รีวิวซีรีส์ The Murky Stream | ปฏิบัติการกำจัดส่วยในยุคโชซอน

ถ้าพูดถึงซีรีส์เกาหลีพีเรียดแล้วล่ะก็ เรามักจะพบว่า แต่ละเรื่องที่ได้รับชมล้วนเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในราชสำนัก เรื่องการแย่งชิงอำนาจและความเป็นใหญ่ของผู้นำและขุนน้ำขุนนาง แต่เรื่องนี้กลับแตกต่าง เพราะ ‘The Murky Stream’ บอกเล่าถึงนักเลงที่อยู่รั้งท้ายในห่วงโซของสังคมโชซอน แต่พวกเขากำลังทำให้ระบอบที่เน่าเฟะมานานต้องถึงกาลสั่นคลอน

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์ประวัติศาสตร์เรื่องนี้?

เป็นซีรีส์เกาหลีซากึกที่เน้นบ้านเมืองนอกราชสำนักอย่างแท้จริง เล่าเรื่องของระบบของอาณาจักรโชซอนที่เน่าเฟะ ชนชั้นต่ำต้อยกลายเป็นขี้ข้าของนักเลง มีขุนนางคอยกดขี่ย่ำยีเก็บส่วยเพื่อส่งให้เจ้านายหลายชั้น ทั้งมองตนมีหน้าที่พิทักษ์กษัตริย์แทนที่จะเป็นประชาชน แล้วก็ยังมีพ่อค้าที่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์จนร่ำรวย เล่าเรื่องผ่าน 3 ตัวเอกจาก 3 ชนชั้น แม้จะดูจริงจัง แต่ก็แทรกด้วยคาแรกเตอร์ตลกชวนของแก๊งนักเลง แถมยังเดินเรื่องได้น่าติดตาม

สุดท้ายแล้ว เราก็ไม่รู้ว่าจะมีการสร้างซีซันต่อไปหรือไม่ แต่ 9 ตอนที่เล่ามาถือว่าน่าสนใจดีเลย

ซีรีส์ ‘The Murky Stream’ ว่าด้วยเรื่องอะไร?

ย้อนกาลกลับไปในเกาหลียุคโชซอน เป็นยุคที่การค้าการขายรุ่งเรืองก็จริง แต่ก็ช่วงเวลาแห่งความยากแค้น เต็มไปด้วยการรีดไถเก็บส่วย ท่าเรือมาโพ ที่ตั้งอยู่บนแม่น้ำคยองกัง คือพื้นที่หลักในเรื่องนี้ การขนย้ายสินค้าขึ้นลงที่นี่ ก็เหมือนที่อื่น ๆ คือมีกลุ่มนักเลงเข้ามาคุม ซึ่งก็เก็บส่วยกันในทุกขั้นตอน ค่านั่นก็เก็บ ค่านี่ก็เก็บ แถมยังหาเหตุให้เก็บเพิ่มได้อีก แต่อย่างว่า พวกเขาก็ต้องเอามันไปให้หัวหน้า หัวหน้าก็ต้องส่งให้ขุนนาง ไล่ ๆ กันขึ้นไป มันจึงกลายเป็นระบบที่เน่าเฟะ

พระเอกของเรา จางชียูล (Ro Woon จากซีรีส์ ‘Destined with You’ และ ‘The King’s Affection’) ชายผู้มีร่างกายกำยำสูงใหญ่ราวกับทหาร เขาควรจะมีปัจจุบันที่ดี แต่ทว่าวันนี้ กลับต้องเป็นแค่คนต่ำต้อย ใช้แรงแบกหามเพื่อแลกข้าวสารปะทังชีวิต แต่เพราะฝีมือการต่อสู้ที่มีติดตัวทำให้เขากำลังมีชีวิตที่แตกต่างจากคนอื่น

นอกจากนักเลงและคนใช้แรงงาน ท่าเรือมาโพยังเป็นที่ทำกินของเหล่าพ่อค้า และชเวอึน (Shin Ye Eun จากซีรีส์ ‘Jeongnyeon: The Star is Born’) ลูกสาวผู้แสนเฉลียวฉลาดของพ่อเจ้าของร้านค้าตระกูลชเวผู้ร่ำรวย เธออยากเรียนรู้เรื่องการค้าแม้ว่าพ่อจะไม่เห็นด้วย แม้ไม่ชอบใจชียูลที่เป็นนักเลง แต่ความสัมพันธ์เริ่มจะเปลี่ยนแปลงเมื่อเธอได้รู้จักเขามากขึ้น

อีกด้านหนึ่ง ชียูลเคยเป็นเพื่อนรักของ จองชอน (Park Seo Ham จากซีรีส์ ’20th Century Boy and Girl’) ที่ตอนนี้สอบผ่านเข้าเป็นขุนนางด้วยคะแนนสูงสุด เขาเข้ารับตำแหน่งเสนาธิการผู้ช่วย ทำงานในสำนักมือปราบ ผู้ที่ถูกชี้แนะตั้งแต่แรกเข้าเลยว่า เป็นขุนนางไม่ต้องสนใจประชาชน แต่ต้องสนใจในการปกป้องเจ้าเหนือหัว เป็นขุนนางตงฉินจึงทำให้อยู่ยากสักหน่อย

รีวิวซีรีส์ ‘The Murky Stream’

อย่างที่เล่าไปข้างต้น ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้เล่าเรื่องราวในยุคโชซอน แตกต่างที่ไม่ได้ตั้งใจจะเล่าเรื่องราชสำนัก เรื่องราชวงศ์หมิง เหมือนอย่างในซีรีส์เรื่องอื่น ๆ แต่เน้นจะเล่าถึงความฉ้อฉลและระบบอันเน่าเฟะที่กัดกินสังคมอยู่เสียมากกว่า

สามตัวละครหลัก ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

บทของซีรีส์จะเน้นเล่าไปที่ 3 ตัวละครหลัก กับอีกหลายตัวละครสมทบ สามตัวหลักก็คือ ชียูล ชายหนุ่มผู้ต่ำต้อย ทำงานแบกหามแลกข้าวสารกรอกท้องไปวัน ๆ คนที่สอง คือ ชเวอึน ลูกสาวตระกูลการค้าผู้สูงศักดิ์ และสามคือ จองชอน ขุนนางใหม่ที่ทำงานในสำนักมือปราบ เขาคือเพื่อนเก่าของชียูลที่อยู่แคว้นฮัมกยองมาด้วยกัน

ชียูลทำงานให้กับ พัคมูด็อก (Park Ji Hwan จากซีรีส์ ‘Tempest’) นักเลงที่มีบุคลิกขี้ขลาดไม่สมเป็นนักเลง เขาและลูกน้องทั้งยักยอกค่าจ้าง ทั้งเคยทำร้ายชียูลต่าง ๆ นานา แต่แล้ววันหนึ่ง ชียูลกลับต้องเข้าร่วมอยู่ในกลุ่มแก๊งของมูด็อกอย่างจำใจเพราะมูด็อกดันเก็บเอกสารของชียูลไว้ แถมยังล่วงรู้ความลับในอดีตที่ชียูลต้องการปกปิด เพราะถ้ามันโดนเปิดเผย จองชอนเพื่อนรักอาจต้องมาหมดอนาคตไปด้วย แต่นั่นก็ทำให้เขายิ่งกลายเป็นคนเลวที่ต้องถูกกฎหมายเล่นงาน

“ถึงเสือจะเก่งแค่ไหน ก็สู้ฝูงหมาบ้าไม่ได้”

ความจริงที่คนดูสงสัยตั้งแต่แรก ก็คงเป็นว่า เหตุใดคนหน้าตาดี ดูมีการศึกษา มีทักษะการต่อสู้ยอดเยี่ยม กลับกลายมาเป็นชนชั้นแรงงาน คำตอบถูกเฉลยในตอนต่อมาว่า แม่ของเขาถูกชาวจูร์เจินฆ่าตายครั้งเหตุกบฎนีทังแกเมื่อปี 1583 และการรอดตายครั้งนั้นก็ทำให้เขาได้พบกับจองชอน จนกลายเป็นเพื่อนรักที่ก่อวีรกรรมด้านดีมาด้วยกัน แต่เหตุเผาที่ว่าการ ทำให้ชียูลไม่ได้สิทธิสอบเป็นขุนนาง แถมต้องระหกระเหินในฐานะคนใช้แรงงานนั่นเอง

สิ่งที่น่าสนใจคือ การเขียนบทให้ตัวนำต่างเป็นตัวแทนของคน 3 กลุ่ม ชียูลเป็นตัวแทนของชนชั้นล่างสุด ชเวอึนเป็นตัวแทนพ่อค้า และจองชอนเป็นตัวแทนของชนชั้นขุนนาง ทั้งสามจะเปลี่ยนแปลงระบบที่เน่าเฟะนี้อย่างไร

ชียูลที่วัยเด็กเขาไม่ใช่ชนชั้นต่ำต้อย มีโอกาสจะได้เป็นขุนนาง แต่ด้วยบางเหตุผล ส่งผลให้ต้องกลายเป็นคนระดับล่างสุด แม้เขาจะค่อย ๆ เติบโตขึ้นมา แต่ก็ยังอยู่ในแก๊งนักเลง ถึงจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงธรรมเนียมแต่ก็ยังถือว่าทำผิดกฎหมาย เส้นทางของเขาจึงเกิดความขัดแย้งขึ้นในใจกับ จองชอน เพื่อนเก่าแต่เป็นขุนนางมือใหม่ที่อยู่ในสำนักมือปราบ ขณะที่ชเวอึนฉลาด ยังใหม่กับการค้าแถมยังเป็นผู้หญิง จึงไม่ได้การยอมรับที่มากพอ

ระบบอันเน่าเฟะที่ถูกบอกเล่าในซีรีส์เรื่องนี้

ซีรีส์เกาหลี 9 ตอนเรื่องนี้ตั้งใจก่นด่าถึงเหล่าขุนนางที่เอาแต่สำเริงสำราญท่ามกลางความยากแค้นของประชาชน ประจบประแจงหัวหน้าแต่กดขี่รีดไถชนชั้นต่ำต้อย ขนาดเป็นเสนาธิการ ทำงานอยู่ในสำนักมือปราบ แต่กลับไม่ใส่ใจจะดูแลอาวุธที่เพื่อรับมือกองกำลังศัตรู แถมไม่สนใจใยดีต่อความสุขทุกข์ของประชาชนอีก โดยพวกเขาบอกว่า ขุนนางไม่ได้มีหน้าดูแลราษฎร แต่มีหน้าที่ปกป้องพระราชาต่างหาก เอากะพวกเขาสิ

และก็ไม่ได้มีแค่ชนชั้นแรงงาน กับ ขุนนางผู้สูงศักดิ์ บทซีรีส์ก็ยังเล่าถึงเหล่าพ่อค้าด้วยเช่นกัน พ่อค้าเหมือนชนชั้นกลาง ๆ ในสังคม แม้พวกเขาไม่ได้ขูดรีดโดยตรง แต่ตอนที่ยังไม่มีแก๊งนักเลง พวกเขาก็เคยทำร้ายคนใช้แรงงานมาก่อน ก่อนที่จะมีการลุกฮือขึ้นมาตั้งแก๊งนักเลงขึ้นมา

ดูเหมือนชนชั้นนำจะลอยอยู่เหนือทุกสิ่ง แต่ความจริง การได้ประโยชน์จนรู้สึกเสวยสุข มันก็ทำให้พวกเขาไม่ใส่ใจจะลงมาแก้ไขจริงจัง

มีตัวละครน่าสนใจเพิ่มเติมเข้า บทเขียนให้มีกลุ่มแก๊งใหม่ วังแฮ ที่มีหัวหน้าเป็นชาย มีมืออาวุธเป็นผู้หญิง และก่อการยึดท่าเรือดงโฮ น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวสำคัญ แล้วก็ยังมี แม่ทัพอาวุโสกับพ่อค้าผู้กำลังรวบรวมแผนที่ของแคว้นทั้งแปดซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการถูกคิดว่าเป็นกบฏ แต่เขาคือหนึ่งคนผู้มีความคิดก้าวหน้าที่อาจนำพาโชซอนกลับสู่แสงสว่าง ความมุ่งหมายกำจัดเส้นทางเงินที่หล่อเลี้ยงระบบที่เหล่าขุนนางเกาะกินกันเพื่อผลประโยชน์อาจเป็นทางออกสำหรับความมืดมนนี้

ความรู้สึกระหว่างรับชมซีรีส์ ‘The Murky Stream’

นอกจากบ้านเมืองจะต้องเผชิญกับระบบที่เน่าเฟะ ขุนนางที่ฉ้อฉล เสนาธิการอีดลแกคือหนึ่งในนั้น บ้านเมืองก็ยังเผชิญหน้ากับภัยร้ายอย่างพวกญี่ปุ่นที่กำลังซ่องสุมกำลังอยู่ เรื่องราวในช่วงครึ่งหลังจึงค่อนข้างจะซีเรียสจริงจังอยู่ไม่น้อย

แต่บทของซีรีส์ดูพยายามจะบาลานซ์ระหว่างเรื่องบ้านเมืองที่แสนเคียดขึ้ง กับความคอมเมดี้ เขาเขียนให้ตัวละครที่มีนิสัยขี้ขลาดแต่ดันจับพลัดจับผลูได้เป็นพี่ใหญ่ และให้พวกลูกน้องรักเพื่อนพ้องจนเอาตัวเข้าไปเสี่ยงโดยไม่ประมาณตน คอยหาเรื่องมาให้พระเอกต้องปวดหัวอยู่ไม่ขาด

อีกส่วนก็คือ บทที่เขียนตั้งใจให้โรอุนได้เล่นเป็นตัวละครที่แตกต่าง เขากลายเป็นชนใช้แรงงานที่เคยอยู่ข้างบนมาก่อน เลยมีความสามารถด้านการต่อสู้และมีจิตใจที่ดี แต่ความแค้นชักพาให้เขาตกต่ำ โรอุนเลยต้องเล่นเป็นชายที่เนื้อตัวมอมแมม หนวดเครารุงรังหน้าคล้ำจนจำกันแทบไม่ได้

ช่างแตกต่างจาก ชินเยอึน ที่เล่นเป็นคุณหนูจากครอบครัวการค้า ผู้ยังต้องเรียนรู้เกี่ยวกับมันอีกมากในอันที่จะเปลี่ยนแปลงอะไร ๆ ในช่วงเวลานั้น เยอึนดูสวยแม้ไม่ต้องแต่งอะไรมากนัก แต่เธอก็ไม่ต้องมอมแมมเหมือนอย่างโรอุน

ด้านงานภาพที่มีแต่สีน้ำตาลของแผ่นดิน เศษฝุ่นที่ฟุ้ง ก็ฉายความแร้นแค้นในยุคสมัยนั้นได้ดี แม้แม่น้ำคยองกังจะยังมีน้ำอยู่เต็ม แต่ความหวังของผู้คนนั้นแทบไม่มี

ด้านการเดินเรื่อง เรียกได้ว่าไม่เจอว่าส่วนไหนน่าเบื่อ มีอะไรให้ติดตามตลอด ๆ บาลานซ์เรื่องได้ดี มีบ้างที่รู้สึกว่าตัวละครใช้เวลาพูดกันมากเกินในขณะที่ควรจะเร่งรีบหนี จึงอาจจะขัดใจไปบ้าง แต่นอกนั้นก็ถือว่าเป็น 9 ตอนที่ทำได้ค่อนข้างดี มีรบ มีต่อสู้ มีเดินเรื่องกันได้ตลอดรอดฝั่ง

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์