เราต่างเคยผ่านการรับชมภาพยนตร์ที่สร้างจากหนังสือนิยายกันมากพอดูแล้ว แต่หนังจากนิยายที่ได้รับความนิยมนั้นก็ยังคงถูกสร้างออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนิยายแฟนตาซีเชิงโรแมนติก ‘Fallen’ คือหนังในนั้นที่ถูกสร้างออกมาฉายในปีนี้
จากที่เราเคยได้พบกับเรื่องราวของความรักของมนุษย์ระหว่างความขัดแย้งของเหล่าแวมไพร์และมนุษย์หมาป่า มาคราวนี้ เราจะได้พบกับเรื่องราวความรักระหว่างมนุษย์ที่อยู่ท่ามกลางสงครามระหว่างเทพและมาร ด้วยทีมงานนักแสดงที่แทบไม่คุ้นหน้า ได้ผู้กำกับฯ เป็น Scott Hicks ผู้ที่เคยมีเครดิตจากการกำกับฯ หนังเรื่อง ‘The Lucky One’, ‘Shine’ และ ‘No Reservations’
กับผลงานการดัดแปลงจากนิยายขายดีของ Lauren Kate
เรื่องย่อหนัง ‘Fallen’
หนังมีชื่อไทยว่า ‘เทวทัณฑ์’ เล่าเรื่องราวของมนุษย์สาวสวยนาม ลูซ – ลูซินด้า ไพรส์ (Addison Timlin) ผู้ซึ่งถูกพ่อแม่ส่งมาเรียนในสถานที่แห่งหนึ่ง หลังจากเธอเห็นภาพหลอนและเป็นต้นเหตุการตายของเพื่อนชายอีกคน ที่นี่ เธอถูกส่งมาบำบัด
แต่ซอร์ดและครอสมิใช่โรงเรียนทั่วไป ที่นี่เต็มไปด้วยเด็กวัยรุ่นที่มีปัญหาไม่อาจอยู่ร่วมในสังคมได้ ถูกส่งมาเรียน รึจะเรียกได้ว่ามาบำบัดร่วมกันก็ย่อมได้ แต่หลังจากเข้ามาอยู่ได้เพียงไม่ถึงวัน ลูซก็พบเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รูปปั้นยักษ์หล่นลงมาเกือบจะทับร่างเธอ
ถ้าไม่ได้ชายหนุ่มหล่อที่ช่วยเธอไว้ได้ทัน
แดเนียล กริกอรี (Jeremy Irvine) คือนามของหนุ่มคนนั้น คนที่ลูซเห็นปุ๊บก็ตกหลุมรักในทันที แต่เธอก็กลับพบว่ามีชายอีกคนที่ทำให้เธอสนใจ หนุ่มหล่อแบดบอย แคม (Harrison Gilbertson) ที่เฝ้าตามเธอแจและพยายามหว่านเสน่ห์กับเธออยู่หลายครั้ง ก่อนที่เธอจะรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในท่ามกลางการต่อสู้เพื่อบางสิ่งบางอย่างของเหล่าทวยเทพที่แบ่งฝักแบ่งฝ่าย
และเธอกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการต่อสู้ครั้งนี้
รีวิวหนัง ‘เทวทัณฑ์’
ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ผมเองก็ไม่เคยได้อ่านเวอร์ชั่นหนังสือของ ‘เทวทัณฑ์’ จึงไม่อาจจะเปรียบเทียบความแตกต่าง ไม่อาจบอกว่าเวอร์ชั่นหนังจะดีกว่าหรือไม่ จะขอพูดถึงแต่สิ่งที่รู้สึกได้จากการรับชมหนังเรื่องนี้ก็แล้วกัน
เริ่มต้นมานั้น หนังพยายามจะบอกเล่าที่มาที่ไปอย่างคร่าวๆ ของเหตุบนโลกมนุษย์ในเรื่อง เรื่องราวที่เล่าถึงกำเนิดของเทพเจ้า ไปจนถึงการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย การทีมีเทวดาบางตนถูกขับไล่ลงมาจากสวรรค์และปะปนอยู่กับมนุษย์
เรื่องราวของความรักที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนกับชายผู้ซึ่งเพิ่งจะได้พบปะหน้ากัน มันดูไม่แปลกอะไรหลังจากเราได้พบเหตุแบบนี้ก่อนหน้าแล้ว แต่ความสัมพันธ์กับอีกคนมันก็ดูจะดำเนินไปอย่างรวดเร็วไม่แพ้กัน
นี่คือการกำเนิดอีกครั้งของพล็อตหนึ่งหญิงสองชายในนิยายรักแฟนตาซี
การที่เลือกผู้ชายมันได้หล่อคนละแบบก็นับว่าทำงานไปสำเร็จขั้นหนึ่งแล้ว เพราะในเรื่องนางเอกเธอจะต้องอยู่ระหว่างการเลือกระหว่างชายสองคน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่านางเอกอย่าง Addison Timlin จาก ‘That Awkward Moment’ ก็สวยน่ารักไม่เลวเลย
หนังเดินเรื่องผ่านการถ่ายทำที่ดูสวยงามน่าหลงใหล แต่บางครั้งก็ดูอ้อยอิ่งเวิ่นเว้อไปบ้าง มีกลิ่นของความหวามไหวไอรักของมนุษย์กับเทพอยู่พอประมาณ ผสานกับเส้นเรื่องที่ดูเบาบางจับต้องได้ยาก ขณะเดียวกันก็พยายามที่จะเล่าเรื่องราวของเหล่าเทวดาและพระเจ้าซ้ำไปซ้ำมาราวกับว่ากลัวผู้ชมจะไม่เข้าใจ ซึ่งไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นการทำให้มึนงงยิ่งกว่าเดิม
ตัวละครที่สมทบเข้ามาเรียกได้ว่าพอจะทำให้เรื่องดำเนินไปได้ ไม่ถึงกับขึ้นพาง่วง แค่ไม่อาจเพิ่มความน่าสนใจของเรื่องราวได้มากพอเท่านั้นเอง
ช่วงเวลาของการต่อสู้ระหว่างเทพด้วยกันดูไม่น่าตื่นตา และด้วยมุมกล้อง ดูไม่ค่อยออกว่าพวกเขากำลังต่อสู้ด้วยท่วงท่าไหนกัน ก่อนบทสนทนาจะจบลงอย่างรวดเร็ว รวบรัดเสียจนตามเรื่องไม่ทัน
ไม่ทันจะอินอะไรกับเรื่องราว หนังก็ตัดจบไปเสียก่อน…
ชื่อภาพยนตร์: Fallen / เทวทัณฑ์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Scott Hicks
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Michael Arlen Ross (screenplay), Kathryn Price (screenplay), Nichole Millard (screenplay), Lauren Kate (based on the novel by)
นักแสดงนำ: Daisy Head, Hermione Corfield, Joely Richardson, Lola Kirke, Addison Timlin, Jeremy Irvine, Harrison Gilbertson
ดนตรีประกอบ: Mark Isham
แนว/ประเภท: Adventure, Drama, Fantasy, Romance, Thriller
ความยาว: 91 นาที
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/, USA/PG-13
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 23 กุมภาพันธ์ 2560
ผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย/สตูดิโอ: Apex Entertainment, Lotus Entertainment, Mayhem Pictures, M Pictures
เทวทัณฑ์
Fallen - 5.4
5.4
Fallen
หนังเดินเรื่องผ่านการถ่ายทำที่ดูสวยงามน่าหลงใหล แต่บางครั้งก็ดูอ้อยอิ่งเวิ่นเว้อไปบ้าง มีกลิ่นของความหวามไหวไอรักของมนุษย์กับเทพอยู่พอประมาณ ผสานกับเส้นเรื่องที่ดูเบาบางจับต้องได้ยาก ขณะเดียวกันก็พยายามที่จะเล่าเรื่องราวของเหล่าเทวดาและพระเจ้าซ้ำไปซ้ำมาราวกับว่ากลัวผู้ชมจะไม่เข้าใจ ซึ่งไปๆ มาๆ กลับกลายเป็นการทำให้มึนงงยิ่งกว่าเดิม