รีวิวซีรีส์ Dear Hongrang | ฮงรัง นายน้อยคนนี้ ตัวจริงหรือตัวปลอม?

ถ้าพูดถึงซีรีส์เกาหลีแนวสืบสวนนี่ก็คงต้องเรียกว่า มีกันออกมาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นสิ่งคุ้นชินไปแล้ว แต่ครั้งนี้ เขาพาเราย้อนกลับสู่ยุคโชซอน นอกจากพาไปเจอกับการสืบหาความจริง ก็ยังพาไปเรื่องรักโรแมนติกในนั้นด้วย ‘Dear Hongrang’ หรือชื่อไทย ‘ฮงรัง’ ทางเน็ตฟลิกซ์นั่นเองครับ

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์ซากึกแนวสืบสวนเรื่องนี้?

มันเป็นซีรีส์ย้อนยุคที่มีกลิ่นสืบสวนเข้มข้น แต่ก็ผสมผสานด้วยกลิ่นแอ็คชันและโรแมนติกเพื่อความครบรสตามสไตล์ซีรีส์เกาหลี พระเอกที่ปลอมตัวเข้าบ้านนางเอกเพื่อทำภารกิจบางอย่าง แต่ก็กลับตกหลุมรักนางเอกจนยอมที่จะฝ่าฝืนคำสั่งเพื่อช่วยเหลือนาง บทของมันเดินไปอย่างค่อนข้างกระโดด ทำให้ยากจะเข้าใจความคิดตัวละคร แถมมันยังชวนตะหงิดใจกับการรักกันของตัวละครที่เป็นญาติกัน (แม้ความจริงจะไม่ใช่ก็เหอะ)

อย่างไรก็ดี ซีรีส์เรื่องนี้ถ่ายภาพได้สวยงามเลยทีเดียว ขณะที่ฉากต่อสู้ก็ดูจะเน้นกันจัดๆ มีช็อตเท่ ๆ เต็มไปหมดเลยนะ

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Dear Hongrang’

เมื่อ 12 ปีก่อน ฮงรัง บุตรชายของสมาคมตระกูลมินซึ่งเป็นตระกูลพ่อค้าสุดมั่งคั่งและทรงอิทธิพลในยุคโชซอนได้ถูกลักพาตัวไป ท่ามกลางความทุกข์ระทมของผู้เป็นแม่ที่ถึงขั้นเมามายไม่ได้สติ พวกเขารับ มูจิน (จองการัม จากซีรีส์ ‘Gangnam B-Side’ และ ‘The Interest of Love’) คนตระกูลชิมมาเป็นลูกบุญธรรมและให้ดูแลจัดการสมาคมการค้า ระหว่างนั้น ทั้งท่านพ่อและท่านแม่ก็เสาะหาลูกชายอย่างมีความหลังเรื่อยมา

แต่แล้วจู่ๆ หลังสูญเสียลูกชายไปนาน 12 ปี พวกเขาก็ได้พบกับคนที่ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าเป็นตัวจริง จึงได้ต้อนรับ ฮงรัง (อีแจอุค จากซีรีส์ ‘Alchemy of Souls: Light and Shadow’ ) กลับเข้าบ้านอีกครั้ง ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัยของแจอี (โจโบอา จากซีรีส์ ‘Destined with You’ และ ‘Tale of the Nine Tailed’) พี่สาว(ลูกพี่ลูกน้อง)ที่สนิทชิดเชื้อกันมากในวัยเด็ก เธอไม่เชื่อว่าเขาคือตัวจริง ขณะที่มูจินก็ไม่ชอบใจอย่างยิ่งเพราะถ้าเขาเป็นตัวจริง มูจินก็คงต้องสูญเสียทุกอย่าง และอาจรวมทั้งแจอีที่เขาหลงรักด้วย

ทว่า ฮงรังผู้นี้เข้าบ้านมาพร้อมกับความลับที่เก็บงำไว้ แต่ความสัมพันธ์ที่กำลังเกิดขึ้นตามมานั้นเล่า อาจกลายเป็นความรักระหว่างพี่น้องก็ได้ใครจะรู้

รีวิวซีรีส์ ‘ฮงรัง’

เป็นอีกครั้งที่นายแพทถูกดึงดูดให้เข้าสู่โลกของซีรีส์ซากึก อันเป็นซีรีส์เกาหลีย้อนยุคที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว และก็เป็นความยุ่งยากอีกครั้งในการติดตามเพราะนอกจากมันจะเป็นซีรีส์แนวลึกลับสืบสวนหาความจริงแล้ว ความซากึกของทำให้ผมมีปัญหาในการแยกแยะตัวละครฝ่ายชายที่ไว้หนวดเคราทุกครั้งไปเนี่ยแหละน่า

ทีแรก มันพาให้คิดว่านี่จะเป็นซีรีส์ผสมกลิ่นแฟนตาซีหรือเปล่า เมื่อมันบอกเล่าถึง ซอลอิน ปีศาจร่างซีดผอมสูง ผมยาวสีขาว ดวงตาก็ยังเป็นสีขาว ถ้าโดนแสงอาทิตย์จะโดนเผาไหม้ตาย ที่ชอบลักพาตัวเด็กน้อย แต่เมื่อดูไปสักพัก ก็พบว่ามันตั้งใจจะเล่าในแบบซีรีส์สืบสวนนั่นแหละ แค่สร้างความลึกลับด้วยความคิดความเชื่อแบบคนเกาหลีสมัยโบราณเท่านั้นเอง และบางส่วนของเรื่องก็ยังเป็นแอ็คชันต่อสู้กันด้วยดาบ บางหนก็มีธนู เอาเป็นว่า พอจะน่าสนใจอยู่เหมือนกันนะ

ซีรีส์เกาหลีซากึกเรื่องนี้ ดัดแปลงสร้างมาจากนิยายชื่อ ‘Tangeum: Geumeul Samkida’ ผลงานของ จางดาฮเย มันเล่าถึง นายน้อยที่หายตัวตั้งแต่วัยเด็ก ผ่านไป 12 ปี เขาจึงกลับมา ฮงรังวัยหนุ่มต้องเจอว่าท่านพี่โตเป็นสาวและเคลือบแคลงในความเป็นตัวจริงของตน และต้องเจอกับพี่ชายบุญธรรมที่ต้องการครอบครองทั้งแจอีและตำแหน่งแห่งที่ในสมาคม ไม่เท่านั้น ท่านพ่อท่านแม่ที่ไม่ได้อยู่กันด้วยความรัก ก็ยังแก่งแย่งสร้างความวุ่นวายให้กับตระกูลไม่รู้จบ

ความจริงแล้ว ไม่ใช่แค่ท่านพ่อท่านแม่ที่สืบหาลูกชายเรื่อยมา แต่แจอีเองก็เช่นกัน เพราะฮงรังคือเพื่อนคนเดียวสมัยเด็กของเธอที่เกิดมาอาภัพ ไม่เคยได้เจอหน้าแม่ผู้คลอดเธอแล้วเสียชีวิต ด้วยเบาะแสบางอย่างทำให้แจอีเริ่มสืบหาความจริง ด้านมูจินเองก็เริ่มสืบหาอดีตของฮงรังผู้นี้ เช่นเดียวกับชายที่ชื่อฮงรัง เขากำลังติดตามการกลับมาคลื่อนไหวของซอลอินและเบาะแสของจิตรกรที่กลับมาวาดภาพต่อ

แม้มีหลายสิ่งที่ชวนให้แจอีและมูจินไม่เชื่อในตัวฮงรังผู้เพิ่งกลับมา แต่ฮงรังผู้นี้แหละ ก็พยายามเหลือเกินที่จะแสดงให้ทุกคนในบ้านเชื่อว่า เขานี่แหละคือ “ตัวจริง”

บางสิ่งที่ทำให้ไม่ชอบใจท่านแม่ก็คือ ความเจ้ายศเจ้าอย่าง ความขี้เหยียด นางแสดงออกอย่างโจ่งแจ้งว่าเกลียดชังแจอี คาแรกเตอร์ของมินยอนกี (รับบทโดย อึมจีวอน จากซีรีส์ ‘When Life Gives You Tangerines’) แม้นางจะมีสิทธิถือตนว่าเจ้าของสมาคมเพราะมันสืบทอดต่อจากท่านพ่อ แต่การมองว่าชิมยอลกุก (รับบทโดย พัคบยองอึน จากซีรีส์ ‘Hyper Knife’) เป็นเพียงลูกเขยผู้มีหน้าที่เพียงดูแลสมาคมตามคำสั่ง ก็ทำให้เธอเป็นตัวร้ายที่คนดูไม่รักในเรื่องนี้ไปในทันที

แน่นอนว่า คนดูจะต้องสงสัยตั้งแต่แรก ว่าแท้จริงแล้ว เขาคือฮงรังตัวจริงหรือปลอมกันแน่ แต่กับบทของแจอี ดูผีเข้าผีออกอยู่เหมือนกัน บางคราวก็เชื่อมั่นว่าไม่ใช่แน่ แต่จู่ๆ เธอก็เชื่อเขาอย่างสนิทใจซะงั้น บทซีรีส์เองก็พยายามให้คนดูสับสนก่อนที่จะบอกความจริงให้รู้ว่าที่จริงแล้ว เขาคือฮวีซู แล้วจากนั้นก็มีแต่ตัวละครนั่นแหละที่เชื่อ เพราะคนดูเลิกเชื่อไปแล้ว

“เหตุที่ของปลอมเป็นของปลอม เพราะมีของจริงอยู่เท่านั้นแหละ”

อย่างไรก็ดี มันก็ยังมีข้อกังขาอยู่บ้าง ตรงแจอีกับฮงรัง (สมมติเขาเป็นตัวจริงและแจอีก็เชื่อเช่นนั้น) ต่างก็ย่อมรู้ว่าตนเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ก็กลับรักกัน บางทีบทก็ดูจะไม่ใส่ใจเรื่องความรักระหว่างคนในครอบครัวไปนิดนะ

จะว่าไป เรื่องราวในนั้นมันก็ดูซับซ้อนดี ตัวละครเยอะแยะไปหมด คล้ายจะเป็นการเมืองในตระกูล เมียที่ต้องการกุมอำนาจและใช้ความร้ายบริหารมัน ขณะที่ผัวพยายามรักษาอำนาจไว้ มีเมียหลายคนแต่ก็โดนฆ่าหมด ลูกชายหายตัวเลยต้องตั้งลูกบุญธรรมขึ้นมารับหน้าที่หัวหน้าพ่อค้า ซึ่งก็ดันไปหลงรักลูกสาวเข้าอีก ไม่เท่านั้น ยังมีคนที่คิดแค้นจนแทรกซึมเข้ามาเพื่อทำลายตระกูลนี้ด้วย

แต่จะว่าก็ว่านะ นายแพทแสนมึนงงกับตรรกะของตัวละครพอควรเลย กอปรกับเรื่องราวดำเนินแบบกระโดดไปมา พาให้ไม่เข้าใจเหตุและผลในการกระทำของตัวละครที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่างรวดเร็วนั่น

ส่วนเรื่องปีศาจเคราขาวนั่นก็เช่นกัน เล่าเปิดหัวไว้ตอนต้น โผล่มาเพียงแว้บ ๆ ระหว่างทาง ก่อนจะหายไปเลย แต่แล้วจู่ๆ ก็กลับมาเล่าถึงอีกครั้ง นอกจากนี้ บทซีรีส์ก็ยังใช้เวลาสาละวนอยู่เป็นนาน กว่าจะกลับเข้าเรื่องมาเล่าเรื่องอดีตความเป็นมาของฮวีซู

โดยรวมแล้ว ‘Dear Hongrang’ เป็นซีรีส์ย้อนยุคแนวสืบสวนที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด งานภาพแอ็คชันสวยๆ และสีสันของความรักที่หมิ่นเหม่หน่อย ๆ เพราะมันเกิดขึ้นระหว่างคนในครอบครัว เป็นซีรีส์ที่เครื่องแทบจะไม่ร้อนเท่าไหร่นัก คนดูต้องเข็นตัวเองแทบจะตลอดเวลาเพื่อที่จะไปต่อจนสุดทางกับมัน

แต่ก็คงต้องบอกว่า ตอนท้ายๆ เป็นอะไรที่ตีตื้นสุด ๆ แล้ว ด้วยเรื่องราวที่เริ่มขมวดปมและเข้มข้นขึ้นมา เมื่อแจอีและฮงรัง (ตัวจริงหรือปลอมน้า?) ต้องกระเสือกกระสนรับศึกสองด้านเพื่อเอาตัวรอด เรื่องราวที่แทบไม่เหลืออะไรให้สืบสวนมากนัก แต่มีหนึ่งสิ่งที่ถูกเก็บงำมาตลอดจะถึงเวลาถูกเฉลยสักที และเราจะได้เห็นว่า ฮงรังผู้นี้จะดำเนินการเยี่ยงไรเพื่อให้ทุกสิ่งที่เขาปรารถนานั้นสำเร็จลุล่วงไปได้

อาจมีน้ำตาส่งท้าย กับการแสดงของโจโบอาที่อาจมีเสน่ห์โดนใจคนส่วนน้อย แต่การแสดงของเธอนั้นเข้าขั้นดีเลยเชียว

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์