รีวิวซีรีส์ The Price of Confession คำสารภาพล้างเลือด | ฆ่าเพื่อพ้นคุก

กลายเป็นซีรีส์เกาหลีที่มาลงในเน็ตฟลิกซ์แบบรวดเดียว และก้าวขึ้นอันดับสูงในหลายประเทศได้เลย เรื่องราวของมันก็ชวนติดตามอย่างยิ่ง ครูสาวที่ถูกกล่าวหาว่าฆ่าสามีตายจนต้องติดคุก แต่ได้โอกาสพ้นห้องขังด้วยการทำสัญญาแลกเปลี่ยนกับเพื่อนนักโทษ แต่เธอต้องฆ่าใครสักคนแทนเขา ‘The Price of Confession’ หรือชื่อไทย ‘คำสารภาพล้างเลือด’ คือชื่อของซีรีส์เรื่องนั้นครับผม

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์ดราม่าอาชญากรรมเรื่องนี้?

เป็นซีรีส์ที่บอกเล่าเรื่องราวของผู้หญิงสองคนที่เจอกันในเรือนจำ คนหนึ่งเลือกจะสารภาพว่าฆ่าสามีของอีกคน แลกกับการได้รับอิสรภาพออกมานอกคุกแต่ต้องฆ่าเด็กคนหนึ่งให้ แทนที่คำสารภาพนั้นจะทำให้เธอได้ล้างบาป เธอกลับต้องทำบาปเพื่อจะได้มันมา เล่าเรื่องได้น่าติดตาม พร้อมกับการแสดงอันยอดเยี่ยมของทั้งจอนโดยอนและคิมโกอึน พาคนดูอยากรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

และคนดูจะได้รู้ว่า ต้นสายปลายเหตุของเรื่องราวทั้งหมดนั้นมันคืออะไร

เรื่องย่อซีรีส์เกาหลี ‘The Price of Confession’

อันยุนซู (Jeon Do Yeon จากซีรีส์เรื่อง ‘Crash Course in Romance‘)​ คุณครูสอนศิลปะที่ชอบดู CSI เธอแต่งงานกับอีคีแดเมื่อปี 2017 มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคน แต่พอปี 2022 สามีถูกแทงคอเสียชีวิตที่สตูดิโอของสามี ด้วยความที่แต่งตัวฉูดฉาด ยิ้มแย้ม และไม่มีท่าทีจะโศกเศร้าไปกับการสูญเสียสามี เธอจึงถูกมองว่ามีแรงจูงใจและโดนสอบสวน ในที่สุด เธอก็กลายเป็นผู้ต้องหาของตำรวจ

แพคดงฮุน (Park Hae Soo จากซีรีส์เรื่อง ‘Narco-Saints’)​ อัยการที่เคยเป็นตำรวจมาก่อน เขามุ่งมั่นสอบสวนคดีนี้อย่างเจาะลึกราวกับตัวเองยังเป็นตำรวจอยู่ โดยเขาทำงานร่วมกับนักสีบรยูจีซู (Lee Cho Hee จากซีรีส์เรื่อง ‘Once Again’) แล้วสุดท้าย เขาก็ส่งยุนซูเข้าคุกได้สำเร็จ

แต่ยุนซูปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น แต่มันก็ส่งผลให้เธอถูกจำคุกตลอดชีวิต

โมอึน (Kim Go Eun จากหนังเรื่อง ‘Exhuma’ และ ‘Love in the Big City’) หญิงสาวผู้ช่วยพยาบาลในสถาบันทันตกรรมที่วางยาสองสามีภรรยาหลังถูกกดขี่จากเจ้านาย เธอรับสารภาพจนหมดเปลือก ด้วยสายตาที่เด็ดเดี่ยว จึงถูกตั้งฉายาให้เป็นแม่มด เธอเป็นทั้งฆาตกรและมีลักษณะของพวกไซโคพาธ

ผู้ต้องขังหญิงทั้งสองคนกลายเป็นนักโทษ 2784 และ 407 ในเรือนจำเดียวกัน แล้วจู่ ๆ โมอึนก็เสนอข้อแลกเปลี่ยนว่า เธอจะสารภาพว่าเป็นคนฆ่าสามีของยุนซูเอง โดยแลกกับอะไรบางอย่าง

รีวิวซีรีส์เกาหลี ‘คำสารภาพล้างเลือด’

มันเป็นซีรีส์แนวอาชญากรรมที่เล่าถึงนางเอกผู้เคยเป็นเด็กกำพร้า ต่อมากลายเป็นแม่ลูกหนึ่งที่สามีตายในอ้อมกอดตัวเอง พยานไม่มี หลักฐานมัดตัว น่าเศร้าที่อัยการหนุ่มปักใจเชื่อว่าเธอคือคนร้ายตั้งแต่แรก สุดท้าย เธอก็กลายเป็นนักโทษในเรือนจำด้วยคำตัดสินจำคุกตลอดชีวิตทั้งที่ไม่ได้ทำความผิด

ครูสาวที่ถูกปรักปรำ กลายเป็นนักโทษและได้โอกาสกลับออกมา

ยัยแม่มดแห่งยุคที่เข้าไปอยู่ในเรือนจำเดียวกัน เลือกจะสารภาพว่าตนก่อเหตุฆาตกรรมอื่นด้วย ซึ่งนั่นก็คือเหตุฆาตกรรมสามีของครูหญิง ใครๆ ก็ต่างคิดว่า ครูหญิงจะได้โอกาสออกมาเฉิดฉายใช้ชีวิตปกตินอกคุกอีกครั้ง ที่ไหนได้ เบื้องหลังคือการตกลงกันของ 2 นักโทษหญิง คือ เธอจะต้องไปฆ่าคนให้คนหนึ่ง

ข้อตกลงฆ่าคนให้เพื่อแลกกับการได้ออกจากคุกไปอยู่กับลูกสาว มันตามมาด้วยข้อแม้ตั้งหลายอย่าง หนึ่งคือ ยุนซูจะต้องถูกตามส่องความเคลื่อนไหวตลอดเวลา สองคือ เธอต้องฆ่าเป้าหมายที่เป็นลูกชายของผัวเมียหมอฟันให้สำเร็จ สามคือ กลับมาเล่าให้ฟังอย่างละเอียด

หลังออกจากคุกมา ยุนซูก็ต้องอยู่ท่ามกลางสายตาของผู้คนรอบตัว ที่บางส่วนรู้สึกกลัวและหวาดระแวง แต่บางส่วนก็อยากรู้อยากเห็น การเป็นคนในข่าวอาชญากรรมดัง เคยเข้าคุกมาก่อน เป็นสถานการณ์ที่อยู่ยากยิ่งไม่ว่าจะเจอกับผู้คนในแบบไหน

แถมไม่ได้ออกมาแล้วใช้ชีวิตปกติ เธอต้องทั้งติดกำไลอีเอ็ม ต้องโดนคนของรัฐคอยสอดส่อง ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกกักบริเวณและไม่ได้รับอิสรภาพที่แท้จริง เธอก็แค่ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมที่ได้ออกมานอกคุกก็เท่านั้นเอง

แส่วนโมอึนก็ดูจะมีเก่งกาจในการสืบดูพฤตกรรมของยุนซูอย่างเหลือเชื่อ การถูกติดตามทุกฝีก้าว ยิ่งพาให้ยุนซูไร้อิสระนอกคุกอย่างสิ้นเชิง แม้จะได้กลับมาอยู่กับลูก แต่เราก็ไม่เห็นชีวิตการเป็นครูของเธออีกเลย มีแต่การหาหนทางฆ่าเด็กหนุ่มคนนั้นให้ได้ เธอเป็นแม่ลูกหนึ่ง การจะลงมือฆ่าเด็กสักคนนึง คิดดูสิ ว่ามันจะทำร้ายจิตใจของเธอสักแค่ไหน

ทนายและอัยการ ตัวละครสำคัญที่ร่วมขับเคลื่อนเรื่องราว

ท่ามกลางความน่าสงสัยเคลือบแคลง อัยการแบคดูเป็นคนที่กัดไม่ปล่อยเหมือนกันนะ เขานำหมายค้นมาขุดคุ้ยทุกซอกทุกมุมเพื่อจะพิสูจน์ว่ามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสองนักโทษหญิงจริง เพราะคำให้การของ 407 นั้นละเอียดเกินไปทั้งที่เวลาก็ล่วงเลยมาหลายเดือนแล้ว อัยการหนุ่มถึงกับให้ถอดเสื้อผ้าเพื่อตรวจร่างกายหาสิ่งผิดปกติและใช้เครื่องจับเท็จ จนทำให้สื่อเริ่มตั้งคำถามว่าอัยการคนนี้ทำเกินไปหรือเปล่า

ด้านทนายจางจองกู (Jin Sun Kyu จากซีรีส์เรื่อง ‘Typhoon Family’) ก็บอกว่า เธอจะไว้ใจโมอึนไม่ได้ จึงต้องพยายามหาหลักฐานมามัดตัวให้ได้ว่าเธอเป็นคนฆ่าจริง ๆ โมอึนเองก็มีทนายของตัวเองเช่นกัน เขาคือจินยองอิน (Choi Young Joon จากซีรีส์เรื่อง ‘As You Stood By’) เป็นทนายของรัฐที่อาสาเข้ามาทำคดีให้

ไอ้การที่อัยการแพคเพ่งเล็งและมองยุนซูอย่างไม่ไว้ใจเนี่ย จะว่าไปความสงสัยใคร่รู้ของเขาก็มีเรื่องดีอยู่ ทำให้เขามองออกว่าผู้หญิงสองคนมีข้อตกลงบางอย่างต่อกัน และความช่างสังเกตของอัยการ ก็ทำให้หลายสิ่งก้าวหน้าไป แม้จะยังไม่ทั้งหมดก็ตาม แถมเขายังทำงานร่วมกับทนายของยุนซูและทนายของโมอึนด้วยนะ

บทของซีรีส์เรื่องนี้ก็หักมุมเก่งซะเหลือเกิน แถมเรื่องราวยังค่อนข้างซับซ้อน เกี่ยวพันกับตัวละครหลายตัว จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจสักนิดนึง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะถัดมา บทก็อธิบายจนเข้าใจ

สิ่งที่สัมผัสได้จากซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้

ถ้าจะว่ากันเรื่องบท ก็คงต้องบอกว่า มันทำได้ดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เปิดเรื่องได้น่าสนใจยังไง กลางเรื่อง ท้ายเรื่อง ก็มีแต่เรื่องชวนให้สนใจใคร่อยากรู้ต่อทั้งนั้น ตรงกลางอธิบายเรื่องได้ยุ่งเหยิงดี แต่แล้วก็ใช้เวลาที่เหลืออธิบายจนคนดูเข้าใจ แถมมีหักมุม บทเฉลยไปในทางที่คนดูอาจคาดไม่ถึง แถมยังเล่าเรื่องได้ค่อนข้างเข้มข้น มีอะไรให้ลุ้นกันไม่พักกันเลยทีเดียว

เรื่องราวบางส่วนมันหยิบการล่วงละเมิดทางเพศ การเผยแพร่คลิป หลัก ๆ มันคือสิ่งที่เพศชายกระทำต่อเพศหญิง แถมยังมีคนเพศหญิงบางส่วนที่ไม่เพิกเฉย แต่ยังให้การเป็นประโยชน์ต่อคนผิดอีกต่างหาก อีกข้อหนึ่งที่ซีรีส์พูดถึง ก็คือการทำคดีที่หละหลวมและเร่งรีบ ทำให้เกิดการปรักปรำคนบริสุทธิ์ให้ต้องมีความผิด ทำชีวิตคนธรรมดาต้องพลิกผัน

บางส่วนก็เล่าเรื่องโควิด-19 ช่วงท้าย ๆ ของซีรีส์ มันได้กลายร่างเป็นหนังสไตล์ whodunit ไปเรียบร้อย เมื่อคนดูและหลายตัวละครต้องร่วมกันตามหาว่า ใครกันแน่ที่ก่อเหตุตัวจริง กว่าจะรู้กันก็แทบจะสุดท้ายปลายเรื่องกันแล้ว ด้านนักแสดง ก็ต้องบอกว่า เล่นดีกันยกแคสต์ โดยเฉพาะ จอนโดยอน และ คิมโกอึน

นอกจากนี้ ซีรีส์ก็ยังมีการถ่ายทำในประเทศไทยอีกต่างหาก ซึ่งโลเกชันก็ดูแปลกใหม่ดีสำหรับงานจากเกาหลีใต้ จบปิดท้ายก็เป็นภาพที่ประเทศไทยด้วยอีกต่างหาก

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์