคนิคภาพ ก็อาจจะมีบ้างที่หนังใช้ CG เข้ามาช่วย แม้ไม่เนียนไปบ้างแต่ไม่มีอะไรขัดหูขัดตา จนคิดว่า มันเป็นหนังที่คอหนังสายรถแข่งต้องชื่นชอบ ต่อให้ไม่ใช่ก็ยังต้องชอบแหละ หนังมันย่อยง่ายมาก ไม่มีอะไรซับซ้อนเข้าใจยากเลย

User Rating: 0.48 ( 2 votes)
Exit mobile version