รีวิวหนัง Eternity สามรัก หนึ่งนิรันดร์ | หลังตายเลือกชายที่ใช่ ฮาซึ้งโดนใจ

คุณจะทำยังไงให้ตายไปแล้วเจอทั้งสามีคนที่อยู่มาทั้งชีวิตและชายที่เป็นรักแรกแต่ไม่ได้ครองคู่กัน แถมถูกกำหนดให้ต้องเลือกใครสักคนเพื่อเดินทางร่วมกันในชีวิตนิรันดร์ หนังที่โยนโจทย์ยากให้กับนางเอกของเรื่อง เป็นคุณเองล่ะ จะเลือกและทำอย่างไร ไปติดตามกันได้ในหนัง ‘Eternity’ หรือชื่อไทย ‘สามรัก หนึ่งนิรันดร์’ เรื่องนี้ครับ

คิดเห็นเช่นไรกับหนังแฟนตาซีโรแมนติกเรื่องนี้?

ถ้าเราตายไปแล้วหายวับไปเลยก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้ ชีวิตหลังความตายแหละมั้ง ที่เป็นต้นเหตุของความหนักใจของตัวละคร หนังบอกเราว่า คนทุกคนต่างมีทั้งข้อดีและแง่ร้ายในตัวเอง ไม่มีใครจะสมบูรณ์แบบไปซะทั้งหมด แต่การต้องเลือกใครสักคนมันยากนัก และชีวิตนิรันดร์ก็ใช่จะเป็นเรื่องดี เพราะคนเราอาจตัดสินใจผิดพลาดได้เสมอ

หนังที่ทำเราทั้งหัวเราะ น้ำตาไหล และยิ้มไปกับทุกความสัมพันธ์ บอกได้เลยว่า ชอบหนังเรื่องนี้จริง แม้จะเขียนชีวิตนางเอกดูน่าอิจฉาเกินไปก็เหอะ

เรื่องย่อหนัง ‘Eternity’

แลร์รี่ (Miles Teller จากหนังเรื่อง ‘Whiplash’) คือชายผู้ได้พบตัวเองในวัยหนุ่มหลังตายไปอยู่ในดินแดนระหว่างทาง เขามีเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ที่จะเลือกชีวิตนิรันดร์ แต่เขาได้พบกับ โจน (Elizabeth Olsen จากซีรีส์ ‘WandaVision’) ภรรยาของเขาที่เพิ่งเสียชีวิตมา ทุกอย่างดูเหมือนจะดีถ้าไม่ใช่เพราะมีอีกหนึ่งตัวแปรเพิ่มเข้ามา

เมื่อโจนได้พบกับ ลุค (Callum Turner จากหนังเรื่อง ‘The Boys in the Boat’) อดีตแฟนหนุ่มที่ต้องไปเป็นทหาร ตายในสนามรบ และรอคอยเธอมานานกว่า 60 ปี

โจนต้องปวดหัวและปวดใจเมื่อต้องเลือกระหว่างชายที่เป็นรักแรกแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน แถมยังรอเธอมานานเท่าๆ กับที่เธอใช้ชีวิตคู่กับชายอีกคน คนไหนที่จะได้ไปใช้ชีวิตนิรันดร์กับเธอ

รีวิวหนัง ‘Eternity สามรัก หนึ่งนิรันดร์’

การผูกเรื่องที่ทำให้ได้ทั้งหนังโรแมนติก แฟนตาซี ดราม่า แถมยังใส่ความคอมเมดี้ลงไปด้วย เมื่อมันพูดถึงชีวิตหลังความตาย แถมพวกเขาต้องเข้าไปอยู่ในดินแดนระหว่างกลาง ที่นั่นไม่มีแดนที่เรียกว่านรก-สวรรค์อย่างแท้จริง แต่มีกฏกติกาที่ชัดเจนว่า หลังใช้เวลา 1 สัปดาห์เพื่อเลือกแพลนให้ได้ จากนั้นก็จะใช้ชีวิตอย่างนั้นไปตลอดกาล

แต่เมื่อไปแล้ว จะเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าหลบหนีก็จะถูกตามล่าและต้องไปอยู่สักที่ที่ถูกเรียกว่า “สุญญะ” จะว่าไป ก็เหมือนคุกดีๆ นี่เอง ถ้าเลือกแล้วไม่ได้ดีอยากที่คิด แทนที่จะเป็นเช่นสวรรค์ มันก็ไม่ต่างกับตกนรกเหมือนกันนะ

แถมยังใส่โจทย์ยากมาให้นางเอกต้องว้าวุ่นวายใจ เมื่อเธอได้เจอผู้ชายสองคนที่เธอรัก คนหนึ่งคือรักแรกที่ติดอยู่ในใจเธอตลอดมา เพราะเขาตายในระหว่างการเป็นทหาร และไม่เคยมีโอกาสได้ครองคู่กัน ขณะที่ผู้ชายอีกคนนั้น เขาใช้ชีวิตร่วมกับเธอมาอย่างยาวนานถึง 67 ปี มีลูกด้วยกัน เป็นใครก็ลำบากใจแหละ ไม่ว่าเลือกอย่างไหนก็ต้องมีคนเสียใจ

เอาจริง ๆ หนังมันก็ให้คนดูได้มองเห็นภาพของความสัมพันธ์ที่โจนเคยมีกับทั้งสองคน ขณะเดียวกันมันก็พูดถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละคน แน่นอนว่า ไม่มีใครที่จะสมบูรณ์แบบไปเสียทั้งหมด มันจึงไม่ง่ายเลย

แต่หนังก็คงไม่อยากให้คนดูเครียด เรื่องซีเรียส ๆ นี้จึงดูชวนหัวด้วยตัวละครผู้ช่วย วิญญาณทุกตนที่มาที่นี่ จะได้รับมอบหมายให้มีผู้ช่วยคอยชี้แนะแนวทาง และคอยดูแลลดระดับความสับสนของคนเพิ่งตาย และสองตัวนี้นี่แหละที่ทำให้หนังมันครึกครื้นยิ่งขึ้น สร้างเสียงหัวเราะให้คนหนังเป็นอย่างดี อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับ Da’Vine Joy Randolph (จากหนังเรื่อง ‘The Holdovers’) ที่เล่นเป็นแอนนา และ John Early (จากซีรีส์ ‘The Great North’) ผู้เล่นเป็นไรอัน

และการโยนโจทย์ยากมาให้โจนก็เห็นผล เพราะแม้เรื่องมันจะเปิดด้วยตัวแลร์รี่ แต่นี่กลับสัมผัสได้ถึงความยุ่งยากใจของฝ่ายหญิง เมื่อเธอต้องกลายเป็นคนเลือกที่ไม่ว่าทางไหนก็เจ็บ และหนังที่เธอเดินด้วยดราม่าและคอมเมดี้ก็พาเรามีถึงจุดที่ต้องจุกอก น้ำตาไหลไปกับการตัดสินใจของตัวละคร และเรื่องราวที่ทำท่าจะจบ แต่กลับพบว่า บทของหนังมันยังไปต่อ..ได้อีก

โดยรวม มันเป็นหนังดราม่าโรแมนติกแหละ แต่เรื่องราวมีแฟนตาซีเข้ามา คลุกเคล้าด้วยบทฮา ๆ พาให้คนดูยิ้มและหัวเราะตามไป ท่ามกลางความหนังอึ้งของเรื่องราว หนังพาเข้าสู่โหมดเสียน้ำตาด้วยบทซึ้งๆ และเข้าสู่บทลงเอยที่แสนอิ่มเอมใจ แม้เราจะรู้สึกว่า ชีวิตนางเอกช่างโชคดีเหลือเกินก็ตามเหอะ

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง