หากสมาร์ตโฟนเป็นหนึ่งในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำเป็นต่อชีวิต ประหนึ่งอวัยวะชิ้นที่ 33 สายชาร์จสมาร์ตโฟนก็คงเป็นอุปกรณ์เสริมที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอน และยิ่งสมาร์ตโฟนมีการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีไปมากเท่าไหร่ สายชาร์จก็ยิ่งพัฒนาตามไปติด ๆ เท่านั้น ซึ่งสายชาร์จไม่เพียงแต่ต้องรองรับของใหม่ แต่ยังต้องเชื่อมโยงกับระบบเก่าให้ลิงก์ต่อกันได้อย่างไม่สะดุดอีกด้วย
แรกเริ่มเดิมทีสายชาร์จสมาร์ตโฟนมีส่วนที่เชื่อมต่อกับช่องเสียบอุปกรณ์หน้าตาเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า รู้จักกันในนามของ USB Type A แต่เดิมสายชาร์จนั้นจะมาพร้อมกับหัวชาร์จแบบฟิกซ์เอาออกไม่ได้ ใครที่เคยสายชาร์จหาย แล้วรีบตาลีตาเหลือกไปหาซื้อมาใช้ทดแทนกันได้แบบง่าย ๆ
แต่เมื่อคืนวันผ่านไป วิวัฒนาการของสายชาร์จเริ่มเปลี่ยนเป็นอีกรุ่นในนามของ USB Type C ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นวงรีขนาดเล็กกว่า ทำให้การซื้อสายชาร์จแบบไม่ดูรุ่น ไม่ดู Type เริ่มจะยุ่งยากขึ้นแล้ว เพราะบางคนซื้อแบบ Type C มาแต่โทรศัพท์ยังรองรับแบบ Type A อยู่ และนี่คือช่องทางการพัฒนาสายชาร์จอีกระดับ คือ ออกแบบให้สามารถเชื่อมไป-มาระหว่าง Type A กับ Type C ได้ ข้อดีในช่วงหนึ่งก่อนหน้านี้คือ สมาร์ตโฟนของระบบแอนดรอยด์ส่วนใหญ่แม้จะต่างยี่ห้อกัน แต่สามารถแชร์สายชาร์จกันได้ เช่น SAMSUNG, HUAWEI เป็นต้น
ช่องรับการชาร์จหรือการเชื่อมต่อก็ไม่หยุดพัฒนาอยู่เพียงเท่านั้น เพราะสายชาร์จไม่ได้รองรับการเติมพลังงานแบตเตอรีแค่สมาร์ตโฟนเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึง แท็บเล็ต แล็ปท็อป ดังนั้นจึงมีหัวชาร์จที่ต้องรองรับแบบ MicroUSB แบบ ThunderBolt และแบบ Lightning ซึ่งอย่างหลังนั้นก็ผูกขาดการเชื่อมต่อหรือชาร์จกับสมาร์ตโฟนของไอโฟนและผลิตภัณฑ์แบรนด์แอปเปิล ดังนั้น เราจึงเห็นสายชาร์จที่สามารถรองรับทุกระบบข้ามไปข้ามมากันมากขึ้น เช่น จาก Type A หรือ Type C เป็น Lightning หรือที่ประยุกต์กันแบบครอบคลุมที่สุด คือ มีทุกหัวอยู่ในสายชาร์จเดียว ซึ่งเป็นที่ถูกอกถูกใจของสายไอทีอย่างยิ่ง
ที่มาคู่กับสายชาร์จแบบพรากจากกันไม่ได้เลยคือ หัวชาร์จ แต่เดิมนั้นหัวชาร์จเป็นแบบฟิกซ์กับสาย ถอดเปลี่ยนไม่ได้ หากซื้อสายเสียบมาแบบผิดรุ่น ก็เรียกว่าต้องโยนทิ้งทั้งสาย แม้หัวชาร์จจะใช้ได้ดีก็ตาม แต่เดี๋ยวนี้หัวขาร์จมีแบบที่สามารถถอดออกได้ และมีทั้งหัวชาร์จขนาดเล็ก หัวชาร์จกำลังไฟสูงรองรับ 60-100 W และหัวชาร์จแบบหลายช่องรองรับการใช้งานหลายอุปกรณ์ที่มีสายชาร์จที่ต่าง Type กัน
หากจะลองสรุปคร่าว ๆ ของการเลือกสายชาร์จที่ดีคือ นอกจากเลือกให้ตรงรุ่นแล้ว ต้องเลือกสายชาร์จที่มีคุณภาพ ชาร์จไฟได้ไว โอนถ่ายข้อมูลได้เร็ว มีฉนวนหุ้มสายที่แข็งแรง และมีความยาวตามที่ต้องการ เป็นต้น