ใต้ตาหมองคล้ำ หนังตาหย่อนคล้อย เป็นปัญหากวนใจของคนส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก เพราะปัญหาเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน หรือแม้แต่อาการที่เกิดจากภูมิแพ้ก็อาจจะทำให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นได้ ซึ่งแนวทางในการรักษาเพื่อทำให้ปัญหาใต้ตาเหล่านี้หมดไปนั้นสามารถทำได้หลายรูปแบบอาทิ การรักษาด้วยครีมบำรุง และการฉีดฟิลเลอร์ใต้ดวงตา ซึ่งสองวิธีหลัก ๆ นี้ ก็จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ก็ต้องดูความเหมาะสมของแต่ละคนว่าสามารถเลือกรักษาได้ด้วยวิธีไหน แต่โดยส่วนใหญ่แล้วคนส่วนมากนิยมเลือกการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นหลัก เพราะเห็นผลลัพธ์ได้เร็วและมีประสิทธิภาพ วันนี้เราจึงอยากมาแชร์ 3 ข้อควรรู้ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแค่ราคาดีไม่พอให้ทุกคนได้รู้กันก่อนตัดสินใจทำกันเลย
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดีอย่างไร
เริ่มต้นกันที่ข้อควรรู้อย่างแรกเลยที่เราจะมาบอกกันคือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาดีอย่างไร ต้องบอกก่อนเลยว่าการฉีดฟิลเลอร์นี้เป็นการแก้ปัญหาใต้ตาที่ตรงจุดที่สุด เพราะดวงตาเปรียบเสมือนด่านแรกที่ต้องให้ความสำคัญ เนื่องจากใต้ตาที่หมองคล้ำอาจทำให้ใบหน้าของคุณดูเปลี่ยนไป ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ดวงตาจึงเป็นอะไรที่คุณหมอส่วนมากแนะนำให้ทำเป็นจุดแรก ๆ เพื่อปรับให้หน้าของคุณดูเด็กขึ้นได้โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดให้ยุ่งยากเพียงแค่ฉีดฟิลเลอร์เข้าไปในปริมาณที่เหมาะสมก็สามารถทำให้เห็นผลได้อย่างชัดเจนแบบไม่ต้องมีรอยแผล แถมยังทำให้ใต้ตาของคุณดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ราคาเท่าไหร่ดี ? เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนอยากรู้เป็นอย่างมากเพราะการฉีดฟิลเลอร์ของแต่ละคลินิกก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ละยี่ห้อของฟิลเลอร์ แต่โดยประมาณแล้วราคาเริ่มต้นของการฉีดจะอยู่ที่ 10,000 ขึ้้นไปและไล่ระดับขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามราคาของยี่ห้อนั้น ๆ ซึ่งคุณสามารถปรึกษากับคุณหมอของแต่ละคลินิกเพื่อหายี่ห้อที่ใช้ในราคาที่คุณต้องการ แต่แนะนำเลยว่าการเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ควรเลือกที่ราคาเท่านั้นแต่ควรเลือกที่ประสิทธิภาพของผลลัพธ์ที่จะได้จะถือว่คุ้มค่าที่สุดนั่นเอง
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อีกหนึ่งข้อควรรู้ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออาการหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอนนั่นก็คือ อาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันในจุดที่ทำซึ่งอาการเหล่านี้ถือเป็นอาการปกติที่จะเกิดขึ้นได้ในช่วง 2 – 3 วันแรกของการรักษา โดยวิธีในการดูแลเพื่อทำให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมควรหลีกเลี่ยงการเกา หรือ การขยี้จุดที่ฉีด และควรระวังในเรื่องของท่านอนที่ไม่ควรตะแครงข้างเพราะอาจจะทำให้เกิดการกดทับได้ นอกจากนี้ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตรเพื่อทำให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้เพิ่มมากขึ้นและทำให้ผิวของคุณดูเปล่งปลั่งนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างจบไปแล้วกับการแชร์ 3 ข้อควรรู้ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่มองแค่ราคาอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องดูด้วยว่าฉีดไปแล้วดีอย่างไร และมีข้อควรระวังหลังการฉีดอย่างไรบ้าง เพื่อทำให้คุณสามารถรับมือกับอาการที่อาจเกิดขึ้นเพื่อเตรียมตัวดูแลรักษาให้ใต้ตาของคุณให้สามารถเห็นผลได้อย่างดีเยี่ยม
