รีวิวซีรีส์ Sweet Tooth 2 | แฟนตาซีแบบเด็กๆ ที่พยายามจะซับซ้อน

ดูเหมือนการต่อสู้ยังคงไม่จบสิ้น หลังจากเริ่มเรื่องราวเอาไว้ในซีซันแรก มนุษยชาติที่กำลังเผชิญหน้ากับการสูญพันธุ์ สงครามที่พวกเขากำลังต่อกรกับการสูญพันธุ์และเริ่มรู้ตัวว่ากำลังจะพ่ายแพ้ และพวกเขากำลันดิ้นรนเพื่อหาทางรอดไม่ว่าจะแลกมาด้วยอะไรก็ตาม ‘Sweet Tooth’ กลับมาแล้วในซีซัน 2 กับเรื่องที่เข้มข้นขึ้นพอสมควร

จากผลงานของครีเอเตอร์ทั้งสองคน Jim Mickle และ Beth Schwartz ที่นำมาสู่ซีรีส์กลิ่นอายแฟนตาซีแบบเด็ก ๆ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับเล่าเรื่องจริงจังได้น่ารับฟัง เมื่อมนุษยชาติที่กำลังสิ้นหวัง ต้องการยารักษาแม้ต้องใช้ส่วนผสมที่ค่อนข้างนอกรีต แว้บแรก อาจถูกมองว่าเป็น มันคือซีรีส์แฟนตาซีที่เล่าเรื่องเด็กมนุษย์กลายพันธุ์ที่ถูกเรียกว่า ‘ไฮบริด’ หรือเปล่า แต่เอาเข้าจริง มันเล่าถึงโลกในอนาคตอันใกล้ ที่โรคร้ายจากไวรัสกำลังระบาดและคร่าชีวิตผู้คนจนมีจำนวนร่อยหรอลงมาก

และเหล่าไฮบริดถูกมองเป็นสัตว์เลี้ยงที่มนุษยชาติฉกฉวยใช้ประโยชน์

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Sweet Tooth’ Season 2

ในซีซันนี้ จะบอกเล่าเรื่องราวของ กัส (Christian Convery จากหนังเรื่อง ‘Playing with Fire’) เด็กชายครึ่งคนครึ่งกวาง, เวนดี้ (Naledi Murray)​ เด็กครึ่งคนครึ่งหมู และเหล่าเด็กไฮบริดคนอื่นๆ ที่ถูกคนบ้าหน้าหนวดอย่าง นายพลแอบบอต (Neil Sandilands) จับมาขังไว้ในสวนสัตว์ที่เคยเป็นเขตพิทักษ์เหล่าไฮบริด

ทอมมี่ เจพเพิร์ด (Nonso Anozie จากซีรีส์เรื่อง ‘Zoo’ หนังเรื่อง ‘Pan’ และ ‘Cinderella’) คนที่กัสคิดว่าเขาถูกยิงตายไปแล้ว แท้จริงเขายังมีชีวิตอยู่และกำลังร่วมมือกับผู้ก่อตั้งเขตพิทักษ์และเคยเลี้ยงดูเวนดี้อย่าง เอมี่ อีเดน (Dania Ramirez จากหนังเรื่อง ‘X-Men: The Last Stand’ และซีรีส์ ‘Heroes’)​ เพื่อหาหนทางช่วยเหลือเหล่าเด็กไฮบริดออกมาจากการถูกคุมขัง

ขณะเดียวกัน นายพลแอบบอตก็จับ อดิตยา สิงห์ (Adeel Akhtar จากหนังเรื่อง ‘Enola Holmes 2’) นักวิจัยที่ต้องการรักษาอาการติดเชื้อของรานี (Aliza Vellani) ผู้เป็นภรรยา มาบีบบังคับให้ค้นหาหาตัวยาเพื่อฆ่าไวรัส

อีกด้านหนึ่ง แบร์ (Stefania LaVie Owen จากหนังเรื่อง ‘Krampus’, ‘The Lovely Bones’ และ ‘The Cat and the Moon’) เด็กสาวที่พลัดพรากจากกลุ่ม ก็ให้บังเอิญได้พบเจอเพื่อนใหม่ จนไปลงเอยที่ค่ายฝึกของกองกำลังลาสต์เมน เพราะเธอมองว่านั่นเป็นหนึ่งหนทางที่จะพาเธอไปเจอกับกัส

รีวิวซีรีส์ ‘Sweet Tooth’ Season 2

ซีรีส์เรื่องนี้ถูกดัดแปลงสร้างจากคอมิกของ DC Comics ที่วาดและแต่งโดย Jeff Lemire ดังนั้นคงไม่ต้องแปลกใจอะไร หากจะมีชื่อของ DC Entertainment และ Warner Bros. Television แปะอยู่ในเครดิต และจากซีซันแรก ที่ให้ความรู้สึกเหมือนดูซีรีส์แฟนตาซีมิวแทนต์เด็กที่เจือด้วยเรื่องโรคระบาด แต่มาซีซันนี้ ดูจะจริงจังมากขึ้นหน่อยนึงแฮะ แต่ก็ยังไม่พ้นความเป็นซีรีส์ผจญภัยเหมือนเช่นเดิม

การตามหากัสของ พี่เบิ้ม และแบร์

คราวนี้ เรื่องราวเขียนให้พันธมิตรที่เคยร่วมกรำศึกด้วยกันมา ทั้ง กัส เจพเพิร์ด และ แบร์ ต้องแตกกระสานซ่านเซ็นกันไปคนละทาง และใส่ภารกิจให้พวกเขาทั้งสามต้องหากันจนเจออีกครั้ง กัส ถูกนายพลแอบบอตแห่งกองกำลังลาสต์เมนขังอยู่ในสวนสัตว์เอสเซ็กส์, เจพเพิร์ด รอดตายและร่วมมือกับเอมี่เพื่อกลับมาช่วยเหลือกัส ส่วนแบร์ก็ใช้วิธีเข้าร่วมกับกลุ่มลาสต์เมน เป้าหมายก็เพื่อแทรกซึมเข้ามาเจอกัสอีกเช่นกัน

ซีซันนี้ เน้นความเลวร้ายของตัวละครอย่าง นายพลแอบบอต ที่ปากก็บอกว่าทำเพื่อทางรอดแห่งมนุษยชาติ แต่พฤติกรรมดูโหดเหี้ยม แท้จริง เขามีเป้าประสงค์บางอย่างในการกระทำเหล่านี้ เขาเกลียดชังโรคร้าย และเกลียดชังเหล่าไฮบริด แต่เลือกจะบีบให้อดิค้นหาตัวยารักษา โดยใช้รานีมาเป็นแรงผลักดัน ก่อนที่มันจะนำไปสู่การค้นพบห้องทดลองที่ให้กำเนิดของไฮบริดคนแรก แต่ก็อาจเป็นสาเหตุของโรคร้ายด้วยเช่นกัน

ในพาร์ทการผจญภัยแบบเต็มๆ นั้น ซีซันนี้ถือว่าลดลงไปมาก หันไปเล่าเรื่องในมุมอื่น กึ่ง ๆ จะตั้งคำถามถึงการค้นคว้าหาทางรักษา เพื่อยับยั้งการสูญพันธุ์ของมวลมนุษยชาติ แต่ต้องแลกมากับการทำร้ายสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ มันยังเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีอยู่หรือไม่

ซีซันนี้ เพิ่มตัวละครเด็กไฮบริดเพิ่มขึ้นมาหลายคน แต่ยังไงๆ บทบาทก็ยังไม่มากเท่า กัส และ เวนดี้ อีกอย่างหนึ่งก็คือ จะมีเพียงลูกครึ่งที่เป็นสัตว์ที่มีลักษณะไม่น่ารักเท่านั้น ที่จะถูกทำร้ายหรือตาย ส่วนที่เหลือก็ยังอยู่ดี จนกลายเป็นว่า ต้องเป็นพวกที่น่ารักเท่านั้นที่อยู่รอด ซึ่งบางทีก็ดูลำเอียงไปหน่อยเหมือนกันนะ

กองกำลังลาสต์เมน

พูดถึงกองกำลังลาสต์เมนกันบ้าง เป็นพวกที่มีอาวุธครบมือ ซ่องสุมยุทโธปกรณ์ไว้เพียบ เลือกเอาสวนสัตว์ที่เคยเป็นเขตพิทักษ์ มาตั้งเป็นฐานและใช้เป็นที่คุมขังเหล่าเด็กไฮบริด พวกเขาเหมือนจะมีอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ แต่พฤติกรรมก็ยังชวนกังขา แสวงหายาต้านไวรัส เอาไปโฆษณาชวนเชื่อกับผู้คนในเมืองต่างๆ ฉีดยาให้เพื่อโชว์ผลการรักษา ก่อนจะนำไปฆ่าทิ้ง แถมยังมีแนวความคิดที่เหยียดเด็กไฮบริด มองพวกเขาเหมือนแค่สัตว์เลี้ยงที่ต้องขังไว้ ไม่ต่างอะไรกับสัตว์ทดลองในห้องปฏิบัติการ

บทซีรีส์พาไปสำรวจจิตใจของตัวละคร ที่ทำให้เรารู้จักพวกเขามากขึ้น เช่น ทอมมี่ เจพเพิร์ด พี่เบิ้มคนนี้ เคยมีประวัติเป็นลาสต์เมนมาก่อน เขาจึงมีตราบาปในใจ เคยพรากครอบครัวอื่นเพื่อครอบครัวตนเอง อีกส่วนก็เล่าถึงจอห์นนี่ น้องชายของนายพลแอบบอต ผู้มีจิตใจที่ดีกว่าพี่ชาย แต่ต้องยอมทำเลวและอยู่ภายใต้ร่มเงาของพี่ ด้วยเหตุเพราะไม่อยากต้องเสียครอบครัวสุดท้ายที่เหลืออยู่

ระหว่างทาง กัส เด็กน้อยไฮบริดได้เรียนรู้ชีวิต อย่างเช่น ได้เรียนรู้ว่า การโกหกนั้น แม้จะเกิดขึ้นด้วยเจตนาที่ดี แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป ขณะที่อดิ นักวิทยาศาสตร์ผู้เริ่มจะดิ่งสู่ความดำมืด เขายอมจะทำสิ่งเลวร้ายเพื่อให้ได้ผลที่ต้องการ

สิ่งหนึ่งในเรื่องที่เป็นปริศนามาโดยตลอด นั่นคือ ต้นเหตุที่มาของไวรัสล้างโลกนั้นคืออะไร ซีซันนี้ กัสจะได้ฟังเทปสำคัญของแม่ ที่แบร์เก็บไว้ให้ ก่อนจะส่งต่อมันไปสู่ซีซันที่สาม ที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า

โดยรวม ๆ แล้ว มันก็ยังเป็นซีรีส์แฟนตาซีฉบับเยาวชน เรื่องราวในนั้นมันยังไม่ดูโตนัก แต่ก็พยายามจะเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและจริงจังขึ้นนั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง

• รีวิวซีรีส์ ‘Sweet Tooth’ ซีซันแรก

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์