รีวิวหนัง เดอะสโตน พระแท้ คนเก๊ | เล่าเรื่องพระเครื่องได้สนุก เล่นดีกันทั้งแคสต์

ถ้าพูดถึงวงการพระเครื่อง คงมีคนแค่กลุ่มหนึ่งที่อินและหลายคนก็หารายได้อยู่กับมัน แต่คนส่วนใหญ่น่าจะไม่เคยให้ความสนใจ เมื่อมีหนังสักเรื่องที่บอกกับเราว่าเขาจะเล่าเรื่องในวงการนี้ ก็อาจชวนขมวดคิ้วว่ามันจะออกมาสนุกหรือน่าดูงั้นเหรอ แต่หลังจากได้ชมหนังไทยอย่าง ‘เดอะสโตน พระแท้ คนเก๊’ ที่เป็นผลงานกำกับเรื่องแรกของอดีตมือกีตาร์วง Slur และนักแสดงชื่อดัง เป้ อารักษ์ แล้ว ต้องบอกว่า เขาทำให้คนดูนอกวงการพระรู้สึกสนุกกับหนังได้จริง ๆ นะครับ

คิดเห็นเช่นไรกับหนังไทยเรื่องนี้?

ไม่น่าเชื่อว่า เป้ทำหนังไทยเรื่องแรกก็ออกมาปังได้ขนาดนี้ หยิบจับเรื่องวงการพระเครื่องมาเล่า พร้อมยืมสไตล์หนังของผู้กำกับฮอลลีวูดชื่อดังมาใช้ พร้อมดึงนักแสดงดาวรุ่งและหน้าเก๋าหลายคนมาร่วมงาน กับบทที่ชักชวนให้ฉุกคิดถึงความดีในตัวตนและหินที่ห้อยคอ ว่าสิ่งไหนกันแน่จะปกป้องตัวเรา ให้เจ้านายเป็นเด็กหนุ่มขัดสนจนต้องเอาพระของพ่อไปขาย ก่อนพบเจอกับการไล่ล่าเพื่อคว้าสิทธิความเป็นเจ้าของพระดังในตำนาน

หนังเล่าเรื่องได้สนุก ลื่นไหล เรื่องเดินไปมีอะไรให้พลิกผันไปมาอยู่ตลอด ก่อนเจอซีนสุดท้ายที่ชวนลุ้นบทสรุป

เรื่องย่อหนัง ‘เดอะสโตน พระแท้ คนเก๊’

เอก (เจ้านาย จินเจษฎ์ วรรธนะสิน จากซีรีส์ ‘ฉลาดเกมส์โกง เดอะซีรีส์’) คือเด็กหนุ่มที่เกิดมาท่ามกลางสภาพครอบครัวที่กำลังลำบาก เขามีพ่อที่เคยเป็นตำรวจ แต่กำลังป่วยหนัก หลังพบพระเครื่องที่พ่อเก็บไว้ เขาคิดจะขายเพื่อนำเงินมาเป็นค่ารักษา มันจึงนำพาให้เขาได้พบกับโลกของเซียนพระเครื่อง

เขาเดินเข้าไปสอบถามเซียนที่รู้จักทางโชเชียลเพื่อขอให้ช่วยประเมินพระเครื่อง คนแรกที่เอกเลือกไปหาคือ เซ้ง พาราไดซ์ (นักร้องนำวง ไททศมิตร จ๋าย อิชณน์กร จากหนัง ‘4 KINGS 2’) เอกเกือบจะได้ขายพระคว้าเงินล้านกลับออกมาซะแล้ว ถ้าไม่ได้เจอกับหมวย (อ๊ะอาย กรณิศ จากหนัง ‘คุณชายน์ The Cliche’) สาวน้อยเซียนพระผู้เป็นลูกสาวของคุณพ่อสุนทร (นพพล โกมารชุน จากหนัง ‘มือปืน 2 สาละวิน’) เซียนพระที่เป็นประธานสมาคมพระเครื่อง

นั่นทำให้เขาได้รับรู้ว่า พระที่เขาเอาไปให้เซียนประเมินนั้น คือพระชื่อดังในตำนานที่หายไปจากตลาดพระกว่า 30 ปีที่เซียนการันตีว่ามันเป็นของแท้ ส่งผลให้การเดิมพันสะเทือนวงการที่มีมูลค่าสูงถึงหลักร้อยล้านบังเกิดขึ้น

เอกเพิ่งจะเข้าวงการพระเครื่องได้เพียงไม่กี่วัน เขาไม่เคยรู้เลยว่า ความปรารถนาที่แฝงมาด้วยความอันตรายของทุกคนที่ต้องการพระแท้องค์นี้มาครอบครองนั้นน่ากลัวเพียงใด เพียงไม่กี่วันถัดมา เขาก็ได้รู้ว่า ชีวิตของตนกำลังตกอยู่ในอันตราย และการเดินทางครั้งนี้กำลังให้บทเรียนสำคัญแก่ชีวิตของเขา

รีวิวหนัง ‘The Stone พระแท้ คนเก๊’

“วงการเนี้ย เขาเชื่อเซียน ถ้าเซียนดังๆ บอกว่าแท้ ก็คือแท้”

คำพูดของเซียนหมวยบอกให้เรารับรู้คร่าว ๆ เกี่ยวกับวงการนี้ สินค้าเฉพาะกลุ่มที่ราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นกับความดัง ความหายาก และความแท้-เก๊ของมันซึ่งการันตีด้วยคำพูดของเหล่าเซียน สำหรับคนนอกวงการ องค์พระเหล่านี้คงไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก ถ้าไม่ได้อยู่ในสภาวะอย่างเดียวกับเอก ที่พ่อป่วยหนักและกำลังขัดสนสุดขีด เมื่อพบว่าพ่อเก็บพระเครื่องไว้และเห็นว่าเป็นหนทางเดียวที่จะพลิกฟื้นครอบครัวขึ้นมาได้ ทั้งมีเงินมารักษาพ่อ และมีเงินมาใช้ชีวิต

ทว่า เขาไม่เคยรู้มูลค่าของมันมาก่อน จึงจำเป็นต้องพึ่งพาบรรดาเซียนพระ เท่ากับเขาเดินเข้าวงการครั้งแรก และเจอดีเข้าอย่างจัง เพราะองค์หนึ่งในนั้น คือ พระสมเด็จรุ่นที่หายไปจากวงการนาน 30 ปี รุ่นนี้ดัง..ดังมาก แฟนพันธุ์แท้พระเครื่องอย่างเซียนเซ้ง พาราไดซ์ ถึงกับตาลุกวาว อยากได้สุดขีดคลั่ง เกือบหลอกเอกได้สำเร็จ

แต่ทว่า เซียนหมวย ผู้เป็นดอกไม้ในดงเซียนพระเพศชาย เดินผ่านเข้ามาพอดี ลาภลอยจึงลอยไปซึ่งๆ หน้า เมื่อเธอบอกว่ามันมีมูลค่ากว่านั้นเป็นร้อยเท่า จากนั้น เมื่อเซียนหมวยแนะนำให้เขาเอาพระไปประกวด ทุกอย่างก็โกลาหล

เอาเป็นว่าเล่าไปแค่นั้นก็แล้วกัน เพราะจะเล่าลึกมากไม่ได้ เดี๋ยวจะดูหนังจริง ๆ ไม่สนุก บอกได้แค่เพียงว่า เรื่องราวมันจะพลิกผันหลายตลบ เล่นเอาเดาทางไม่ถูกกันเลยทีเดียว

จากที่เล่าไปข้างต้น ก็ไม่ได้มีนักแสดงแค่นั้น เพราะว่าหนังยังมีอีกหลายคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจ ซึ่งตัวเด่นสุดไม่พูดถึงไม่ได้คือ วิคเตอร์ (ฮิวโก้ จุลจักร จักรพงษ์ จากหนัง ‘มอร์ริสัน’) มือปืนมาดเข้มพูดน้อยต่อยหนัก เขาเข้าร่วมล่าพระเครื่องชิ้นที่อยู่มานานจนมันแข็งเหมือนหินไปแล้วองค์นี้ด้วย สองคนที่ไม่ได้เจอหน้ามานานอย่าง โก้ นฤเบศร์ จินปิ่นเพชร กับบทพ่อของเอก และ อั๋น สิรคุปต์ เมทะนี กับบทนายตำรวจที่ห้อยพระเครื่อง ก็เข้ามาร่วมมีบทบาทด้วยเช่นกัน

หนังเรื่องนี้พูดถึงวงการพระเครื่อง มันจึงทั้งกล้าที่จะฉีกตัวเองมาพูดเรื่องที่ยังไม่เคยมีใครพูดถึง ต้องชื่นชมทั้งผกก.และทีมงานเขียนที่ทุ่มเทหาข้อมูลเพื่อให้เล่าได้ตรงกับวงการจริงมากที่สุด แถมยังให้เซียนพระจริงมาร่วมแสดงอีกต่างหาก ขณะที่การเล่าเรื่องก็เรียกได้ว่า เดือดตลอดเรื่อง สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจากหนังจากผู้กำกับชื่อดังอย่าง กาย ริชชี่ และ เควนติน ตารันติโน่ และไม่ใช่แค่เดือดเพราะหันปากกระบอกปืนและสาดกระสุนเข้าใส่กันเท่านั้น หากแต่ละตัวละครก็สาดฝีมือการแสดงเข้าใส่กันด้วย

ตัวแรกเลย คือตัวละครของเจ้านาย เอกเป็นเหมือนตัวแทนของคนดูที่ไม่ได้อยู่ในวงการนี้แต่ดันเดินดุ่ม ๆ เข้าไปพบเจออะไรที่ไม่คาดฝัน แต่เอกเป็นลูกอดีตตำรวจที่กำลังจนตรอก เจ้านายทิ้งมาดลูกคนรวยมาเล่นเป็นเด็กหนุ่มจ๋อง ๆ ที่แค่ต้องการหาเงินรักษาพ่อ แต่ฉากระเบิดอารมณ์ก็ทำได้ถึงไม่แพ้กัน เอกกลายเป็นคาแรกเตอร์ตัวแทนความดี ที่หนังชี้ให้เห็นว่า คนดีจำเป็นต้องมีพระคุ้มครองหรือไม่

ขณะที่จ๋าย กับบทเซ้ง พาราไดซ์ พกพามาทั้งความกวนตีนและโผงผาง การแสดงของเขาพาเสียงหัวเราะเข้ามาในหนังได้อย่างยอดเยี่ยม เช่นกันกับอ๊ะอาย ที่ทิ้งความเรียบร้อยน่ารักไว้บ้าน แล้วจัดความเป็นซ้อที่ปากจัด ด่าเก่ง แต่เชี่ยวเรื่องดูพระ ฉีกหนีตัวจริงไปได้ไกลเลยทีเดียว

นอกจากแคสต์ที่จัดว่าเลือกมาได้อย่างตาถึงและแข่งกันสวมบทบาทอย่างเต็มฝีมือแล้ว บทหนังก็ถือเป็นอีกส่วนที่น่าชื่นชม แม้มันจะบอกเล่าถึงวงการพระเครื่องที่มีคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่จะอิน แต่หนังก็เล่าให้คนนอกวงการสามารถเข้าถึงหนังได้ดี ด้วยการให้ตัวเอกเป็นคนนอกที่จำเป็นต้องเข้าวงการและไปเจอกับอะไรข้างใน อีกอย่าง หนังเล่าถึงความสัมพันธ์ครอบครัว เอกเป็นลูกของตำรวจที่เคยทำคดีพระเครื่อง เซียนหมวยเป็นลูกสาวที่ไม่ลงรอบกับพ่อที่เป็นเจ้าพ่อพระเครื่อง กับบางตัวที่ยังเล่าไม่ได้ แต่มันก็ทำให้คนไม่เล่นสามารถเข้าถึงหนังได้

อีกส่วนหนึ่ง บทหนังเล่นกับความดีความชั่วในตัวคน ชวนคนดูตั้งคำถามว่าการรอดตายจากกระสุนว่ามันจะเกี่ยวข้องกับพระที่ห้อยหรืออมอยู่ในปากจริง ๆ หรือไม่ การมีหินอยู่กับตัวจะทำให้พวกเขาแคล้วคลาดได้จริง ๆ หรือเปล่า

เราควรเป็นคนดี คิดดี ทำดี แทนที่จะหาพระดังมาห้อยอย่างนั้นหรือเปล่า

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง