หลายวันมานี่ ผมเอาแต่เช่าหนังดีวีดีมาดูอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง หลังจากเครื่องเล่นดีวีดีที่เสียไปนาน ได้กลับมีชีวิตอีกครั้ง ผมหยิบดีวีดีหนังเรื่องที่ผมอยากดูและเช่ามาทีละ 2-3 เรื่องเสมอ ดูแล้วเอาไปคืน แล้วก็เช่ามาดูอีก ต่อเนื่องอยู่อย่างนั้นมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์เห็นจะได้ ทั้งหนังไทย หนังฝรั่ง อย่างกับคนที่อดอยากและอัดอั้น ไม่รู้สิ อาจจะใช่…
วันนี้ ผมขอหยิบหนังไทยที่ผมได้ดูมาเขียนถึงดีกว่า
13 เกมสยอง [13Beloved]
ตั้งใจอยากดูหนังเรื่องนี้มานานมากแล้ว กว่าจะได้ดูจริงๆ ก็ผ่านมาเป็นปี หนังอีกเรื่องจากการแสดงนำของ พี่น้อย กฤษดา สุโกศล แคลปป์ จากการกำกับของ มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล หนังหลอนๆ ที่หยิบพล็อตมาจากการ์ตูนจิตหลุด ของเอกสิทธิ์ ไทยรัตน์ ที่เข้ามารับทั้งร่วมเขียนบท และทำสตอรี่บอร์ด
เท่าที่ดู ผมว่า หนังมันหลอนดีจริงๆ การแสดงของพี่น้อยเข้าขั้นดีทีเดียว เสียดายที่บางช่วงพูดเร็วไปนิด ทำให้ฟังยากอยู่สักหน่อย บทเด่นนั้นส่งให้อยู่คนเดียว เล่นเอาบทรองของ อิม อชิตะ สิกขมานา ห่างกันมากเหลือเกินในเรื่องความเด่น
จบได้หักมุมดี แต่จุดด้อยก็พอจะพบได้บ้างบางส่วน ศพตาแก่นั่นตลกดี แต่ดูไม่เหมือนจริงไปหน่อยในบางช็อต โดยรวม ผมว่า โอเคถึงขึ้นดีเลยละ
365 วัน ตามติด ชีวิตเด็กเอนท์ [Final Score]
นี่ก็อีกเรื่องที่ผมรอมานานว่าจะดู หนัง Reality ชีวิตเด็กไทยที่อยู่กระแสของการแข่งขันเพื่อโอกาสทางการศึกษา นั่นคือ การเอ็นทรานซ์ มีทีมงานที่เข้าไปเก็บภาพชีวิตของเด็กไทยจำนวนหนึ่งในรั้วสวนกุหลาบ ตลอดระยะเวลา 1 ปี ทำให้เด็กไทยจำนวนหนึ่งชินกับกล้อง จนกลายเป็นโอกาสที่ดีเมื่อเขาต้องเข้าไปสัมภาษณ์ เหอๆ
หนังดำเนินเรื่องได้ดี ไม่น่าเบื่อ ต้องขอชมทีมงานครับ พวกเขาดูจะเป็นมือใหม่ไฟแรงจริงๆ ผู้กำกับอย่าง โสรยา นาคะสุวรรณ ผู้ช่วยผู้กำกับคนที่ 4 จาก ‘มหา’ลัยเหมืองแร่’ ลงมากำกับทั้งที่ยังเรียนปริญญาเอกที่อังกฤษ
ผมดูหมดครับ ทั้งหนัง และ Special Features ยิ่งก็ยิ่งพบว่า ทีมงานนี่ช่างสุดยอดกันจริงๆ เห็นถึงความตั้งใจในการทำงาน น่าคิดว่า มีอะไรที่เขาสร้างสถานการณ์ไว้บ้างรึเปล่านะ คิดเล่นๆ ครับ อย่าคิดมาก
เปนชู้กับผี [Unseeable]
มาถึงอีกเรื่อง คราวนี้เป็นหนังผีบ้าง หนังผีสไตล์ไทยๆ เสียด้วย ‘เปนชู้กับผี’ เรื่องราวที่ดูเหมือนจะน่าสนใจ แต่ไปๆ มาๆ ทำได้ดีเรื่องอารมณ์และงานภาพ กำกับโดย วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง ที่เคยลือลั่นมาแล้วกับ ‘ฟ้าทะลายโจร’ และ ‘หมานคร’
น่าเสียดายที่ตกม้าตายในเรื่องการตั้งชื่อหนัง ขณะที่การเล่าเรื่องก็กลายเป็นว่า เล่าซะครึ่งเรื่อง (ให้คนดูเก็บข้อมูล) และให้เวลาอีกครึ่งเรื่องสำหรับการเฉลย ทำให้ผมประทับใจครึ่งไม่ประทับใจครึ่งซะงั้น
สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับก็คือ นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา เล่นดีมาก ผมว่า เธอเล่นหนังได้ดีกว่าเล่นละครนะ หรือผู้กำกับละครไม่เก่งวะ ถึงดึงความสามารถของเธอออกมาไม่ได้
โทนหนังดูจะเน้นสีเหลืองเต้มเรื่อง และเน้นความมืดทึมมาก สังเกตได้จากเงาดำพาดผ่านใบหน้านุ่น(ที่ปกติก็ดำอยู่แล้ว)บ่อยครั้ง จบอย่างหักมุม แต่ไม่เซอร์ไพรส์ (เพราะอะไร ผมบ่นไปข้างต้นแล้วละครับ)
เอาละ ยุทธการดูหนังไทย(ย้อนหลัง) ก็กำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว ตอนนี้ มองไปทั่วร้าน ยังไม่มีหนังไทยเรื่องไหนชวนให้อยากเช่ามาดูอีก ที่เหลือ ผมขอไปตามดูหนังฝรั่ง หนังเกาหลีบ้างดีกว่า …
หม่ำเดียว
อยากดุหนังย้อนหลัง
อยากดุหนังย้อนหลัง