หลังประสบความสำเร็จกันไปพอประมาณกับซีรีส์แนวแฟนตาซีที่ไม่อาจจะเรียกว่าย้อนยุคได้ อย่าง ‘Alchemy of Souls’ หรือในชื่อไทย ‘เล่นแร่แปรวิญญาณ’ ที่เล่าเรื่องผ่านมาถึงตอนที่ 20 ก็เว้นวรรคให้คนดูได้หยุดพักหายใจและรอคอยการมาถึงของพาร์ท 2 หรือภาค 2 ที่มีชื่อว่า ‘Alchemy of Souls: Light and Shadow’
โดยพาร์ทหรือภาคที่สองนี้จะมีความยาวเพียง 10 ตอน หรือยาวเพียงครึ่งหนึ่งของพาร์ทหรือภาคต้น เพราะฉะนั้น มันจะจบลงอย่างรวดเร็วแบบไม่ปล่อยให้รอนาน กับเรื่องราวของอาณาจักรแดโฮที่สมมติขึ้นเป็นดินแดนที่ปกครองในระบอบกษัตริย์และรุ่งเรืองด้วยวิทยาการด้านเวทมนตร์ การแปรวิญญาณคือศาสตร์ที่ทรงพลังทว่าก็น่ากลัว ตัวเอกเป็นจอมเวทหญิงที่มีฝีมือสูงส่งที่
*** บทความนี้ อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดูมาก่อน เพราะอาจมีหลายส่วนที่บอกเล่าถึงเนื้อหาในเรื่องพาร์ทแรก ส่วนหนึ่งเพื่อต้องการจดบันทึกไว้เพื่อการทบทวนในอนาคตครับผม
ทำความรู้จักกับ ‘Alchemy of Souls’ ด้วยภาคแรก
คนทำเขาต้องการสร้างโลกใบใหม่ที่อยู่ในจินตนาการ เขาจึงเลือกจะให้มันเป็นอาณาจักรที่ไม่มีอยู่จริงบนโลก ไม่ก็อาจเป็นมิติคู่ขนานที่เรามองไม่เห็น ที่นั่นมีอาณาจักรแดโฮที่วิชาเวทมนตร์รุ่งเรือง ซึ่งก็แน่นอนว่าต้องมีทั้งพวกดีและพวกร้าย มีทั้งวิชาเทพและวิชามาร ซึ่งหลายครั้ง วิชามารก็ใช่จะเลวร้ายเสมอไป โดยวิชาซึ่งได้ชื่อว่าเป็นวิชาฝ่ายมารขั้นสูงคือ วิชาแปรวิญญาณ เป็นการย้ายวิญญาณไปอยู่ในร่างอื่น เพียงแต่มันยังไม่ค่อยเสถียร ไม่นานร่างนั้นก็จะกลายเป็นหิน จึงต้องกลืนกินพลังชีพของมนุษย์เพื่อคงสภาพตัวเอง
ในโลกนั้นจอมเวทนามนักซูที่ถูกตามล่าจนมุมจนจนต้องแปรวิญญาณไปอยู่ร่างมูด็อกที่ไร้พลัง และในโลกนี้มีคุณหนูสี่ฤดู หรือ 4 วัยรุ่นหนุ่มสาวที่อยู่ในตระกูลหรือสำนักสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น ซอยุล จินโชยอน ดงกู และจางอุก ซึ่งคนสุดท้ายนี้เป็นผู้เดียวที่ไร้วิชาแถมมีเบื้องหลัง เพราะแท้จริงแล้ว เขาเป็นบุตรของกษัตริย์องค์ก่อนที่ย้ายร่างมาสมสู่กับมารดาของจางอุก เขาถูกจางกังผู้พ่อปิดพลังไว้ด้วยเกรงจะกลายเป็นคนก่อศึกแย่งชิงบัลลังก์ในอนาคต แต่ถูกเลี้ยงดูมาโดยพัคจินหัวหน้าสำนักซงริม
การณ์กลับกลายเป็นว่า จางอุกได้สาวใช้คนใหม่เป็นมูด็อก แถมล่วงรู้ว่านางคือนักซู จึงขอให้นางสั่งสอนวิชา ซึ่งพาร์ทแรกก็ใช้เวลาหลายตอนไปกับการเรียนรู้พลังของจางอุกนั่นแหละครับ
และในโลกนั้นก็มีตัวร้ายอย่าง จินมู รองหัวหน้าสำนักชอนบูกวันผู้มีพันธมิตรใหญ่คือพระมเหสีที่อยู่ภายในราชสำนัก เขาเป็นชายผู้กระหายในอำนาจ มุ่งหมายจะเป็นใหญ่ พยายามทำทุกวิถีทางด้วยการใช้ความสามารถด้านการแปรวิญญาณเพื่อทำลายไม่ก็กลืนกินสำนักอื่น ซึ่งก็คงไม่พ้น ซงริมของพัคจิน และจินโยวอนของจินโฮกยอง จินมูถึงขนาดควานหาคนที่จะมาเป็นจินบูยอน ธิดาตาบอดที่หายไปยังจินโฮกยอง
ขณะที่ในแง่มุมของความรัก ซอยุลเองก็เคยรักกับนักซู แต่นั่นเป็นเรื่องราวก่อนที่นักซูจะแปรวิญญาณมาอยู่ในร่างของมูด็อกที่กลายมาเป็นทั้งสาวใช้ อาจารย์ส่วนตัวและคนรักของจางอุก ส่วนจินโชยอนก็เคยแอบชอบจางอุกก่อนจะมาคบหากับดงกู
‘เล่นแร่แปรวิญญาณ’ ภาคแรกจบลงตรงไหน
เรื่องราวถูกเฉลยไปแล้วว่า มูด็อกที่เคยมีร่างกายอ่อนแอตาบอดนั้น แท้จริงเธอคือ จินบูยอน ธิดาคนโตของจินโฮกยอง ผู้นำสำนักจินโยวอน เธอถูกนักซูแปรวิญญาณสลับและยึดร่างไป ทำให้กลายเป็นคนตาดีแต่ไม่มีพลัง ด้านจางอุกเขาก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นจอมเวทแห่งจองจินกัก
ขณะที่ดงกูและจินโชยอนที่รักกันก็กลับไม่สมหวังและมองหน้ากันไม่ค่อยติด แม้จะยังรักกันอยู่ก็ตาม
พาร์ทแรกจบไปด้วยฉากของนายน้อยจางอุกที่ถูกคมดาบของมูด็อกผู้ต้องมนต์ปักทะลุอกตายคาอกคนรัก แต่เขากลับฟื้นคืนชีวิตขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ด้วยพลังจากฟากฟ้าที่รับเข้าสู่ร่าง ขณะที่ร่างของมูด็อกเองก็กำลังกลายเป็นหิน จนเลือกจบชีวิตด้วยการโดดลงทะเล โดยมีคนดึงเธอขึ้นมา ทุกอย่างจบลงอย่างค้างคา ปล่อยคนดูในลอยคอรอคอยการกลับมาของเรื่องราวที่เหลือไปอีกหลายเดือน
ตามต่อมาถึงภาคที่สอง ‘Alchemy of Souls: Light and Shadow’
เล่าเรื่องราวหลังเหตุการณ์ในภาคแรกผ่านไป 3 ขวบปี คุณหนูสี่ฤดูเริ่มจะห่างเหินกัน จองจินกักก็กลายเป็นพื้นที่ร้าง จางอุกกลายเป็นมือปราบปีศาจไปแล้ว เขากลายเป็นชายหนุ่มที่พูดน้อยผู้ที่วันๆ เอาแต่ทำงานสังหารผู้แปรวิญญาณอย่างแข็งขัน แต่ชีวิตเหมือนถูกสาป เหล่าวิญญาณอาฆาตมักเข้ามารุมล้อม รอบตัวจึงเย็นยะเยือก จนชาวเมืองต่างหลีกเลี่ยงไม่กล้าเข้าใกล้ ขณะที่พัคจินส่งต่อตำแหน่งผู้นำซงริมให้กับดงกูเป็นรักษาการ ตัวเขาเองกลายมาเป็นพ่อบ้านธรรมดาที่หันมาสนใจการทำอาหาร
ส่วนมูด็อก ร่างของนางถูกนำขึ้นมาจากน้ำ ได้อาจารย์อีที่ใช้พลังของนักซูมาชุบชีวิต ร่างจึงแปรเปลี่ยนไปมีหน้าตาของนักซู พำนักอยู่ในจินโยวอนในฐานะจินบูยอน จินโฮกยองบอกว่านางชื่อจินบูยอนเป็นลูกคนโตแต่นางจดจำอะไรก่อนนั้นไม่ได้เลย แถมต้องอยู่ในสำนักราวกับผู้ถูกกักขังจนวันที่จางอุกไล่ล่าผู้แปรวิญญาณไปถึงสำนักจินโยวอน
จินบูยอนยังคงสามารถมองเห็นพลังของหินน้ำแข็งที่อยู่ในร่างจางอุก แต่นางก็ไร้ซึ่งพลังอื่น เมื่อความต้องการของทั้งสองตรงกัน จางอุกทั้งช่วยนางหนีออกมา ล่มงานแต่ง และยังประกาศเป็นผัวเมียกับนางอีก เหตุการณ์ในภาคนี้เหมือนจะกลับด้านกันกับภาคก่อน ครั้งนั้น มูด็อกช่วยค้นหาพลังถูกปิดไว้ในตัวจางอุก มาภาคนี้ เป็นจางอุกที่ค้นหาพลังที่อยู่ในตัวบูยอน โดยที่จางอุกก็ไม่รู้ว่านางคือมูด็อกคนที่เขารัก
ผู้คนต่างไม่เชื่อว่าจางอุกจะตัดใจจากมูด็อกได้ไว แต่ผู้ชมก็คงอยากจะเชื่อว่า แท้จริงแล้วจางอุกไม่ได้มองเพียงความงดงามและพลังของบูยอนเท่านั้น หากก็เป็นได้ว่าเขาอาจสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่คุ้นเคยจึงเลือกจะพาเธอมาอยู่ด้วย แม้การแต่งงานของจางอุกและบูยอนจะยังไม่เกิดขึ้น แต่ความทรงจำและพลังของบูยอนก็มีวี่แววก็จะกลับมา ขณะที่จินมูก็ยังคงมุ่งหวังอำนาจไม่เลิก
ความรู้สึกที่มีต่อ ‘เล่นแร่แปรวิญญาณ’ ทั้งสองพาร์ท
ผมว่าเขาคงวางตัวเอาไว้แล้ว จองโซมิน น่าจะเซ็นสัญญาและเล่นได้เฉพาะภาคแรก เท่าที่เห็นเธอก็มีคิวค่ายทำงานอื่นต่อ ขณะที่ โกยุนจอง ที่ปรากฏเพียงช่วงแรกก็จะได้รับโอกาสกลับมาเล่นแบบเต็มๆ ในภาคสอง คนเขียนบทเลยต้องหาวิธีที่ทำให้มูด็อก (หรือจินบูยอน) กลับมามีชีวิตใหม่ด้วยหน้าตาของนักซูด้วยตรรกะแบบแดโฮ เหตุผลบางอย่างอาจจะชวนรู้สึกงงๆ อยู่บ้าง บทของซีรีส์บางช่วงก็อาจไม่ค่อยมีอะไร เดินไปอย่างเชื่องช้าแต่ไม่ได้ยากต่อการคาดการณ์มากนัก
แม้บทจะไม่ค่อยส่งให้นักแสดงได้เล่นอะไรที่ยากเย็นนัก แต่เพราะความแฟนตาซีภายใต้บรรยากาศของซีรีส์ที่เหมือนจะย้อนยุคด้วยอาณาจักรจอมเวทอย่างแดโฮ เรื่องเดินไปเรื่อยตามแต่จินตนาการของผู้เขียน ประกอบกับเอฟเฟกต์เทคนิคพิเศษก็สร้างสีสันให้ซีรีส์มันยังชวนติดตามอยู่ สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดผู้คนก็คงเป็นตัวละครวัยรุ่นหลายๆ ตัวในเรื่องเดียวกัน หลังพาร์ทแรก จองโซมิน ทำหน้าที่ได้อย่างดี พาร์ทหลังก็มี โกยุนจอง ที่ถึงกับทำให้หลายคนเพ้อแต่ต้องยอมรับว่าเคมีของเธอก็เข้ากันได้ดียิ่งกับ อีแจอุก ผู้ที่มีพลังมากล้นเกินกว่าจอมเวทใดๆ
‘เล่นแร่แปรวิญญาณ’ พาร์ท/ภาค 2 นี้มีแค่ 10 ตอน เรียกได้ว่า จบเร็วกว่าพาร์ทแรกมาก ดีแล้ว แฟนๆ จะได้ไม่ต้องลงแดงนาน
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์ พาร์ท 1
ชื่อซีรีส์ | Alchemy of Souls / เล่นแร่แปรวิญญาณ / 환혼 |
ผู้กำกับ | Park Joon Hwa/พัคจุนฮวา (เจ้าของผลงาน ‘Touch Your Heart’ และ ‘What’s Wrong With Secretary Kim’) |
ผู้เขียนบท | Hong Jung Eun/ฮงจองอึน และ Hong Mi Ran/ฮงมีรัน (เจ้าของผลงาน ‘A Korean Odyssey’ และ ‘Hotel del Luna’) |
นักแสดง | Lee Jae Wook/อีแจอุก, Jung So Min/จองโซมิน, Minhyun/ฮวังมินฮยอน, Yoo In Soo/ยูอินซู, Arin/อาริน, Ko Yoon Jung/โกยุนจอง |
แนว/ประเภท | แฟนตาซี, โรแมนติก, ดราม่า |
จำนวนตอน | พาร์ท 1: 20 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 18 มิถุนายน – 21 สิงหาคม 2022 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | tvN, Netflix |
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์ พาร์ท 2
ชื่อซีรีส์ | Alchemy of Souls: Light and Shadow / เล่นแร่แปรวิญญาณ 2 / 환혼: 빛과 그림자 |
ผู้กำกับ | Park Joon Hwa/พัคจุนฮวา, Bae Hyun Jin/แบฮยอนจิน |
ผู้เขียนบท | Hong Jung Eun/ฮงจองอึน และ Hong Mi Ran/ฮงมีรัน |
นักแสดง | Lee Jae Wook/อีแจอุก, Minhyun/ฮวังมินฮยอน, Yoo In Soo/ยูอินซู, Arin/อาริน, Ko Yoon Jung/โกยุนจอง, |
แนว/ประเภท | แฟนตาซี, โรแมนติก, ดราม่า |
จำนวนตอน | พาร์ท 2: 10 ตอน |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 10 ธันวาคม 2022 – 8 มกราคม 2023 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | tvN, Netflix |
เล่นแร่แปรวิญญาณ
พล็อตและบท - 7.4
การแสดง - 7.4
การดำเนินเรื่อง - 7.1
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.7
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7.9
7.5
Alchemy of Souls และ Alchemy of Souls: Light and Shadow
ซีรีส์เกาหลีแนวแฟนตาซี ที่เซ็ตสร้างโลกให้เป็นอาณาจักรแดโฮที่พลังเวทรุ่งเรือง ใช้คอสตูมแบบเกาหลีย้อนยุค บทซีรีส์อาจทำเรื่องเดินทางช้าและไม่ส่งให้นักแสดงได้ใช้ความสามารถมากนัก บางช่วงบางตอน บทอาจดูฝืน แต่ด้วยหน้าตา-เคมีพระนาง การใช้นักแสดงวัยรุ่น และสเปเชียลเอฟเฟกต์ล้นจอ ทำให้มันกลายเป็นซีรีส์ที่มีผู้คนชื่นชอบและติดตามอย่างต่อเนื่อง