![รีวิว Kidnap ล่าหยุดนรก | ตื่นเต้น Non-stop เอาลูกฉันคืนมา!](http://i0.wp.com/www.patsonic.com/wp-content/uploads/2017/06/kidnap-movie-featured.jpg?fit=1200%2C676&ssl=1)
หลังจากทุกสัปดาห์ที่ผ่านมา บ้านเราจะมีหนังฟอร์มยักษ์ที่จองพื้นที่เอาไว้ตลอดเวลา มาถึงสัปดาห์นี้ เหมือนจะเป็นสัปดาห์ที่เว้นวรรคการเข้าเริ่มฉายของหนังใหญ่เหล่านั้น ได้เวลาของหนังเล็กที่จะได้หายใจหายคอ ‘Kidnap’ ก็คือหนึ่งในนั้น ที่ติดโรคเลื่อนมาหลายครา ได้เวลาลงโรงเสียที
เมื่อ ฮัลลี่ เบอร์รี่ จัดตั้งบริษัทของตัวเองขึ้นมาเพื่อสร้างภาพยนตร์ในชื่อ 606 Films และนี่ก็คือภาพยนตร์เรื่องแรกของบริษัทนี้ เรื่องแม่ที่ลูกถูกลักพาตัวไป
และเธอก็ตามไล่ล่าอย่างไม่มีลดละ
เรื่องย่อหนัง ‘Kidnap’
เรื่องของเรื่อง มันไม่ซับซ้อนอะไรนักหรอก คาร์ลา แมคคอย (Halle Berry) คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ค้องเลี้ยงลูกคนเดียว แฟรงกี้ (Sage Correa) เด็กชายตัวน้อยวัยเพียงแปดขวบที่เหมือนแก้วตาดวงใจของคาร์ลา แม้ว่าเวลาของเธอที่จะเหลือให้เขานั้นมันไม่มากนัก
วันวุ่นๆ ที่เธอต้องง่วนอยู่กับงานเสิร์ฟในร้านอาหารกำลังจะผ่านไป และเธอก็ได้พาลูกน้อยไปเที่ยวสวนสนุก
ที่นั่น คือจุดเริ่มต้นของทุกอย่างที่แสนยุ่งเหยิงใน 24 ชั่วโมงต่อมาของคาร์ลา เมื่อเธอพบว่าแฟรงกี้ของเธอกำลังถูกชายและหญิงแปลกหน้าลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา สิ่งที่เธอจะทำได้คือการขับรถไล่ลามันไปให้ถึงที่สุด
เธอจะไม่หยุดจนกว่าจะได้ตัวลูกชายกลับคืน
รีวิวหนัง ‘ล่าหยุดนรก’
ถ้าเราจะอธิบายกันคร่าวๆ ว่าหนังอย่าง ‘ล่าหยุดนรก’ มันเป็นหนังแบบใด มันคือหนังระทึกขวัญของแม่ที่ไล่ล่าคนร้ายที่ลักพาตัวลูกตนเอง เปลี่ยนจากแทนที่เราจะได้พบการไล่ล่าด้วยตัวละครผู้ชายที่มีพละกำลังและมีความสามารถฉลาดหลักแหลม กลับกัน เราเลือกเปลี่ยนมาเล่าที่ตัวละครฝ่ายหญิงแทน
โดยเอาความรักของแม่ที่มีต่อลูกมาเป็นที่ตั้ง
เริ่มต้นมันดูเหมือนเป็นหนังดราม่า เมื่อมันเปิดด้วยภาพของเด็กตัวน้อยที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นด้วยความรักที่แม่มีต่อลูก หนังเริ่มสร้างความรู้สึกผูกพันตัวเราเข้ากับครอบครัวน้อยๆ คู่นี้ ก่อนที่จะพาเราไปพบกับเหตุการณ์ไล่ล่าที่พาเราลุ้นเอาใจช่วยสุดตัว
เพราะเราได้ผูกพันกับครอบครัวนี้ไปก่อนแล้ว
ถือว่าหนังทำได้ไม่เลวในจุดนี้ ก่อนที่เราจะพบว่าแฟรงกี้ถูกนำตัวขึ้นรถไป และคาร์ลาก็ออกรถเพื่อตามไล่ล่า หลังจากนั้น หนังก็ชักชวนเราลุ้นระทึกโดยมีเสียงดนตรีประกอบคอยช่วยเร้าอารมณ์
แน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อะไร ดูพล็อตแล้วมันก็ดูจะเดิมๆ ไปด้วยซ้ำๆ ดูจากสไตล์การถ่ายทำแล้วก็น่าจะเป็นหนังที่มีงบไม่มากนัก แต่เรียกได้ว่าจัดหนักเท่าที่จะทำได้ในงบที่มี เดินเรื่องที่ค่อนข้างลุ้นสุดตัวอยู่พอสมควรในหลายๆ ช่วง หลายคนอาจถึงขั้นลุ้นจิกเบาะ ฉากที่รถสองคนขับไล่ล่ากันบนถนน
ครึ่งแรกนั้นเสริมเข้าไปด้วยลีลาการแสดงล้นๆ ของ Halle Berry
ผมเองอาจจะรู้สึกบ้างนิดหน่อยกับลีลากับพูดอยู่คนเดียวในรถ แต่นั่นอาจเป็นวิธีเดียวที่จะเล่าให้ผู้ชมเข้าใจสถานการณ์และความคิดของคาร์ลาก็ได้ แต่ช่วงที่เธอขับรถในสถานการณ์คับขันนั่น การร้องแรกแหกกระเชอก็ดูช่วยให้คนดูลุ้นมากขึ้นอยู่เหมือนกันนะ เพราะนี่มันคือสไตล์ของการรับมือแบบหญิงๆ ไง
แต่มันก็มีบางจุดบางช่วงที่หนังดำเนินมาถึงแล้วทำให้เรารู้สึกแบบ… เฮ้ย เอางี้เหรอ บางทีก็ทำให้รู้สึกขำกันขึ้นมาทั้งที่มันควรจะเป็นเรื่องซีเรียสจริงจัง เพราะการแสดงออกหรือการตัดสินใจของตัวละครมันดูไม่เมกเซ้นส์ ขณะที่บางช่วงของหนัง สิ่งที่คาร์ลาตัดสินใจมันดูเข้าใจได้ นั่นเพราะมันเมกเซ้นส์นั่นเอง
ยิ่งเวลาผ่านไป เรายิ่งรู้สึกได้ว่าฮัลลี่ดูโทรมลงๆ เธอดูไม่ห่วงสวยแต่อย่างใด ทุ่มเทเล่นเต็มที่ให้มันออกมาดู “จริง” ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้คนดูรู้สึกได้ว่านี่คือผู้หญิง นี่คือเพศแม่ที่สตรองที่สุด พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อเอาลูกกลับคืน แถมยังได้เสียดสีวงการตำรวจไปด้วยในตัว เพราะตำรวจในเรื่องไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย เมื่อเธอคิดได้ สิ่งที่เธอทำก็คือเดินออกไปและขับรถไล่ล่าผู้ร้ายด้วยตัวเอง
อีกสิ่งก็คือผู้ร้ายและตำรวจมีแต่คนผิวขาว ที่คอยทำร้ายเด็กและคนผิวสี มีความเหยียดผิวสอดแทรกอยู่กลายๆ
สุดท้าย ตอนจบพระเอกต้องมา แล้วเขาก็มาจริงๆ…
ชื่อภาพยนตร์: Kidnap / ล่าหยุดนรก
ผู้กำกับภาพยนตร์: Luis Prieto
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Knate Lee (screenplay) (as Knate Gwaltney)
นักแสดงนำ: Halle Berry, Sage Correa, Dana Gourrier, Christopher Berry
ดนตรีประกอบ: Federico Jusid
ความยาว: 94 นาที
แนว/ประเภท: Thriller
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/, MPAA/R
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 29 มิถุนายน 25560
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Di Bonaventura Pictures, Gold Star Films, 606 Films
ล่าหยุดนรก
Kidnap - 5.7
5.7
Kidnap
แน่นอนว่ามันไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่อะไร ดูพล็อตแล้วมันก็ดูจะเดิมๆ ไปด้วยซ้ำๆ ดูจากสไตล์การถ่ายทำแล้วก็น่าจะเป็นหนังที่มีงบไม่มากนัก แต่เรียกได้ว่าจัดหนักเท่าที่จะทำได้ในงบที่มี เดินเรื่องที่ค่อนข้างลุ้นสุดตัวอยู่พอสมควรในหลายๆ ช่วง หลายคนอาจถึงขั้นลุ้นจิกเบาะ ฉากที่รถสองคนขับไล่ล่ากันบนถนน