รีวิวหนัง The Hunger Games Catching Fire | เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์
ได้เวลาของภาคต่อ เกมล่าเกม เปลี่ยนผู้กำกับใหม่ ได้หนังที่ดุดันและดราม่าเต็มอิ่มมากขึ้น
หนึ่งในภาพยนตร์ภาคต่อที่หลายคนเหลือเกินที่เฝ้ารอคอย ไม่พอมันยังเป็นภาพยนตร์จากวรรณกรรมหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ได้รับเสียงตอบรับดีเป็นพิเศษ (หลังๆ แป้กกันไปก็หลายเรื่อง) มันคือ ‘The Hunger Games Catching Fire’ เรื่องภาคต่อจากภาคเริ่มต้นที่พาเราไปรู้จักกับแดนดินที่ร่วงหล่นลงและอยู่ภายใต้การปกครองของแคปปิตอลผู้สร้างเกมส์เบนความสนใจของผู้คน
นี่คือเรื่องราวตอนต่อมาของเกมล่าเกมในครั้งก่อน หลังจากตัวเองของเรื่องอย่าง แคตนิส เอฟเวอร์ดีน และ พีต้า มัลลาร์ค กลายเป็น 2 คนผู้เหลือรอดจาก The Hunger Games ในครั้งนั้น พวกเขาไม่ได้มีชีวิตที่สุขสบายอย่างที่แคปปิตอลปลิ้นปล้อนบอกไว้ หากยังต้องตระเวนทัวร์ไปทุกเขตและแสดงตนเป็นคู่รักหลอกๆ ให้ทุกคนเชื่อ ‘เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์’ เล่าถึงความบ้าบอของรัฐที่ตั้งตนเป็นผู้ควบคุมทุกอย่าง
โดยที่ผู้คนในแต่ละเขตกำลังเริ่มลุกฮือออกมาต่อต้าน และมองแคตนิสในฐานะผู้จุดประกายไปเสียแล้ว
แคปปิตอลเฝ้ามองแคทนิสในฐานะตัวอันตราย และเฝ้ารอวันกำจัดเธออยู่ ด้วยฮังเกอร์เกมส์ที่จะทวีความโหดกว่าเก่าด้วยการทุ่มทุนสร้างกว่าครั้งไหน แคปปิตอลประกาศการเริ่มต้นเกมส์ครั้งใหม่ ควอเตอร์เควลครั้งที่สาม หรือฮังเกอร์เกมส์ครั้งที่ 75 ที่จะรวมผู้พิชิตจากครั้งที่ผ่านๆ มาและจากทุกเขตการปกครอง มาลงแข่งขันเอาตัวรอดเพื่อสร้างเกมโชว์หลอกให้ผู้คนจาก 12 เขตได้มัวเมาอีกครั้งและหลงลืมความเจ็บปวดทุกข์ทรมานจากการกดขี่ของแคปปิตอลไปเสียสิ้น
แต่แคปปิตอลเอาตรงไหนมามั่นใจว่าเกมนี้จะทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้นได้
Jennifer Lawrence ในบทบาทของแคตนิส เธอแสดงได้อย่างดีเยี่ยม ผู้คนที่ติดตามตัวละครตัวนี้มาตั้งแต่ภาคแรกย่อมจะรู้ภูมิหลังเป็นอย่างดี ต่างคอยเอาใจช่วยเธอให้ผ่านพ้นเกมอันเลวร้าย เจนลอว์น่าก้าวขึ้นเป็นดารารุ่นใหม่ที่ขึ้นหิ้งได้แน่ในอนาคตอันใกล้ แม้หนังจะไม่ค่อยให้บทกับ Liam Hemsworth ในฐานะ เกล ฮอว์ธอร์น มากนักแต่ก็ยังพอถือได้ว่าเขามีส่วนสำคัญกับเรื่องพอสมควร และแน่นอนว่า Josh Hutcherson ในฐานะ พีต้า มัลลาร์ค ได้บทเด่นไปตามเคย
Lionsgate เลือกเปลี่ยนผู้กำกับจากภาคแรกเป็น Francis Lawrence ซึ่งเขาสามารถทำให้ Catching Fire กลายมาเป็นภาคที่มาเต็มมากขึ้นทั้งในมุมดราม่าและแอ็คชั่นอลังการ เขายังคนที่จะกำกับภาคจบ ‘Mockingjay’ ทั้ง 2 ภาคที่จะตามมาอีกด้วย เขาคือคนที่กำกับ ‘I Am Legend’ และ ‘Constantine’ ทั้งยังกำกับ OK Go: Oh No Special Edition อีกด้วยนะครับ
‘เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์’ มีความยาวถึง 146 นาที ใครดูแล้วพบหนังค่อนข้างนานก็คงจะไม่แปลก แต่ถึงกระนั้น ก็อาจจะพบว่า หนังไม่ได้ยาวเกินไปเลย เมื่อภาคนี้มันทำออกมาส่งเสริมช็อตดราม่าที่อินมากขึ้น กับฉากในเกมไล่ล่าที่เข้มข้นขึ้น มีเรื่องราวให้เราได้ชวนอึ้งมากขึ้น ในฐานะของคนที่ไม่ได้อ่านหนังสือมาก่อน เรียกได้ว่า เต็มอิ่มมากๆ หนังจบ อารมณ์อยากต่อให้จบมันมีสูงมาก ในหัวยังคงวนเวียนอยู่ที่ประโยคนั้น…
จงจำไว้ว่า ใครคือศัตรูที่แท้จริง!
ชื่อภาพยนตร์: The Hunger Games: Catching Fire / เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Francis Lawrence
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Simon Beaufoy (screenplay), Michael Arndt (screenplay), Suzanne Collins (novel “Catching Fire”)
นักแสดงนำ: Jennifer Lawrence, Josh Hutcherson, Liam Hemsworth, Woody Harrelson, Willow Shields, Donald Sutherland
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Sci-Fi
ความยาว: 146 นาที
เรท: ไทย/ , USA/PG-13
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 21 พฤศจิกายน 2556
ผู้สร้าง/สตูดิโอ/ผู้จัดจำหน่าย: Color Force, Lionsgate
บทความที่เกี่ยวข้อง
- รีวิวหนัง ‘The Hunger Games เกมล่าเกม เกมล่าชีวิต’
- ‘The Hunger Games: Catching Fire’ ภาคที่สองของเกมล่าเกม
- รีวิวหนัง ‘The Hunger Games: Mockingjay Part 1’
- รีวิวหนัง ‘The Hunger Games: Mockingjay Part 2’
เกมล่าเกม 2 แคชชิ่งไฟเออร์
The Hunger Games: Catching Fire - 8
8
The Hunger Games: Catching Fire
ภาคต่อ The Hunger Games ที่ Jennifer Lawrence ในบทบาทของแคตนิส ยังคงแสดงได้อย่างดีเยี่ยม แม้จะมีความยาว 146 นาที แต่หนังไม่ได้ยาวเกินไปเลย เมื่อภาคนี้มันทำออกมาส่งเสริมช็อตดราม่าที่อินมากขึ้น กับฉากในเกมไล่ล่าที่เข้มข้นขึ้น มีเรื่องราวให้เราได้ชวนอึ้งมากขึ้น
