รีวิวซีรีส์ The Forbidden Marriage คู่วิวาห์ต้องห้าม | รักสามเส้าหลังเจ้าห้ามแต่ง

ดูเหมือนว่าเกาหลีที่สร้างซีรีส์แนวซากึกออกมาสร้างความบันเทิงให้กับผู้ชมทั่วโลกอยู่ไม่ขาด แต่ละเรื่องก็มุ่งเน้นเล่าในเรื่องที่แตกต่างกันไป ส่วนใหญ่เน้นเล่าเรื่องจริงจังของการแย่งชิงอำนาจในราชสำนัก แต่บางเรื่องกลับแตกต่างออกไป ‘The Forbidden Marriage’ ชื่อไทยว่า ‘คู่วิวาห์ต้องห้าม’ เน้นหยิบเกร็ดประวัติศาสตร์มาเล่นในเชิงล้อเลียนสนุกสนาน

ซีรีส์ฮาๆ เรื่องนี้ดัดแปลงสร้างขึ้นจากนวนิยายเว็บไซต์ชื่อดังแนวโรแมนติกย้อนยุค ผลงานของ Chun Zi Hye/จอนจีฮเย ชื่อ ‘Geumhonryung, Joseon Honin Geumjiryung’ ของตัวเอง และเป็น Park Sang Woo/พัคซังอู ที่ลงมือกำกับ คร่าวๆ ก็คือ มันเป็นเรื่องรักสามเส้า ของพระราชาที่เจ็บปวดจากการสูญเสียพระชายา หญิงสาวนักต้มตุ๋นที่มีทักษะไหวพริบยอดเยี่ยม กับหนุ่มหัวหน้าหน่วยสืบสวนหลวง ในช่วงเวลาที่การคบหาและแต่งงานถูกห้าม

เรื่องราวที่หยิบประวัติศาสตร์มาบิดใหม่ให้กลายเป็นเรื่องชวนหัว

เรื่องย่อซีรีส์ ‘The Forbidden Marriage’

ดูเหมือนเหตุองค์รัชทายาท (Kim Young Dae/คิมยองแด จากซีรีส์เรื่อง ‘Penthouse’, ‘When the Weather is Fine’ และ ‘Sh**ting Stars’) สูญเสียพระชายาไปอย่างเป็นปริศนา ทำให้เกิดมีพระราชกฤษฎีกาห้ามแต่งงานขึ้นในช่วงระหว่างคัดเลือกพระชายาองค์ใหม่ แต่ดูเหมือนความโศกเศร้าที่มีต่อพระชายาจะมีมากเกิน จนได้ขึ้นเป็นพระราชาอีฮยอนก็ไม่เคยจะลืมคนรักได้สักที คำสั่งห้ามหญิงสาวแต่งงานจึงยังคงยืดเยื้อต่อมาถึง 7 ปี ส่งผลต่อชีวิตผู้คนที่ไม่อาจคบหาและแต่งงานได้กันตามปกติ

แต่มีหญิงคนหนึ่งที่ไอเดียพารวยขึ้นมา เยโซรัง (Park Ju Hyun/พัคจูฮยอน จากซีรีส์เรื่อง ‘Mouse’, ‘Zombie Detective’ และ ‘Extracurricular’) นางตั้งสำนักดูดวงจับคู่ขึ้น หวังเป็นสื่อกลางให้กับผู้ที่อยากมีคู่ครองทั้งหลายได้สื่อสารสร้างความสัมพันธ์กันผ่านทางที่เป็นตัวแทน หนทางที่เต็มไปด้วยขวากหนาม เพราะมันเป็นการตั้งตนขึ้นมาขัดแย้งกับกฎดังกล่าวอย่างชัดแจ้ง ในที่สุดนางก็ถูกจับกุม

เมื่อพระราชาล่วงรู้ว่า โซรังสามารถมองเห็นพระชายาที่ตายไปแล้วอยู่ภายในวัง แถมยังเป็นร่างทรงได้อีกต่างหาก นางจึงกลายเป็นนางใน โดยมี หัวหน้าศาลหลวงอย่าง อีชินวอน (Kim Woo Seok/คิมอูซอก จากซีรีส์เรื่อง ‘Rookie Cops’ , ‘A Piece of Your Mind’ และ ‘Military Prosecutor Doberman’) ที่เป็นสหายของพระราชามาเนิ่นนาน คอยติดตามและดูแลอยู่ทุกฝีก้าว ทว่าดูเหมือนเขาจะต้องเสน่ห์ของสาวนักต้มตุ๋นเข้าให้แล้ว

รีวิวซีรีส์ ‘คู่วิวาห์ต้องห้าม’

นี่คงเป็นซีรีส์เกาหลีแนวซากึกอีกเรื่องหนึ่ง ที่กำหนดให้ตัวเอกหญิงมีหัวขบถอยู่ในตัว หลังเคยมี ‘Moonshine’ ที่นางเอกต้มเหล้าเถื่อนขายในวันที่ทางการสั่งห้ามขายเหล้า มาคราวนี้ พระราชาออกกฎสั่งห้ามแต่งงาน โซรังของเราที่ใช้ชีวิตอยู่กับพ่อหมอชวาน Gwaeng-Yi (Choi Duk Moon/ชเวด็อกมุน) ชายที่นางเรียกว่าพ่อ ก็ตั้งสำนักแอดัลดังขึ้นมาเพื่อจับคู่หญิงสาวชายหนุ่มขึ้นมาซะงั้น

เรื่องราวที่จิกกัดราชวงศ์

การสูญเสียพระชายาไปอย่างเป็นปริศนาตั้งแต่ครั้งยังเป็นองค์รัชทายาท ความเศร้าโศกเจ็บปวดที่ไม่เคยผ่านพ้น ไม่เคยมูฟออน ยาวนานนับเจ็ดปี แม้กระทั่งในวันที่ขึ้นเป็นกษัตริย์ แต่พระราชาอีฮยอนก็ยังไม่เคยตัดใจได้ ยังคงซึมเศร้าพร่ำรำพันอยู่กับพระชายาองค์เก่า อันนี้อาจพอเข้าใจได้ แต่ความไม่มูฟออนของพระราชานั่นแหละที่สร้างความเดือดร้อนให้กับบรรดาประชาชนของพระองค์

ตามธรรมเนียมนั้น เมื่อพระชายาขององค์รัชทายาทหรือพระมเหสีของพระราชาสิ้นพระชนม์ไป ก็จะต้องเฟ้นหาหญิงรุ่นในแผ่นดินมาเพื่อคัดและเลือกเป็นพระชายาหรือพระมเหสี ทำให้ต้องห้ามหญิงในช่วงนั้นแต่งงานกับใคร ราวกับจะหวงหญิงในแผ่นดินนี้ไว้เพื่อชนชั้นสูงสุดเท่านั้น ประมาณว่าต้องให้เจ้าได้คู่ก่อนเท่านั้นพวกเขาถึงจะคบหาแต่งหญิงได้ มันจึงกลายเป็นความเหลื่อมล้ำทางชนชั้น และตามมาด้วยความเดือดร้อนของผู้คน

หลายคนไม่อาจคบหาหรือแต่งงานได้ หลายคนเศร้าใจที่ลูกไม่ได้ออกเหย้าออกเรือนสักที บางคนก็กลัวจะมีลูกไม่ทันเพราะจะแก่ตัวซะก่อน ประชากรก็จะไม่อาจผลิตลูกหลาน ความห่อเหี่ยวในสังคมเริ่มก่อเกิด ทำให้เสียงของชาวบ้านที่ค่อนขอดนินทาราชวงศ์หนาหูมากขึ้นทุกที

รักสามเส้าในราชสำนัก

สิ่งที่เราได้รับรู้เพิ่มเติม คือ โซรังนั้นเคยได้ยินชื่ออีชินวอนมาก่อน นางจำได้ว่าเขาคือลูกชายคนโตของตระกูลต้นหลิว ใช่แล้ว เหมือนทั้งสองจะถูกจับคู่ให้ได้ครองคู่กัน ก่อนที่การแต่งงานจะล่มลงเพราะประกาศห้ามแต่ง นั่นก็แสดงว่า อีชินวอน พลาดการได้แต่งงานมา 7 ปีแล้ว แถมหญิงคนที่เขาพลาดแต่งยังเป็นโซรัง คนที่เขาต้องตามติดดูแลเสียอีกด้วย

ขณะที่โซรังสาวเจ้าก็ช่างเก่งกาจไหวพริบยอดเยี่ยมเหลือเกินในการรับมือกับทุกสถานการณ์ ทำให้พระราชาเชื่อใจว่า นางคือคนที่มองเห็นและได้ยินเสียงของพระชายาจริง จนรับเข้ามาเป็นนางใน และความสัมพันธ์ใกล้ชิดนี่แหละที่จะทำให้พระราชาผู้ทุกข์ระทมได้มูฟออนจากคนเก่าสักที ทว่าปัญหาก็คือ อีชินวอนก็มีใจให้นางเช่นกันนี่สิ

นอกจากนี้ ยังมีบางสิ่งที่ต้องติดตามว่า เหตุใดโซรังที่น่าจะเคยเป็นลูกสาวตระกูลขุนนาง กลับต้องระหกระเหินกลายเป็นขอทานและกลายเป็นนักต้มตุ๋น อีกส่วนหนึ่งก็คือ การเข้าวังหลวงนั้นแสนอันตราย ซีรีส์หลายเรื่องไม่พ้นหยิบเรื่องการก่อกบฏ การช่วงชิงอำนาจเข้ามาเป็นตัวดำเนินเรื่อง เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน

จัดความฮามาให้ ไม่สนว่าเป็นเรื่องในราชสำนัก

แม้จะเป็นซีรีส์เกาหลีที่หยิบเรื่องราวในยุคโชซอนมาเล่า แต่ก็บอกเอาไว้แต่ต้นว่า มันไม่ใช่เรื่องจริง เมื่อดูไปแค่ตอนแรกก็รู้เลยว่าเขาตั้งใจปั่น ไม่สนแล้วว่าเรื่องจริงจะเป็นไง เขาเพียงต้องการสร้างฉากพื้นหลังให้เป็นเกาหลีในยุคสมัยนั้น แต่เล่าเรื่องราวเอาฮาที่จัดมาไม่ยั้ง ไม่ต้องเน้นความสมจริงมากเท่ากับเรื่องอื่น กาวแล้วกาวอีก พาขำกลิ้งไปได้เรื่อยเปื่อย แม้บางตอนจะดูแผ่วลงไปบ้าง แต่ก็ยังนับว่าเพลิดเพลินได้อยู่

ขณะเดียวกัน ภายในนั้น ก็บอกเล่าเรื่องจริงจังอยู่ภายในไปด้วย เรื่องของการเหลื่อมล้ำทางชนชั้น และไม่ละเว้นที่จะพูดถึงเรื่องราวการแย่งชิงอำนาจกันภายในระหว่างฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายต่อต้าน

ซีรีส์ทำให้เห็น พัคจูฮยอน เป็นคนที่เล่นคอเมดี้ได้เก่งน่าจับตามองคนหนึ่งเลย ทั้งมีรอยยิ้มที่น่ารัก เมื่อมาประกบกับสองหนุ่มหล่อ จึงดูเป็นการจัดวางที่ลงตัว อีกทั้งยังมองเห็นได้ว่า คิมยองแด ดูเข้ากับคอสตูมย้อนยุคเสียจริงๆ ดูหล่อเหลามีสง่าราศีขึ้นมาก ขณะที่ คิมอูซอก นี่เป็นเรื่องที่สองแล้วที่ได้รู้จักเขา ซึ่งก็ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจย้อนยุคได้ไม่เลวทีเดียว

แต่เรื่องราวยังไม่จบ ขอไปต่ออีกสักหน่อย ถ้ามีอะไรน่าเล่าถึงก็จะมาเพิ่มเติมละกันนะครับ

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์