นานมาแล้ว มนุษย์บนโลกนี้ได้รู้จักกับนิทานก่อนนอน นิทานเจ้าหญิงเจ้าชาย ที่มีแต่เรื่องราวที่แสนประทับใจด้วยแง่มุมการมองโลกในแง่ดี และมีภาพประกอบสวยงาม อยู่มาจนวันหนึ่ง โลกมนุษย์ก็แปรเปลี่ยนมาให้ออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหวแบบการ์ตูนแอนิเมชั่น แต่พอมาถึงวันนี้ นิทานเจ้าหญิงเหล่านั้นกำลังถึงเวลาปรับเปลี่ยนอีกครั้ง จากภาพวาดพาฝัน บัดนี้ กลายเป็นคนจริงๆ แสดงแทนแล้ว ‘Cinderella’ คือหนึ่งในนั้น
วันนี้ ได้ฤกษ์ที่หนังเวอร์ชั่นคนแสดงของสาวใช้กับรองเท้าแก้วที่หายไปจะได้เข้าฉายรอบสื่อเสียที หลายคนหมายมั่นปั้นมือไว้เลยว่า มันจะต้องเป็นหนังดิสนีย์ที่ทำรายได้ถล่มทลายได้อีกเช่นเคย เมื่อเข้าไปชมด้วยตาตัวเองก็พบว่า มันเป็นไปได้สูงทีเดียว เรื่องราวในหนังนั้นแทบจะไม่ต้องเล่าอะไรกันมากมายนัก เพราะเรารู้ๆ กันดีอยู่แล้ว แต่ทำหนังของเรื่องราวที่ทุกคนรู้หมดให้ออกมาแล้วคนยังชอบมันได้อีกนี่มันช่างสุดยอดของจริงเลย
‘ซินเดอเรลลา’ ภาคนี้ นำเสนอให้เราได้รู้จักกับที่มาของสาวใช้ก้นครัวในบ้านตัวเองว่า ก่อนหน้านั้นเธอมีชีวิตเป็นอยู่อย่างไร ทำไมวันนึงเธอจึงกลายเป็นเพียงคนรับใช้ในบ้านที่มีแม่เลี้ยงกับลูกสาวอีกสองคนไปได้ มุมดราม่าที่อาจเชื่อยากจะพบเจอได้จริง แต่ถ้ามองว่ามันคือหนังแฟนตาซี มันไม่ต้องคิดว่าอะไรจริงจังขนาดนั้นก็ได้มั้ง
และแล้วสาวน้อย เอลล่า ก็ได้พบกับเจ้าชาย ความสัมพันธ์ระดับรักแรกพบนำไปสู่งานกาล่าในวังใหญ่ ฉากเต้นรำที่สวยงามเกินบรรยายได้บังเกิดขึ้น ผมว่าไม่ใครก็ใครต่างก็ต้องหลงเคลิ้มไปกับฉากนี้ ทั้งความสง่างามของซินเดอเรลล่าในชุดสีน้ำเงินที่ออกแบบมาอย่างน่าชื่นชม ทั้งลีลาการเต้นและการแพนกล้องอย่างนุ่มนวล
เป็นจุดขายของหนังเรื่องนี้เลยก็ว่าได้
แรกๆ ก็อาจจะสงสัย เหตุใดเขาจึงเลือกให้ Lily James มาเป็นซินเดอเรลล่า เมื่อไปดูด้วยตาจึงพบว่านางก็เหมาะจะเป็นไม่เบาเหมือนกัน ทั้งหน้าตาค่อนไปทางน่ารัก ยิ้มก็น่ารัก เสียงก็น่ารัก แม้ไม่ถึงขั้นสะกดใจ แต่ก็พอจะเป็นซินเดอเรลล่าให้คนสงสารและหลงรักได้ก็แล้วกัน ขณะที่เจ้าชายชาร์มมิ่ง บทนี้ตกเป็นของ Richard Madden ผู้ที่มีผลงานเป็นซีรี่ส์ตามจอทีวีเสียมากกว่า ก็เรียกได้ว่าหล่อสะกดใจสาวๆ โดยเฉพาะในฉากที่เจ้าชายคนนี้มาในชุดที่เปิดเผย “ความตุง” ดูเหมือนสาวๆ จะชื่นชอบเป็นพิเศษ
อีกสองคนที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้เลย คือ Helena Bonham Carter ในบทบางของนางฟ้าแม่ทูนหัว แม้ว่าจะโผล่มาไม่นานนัก แต่ก็ทำให้หลายคนอึ้งไปได้เหมือนกันว่า เธอคนนี้ก็เล่นเป็นตัวดีๆ กะเขาได้เหมือนกันแฮะ อีกคนที่เด่นมากๆ คือ แม่เลี้ยงใจร้ายที่รับบทโดย Cate Blanchett ซึ่งอย่างน้อย ในเวอร์ชั่นคนแสดงนี้ก็ทำให้เราเข้าใจความคิดอันเป็นที่มาแห่งกระทำของแม่เลี้ยงใจร้ายคนนี้ รวมทั้งการแสดงของเธอที่เหมือนจะร้ายแต่น่ารักอยู่ในที
เลยไม่น่าจะมีใครโกรธเธอลง
การแสดงอันน่าทึ่งประกอบชุดอันบรรเจิดของเคท ทำให้เธอโดดเด่นเทียบเท่าเอลล่า อีกทั้งหนังยังพยายามสรรหาความมีเหตุผลบางอย่างแทรกใส่เข้าไปในนิทานที่ใช้คนแสดง สร้างมิติให้เพิ่มขึ้นได้อย่างแยบยล แม้อย่างไรเสีย ก็ยังคงหลงเหลือความเป็นแฟนตาซีอยู่มากมาย แต่ก็คงไม่มีใครใส่ใจมันมากนัก
ความโดดเด่นนอกเหนือไปจากคอสตูมของแต่ละตัวละครแล้ว สเปเชียลเอฟเฟ็กต์ก็ออกมาค่อนข้างน่าพอใจ โดยเฉพาะฉากนางฟ้าทูนหัวแปลงร่างเอลล่า หลายสหายตัวจ้อย เสกรถฟักทองและรองเท้าแก้วให้ สวยงามดีทีเดียว แม้ทุกอย่างจะดำเนินไปและจบลงอย่างที่เรารู้กันดี
แต่ก็อดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้จริงๆ
ชื่อภาพยนตร์: Cinderella / ซินเดอเรลล่า
ผู้กำกับภาพยนตร์: Kenneth Branagh
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Chris Weitz (screenplay)
นักแสดงนำ: Lily James, Cate Blanchett, Richard Madden, Helena Bonham Carter, Nonso Anozie, Stellan Skarsgård
แนว/ประเภท: Adventure, Drama, Family
ความยาว: 112 นาที
เรท: ไทย/ , MPAA/PG
สัดส่วนภาพ: 2.35 : 1
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 12 มีนาคม 2558
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Genre Films, Walt Disney Pictures
ซินเดอเรลล่า
Cinderella - 7
7
Cinderella
การแสดงอันน่าทึ่งประกอบชุดอันบรรเจิดของเคท ทำให้เธอโดดเด่นเทียบเท่าเอลล่า อีกทั้งหนังยังพยายามสรรหาความมีเหตุผลบางอย่างแทรกใส่เข้าไปในนิทานที่ใช้คนแสดง สร้างมิติให้เพิ่มขึ้นได้อย่างแยบยล แม้อย่างไรเสีย ก็ยังคงหลงเหลือความเป็นแฟนตาซีอยู่มากมาย แต่ก็คงไม่มีใครใส่ใจมันมากนัก