
ทุกวันนี้ คนมักมีปัญหาเรื่องความเครียด เรื่องอาการซึมเศร้า จนจำเป็นต้องไปหาหมอเพื่อบอกเล่าสิ่งที่ตัวเองกำลังเผชิญแล้วหมอก็จะค้นหาหนทางแก้ไขให้ แต่ถ้าวันหนึ่งสิ่งที่เราเอารอยยิ้มชวนสยองที่ใครเห็นก็จะต้องตายภายในไม่กี่วันไปให้หมอเห็นล่ะ หมอจะรับไหวมั้ย วันนี้เราจะมีรีวิว ‘Smile’ หรือชื่อไทยว่า ‘ยิ้มสยอง’ ครับ มาร่วมพิสูจน์ไปด้วยกันว่า หนังเรื่องนี้มันจะสยองไปสักแค่ไหน
ตัวเอกในเรื่องนี้เป็นจิตแพทย์ ผู้ต้องรับมือกับคนไข้ที่มีปัญหาต่างๆ นานาในการรับมือกับปัญหาทางจิตใจ แต่แล้ววันหนึ่ง เธอก็กลับได้พบว่าคนไข้ของตนเองนำพาเรื่องหลอนมาให้ ทั้งยังเป็นความหลอนที่ถึงตายอีกด้วย น่าสนใจว่าเธอจะรับมือกับเหตุสยองทำนองนี้อย่างไร จะรอดในบั้นปลาย
หรือจะตายไม่มีโอกาสทำลายสิ่งที่ตามติดราวกับคำสาปกันแน่นะ
เรื่องย่อหนัง ‘Smile’
มันเป็นเรื่องราวของจิตแพทย์สาวคนหนึ่ง นามว่า โรส คอตเตอร์ (Sosie Bacon) ผู้ที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในวันที่เธอใกล้จะกลับบ้านก็บังเอิญว่ามีคนไข้เข้ามาใหม่พอดิบพอดี แต่เป็นคนไข้ที่จะทำให้ชีวิตของเธอแปรเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
เมื่อคนไข้รายนี้เธอบอกว่า เธอเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น สิ่งที่เธอเห็นอาจเป็นร่างของใครก็ได้ คนที่ตายไปแล้วก็ยังได้ สภาพเดียวกันหมดคือ มองเธอด้วยรอยยิ้มอันน่ากลัว แต่หลังจากคำบอกเล่านั้น เธอก็ทำท่าทีลนลานแล้วจัดการฆ่าตัวตายต่อหน้าต่อตาเธอ นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว
จากนั้น หมอก็เกิดอาการจิตตก และพบว่า คนไข้อีกคนของเธอก็คอยส่งหน้ายิ้มหลอนๆ ให้เธออยู่เรื่อย ทั้งยังตะโกนใส่หน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า “เธอจะต้องตาย” จิตแพทย์อย่างเธอจะบอกเล่าให้ตำรวจที่ไหนฟังเขาก็คงไม่อยากเชื่อ ที่สุดเธอก็ต้องสืบหาความจริงเอาเอง สืบให้ทันก่อนที่จะความตายจะมาเยือนเธอเสียเอง
รีวิวหนัง ‘ยิ้มสยอง’
รู้สึกว่าหนังน่าสนใจดีที่เล่าเรื่องของตัวละครที่เป็นจิตแพทย์แต่ต้องมากลายเป็นคนที่มีปัญหาจิตหลอนเสียเอง เพื่อดูว่า คนที่มีอาชีพให้คำปรึกษาคนอื่น เมื่อเจอเสียเองเธอจะรับมือกับมันยังไง
จิตแพทย์ในหนังเรื่องนี้รับบทโดย Sosie Bacon ที่หลายคนอาจเคยได้เห็นเธอมาบ้างจากซีรีส์ ‘Mare of Easttown’ ทางเอชบีโอ ไม่ก็ ’13 บันทึกลับหัวใจสลาย’ ทางเน็ตฟลิกซ์ แม้เธอจะสวมบทบาทแล้วดูไม่ใกล้เคียงจิตแพทย์มากนัก แต่เธอก็เหมาะอยู่กับการแสดงท่าทางของคนที่ประสบปัญหาทางจิต แถมการดำเนินเรื่องของหนังก็พาให้คนดูได้ลุ้นระทึกใจเต้นรัวแถมสะดุ้งไปได้ในหลายช็อตอีกต่างหาก
สไตล์ของหนังนั้น มันไม่ใช่หนังผี แต่มันเป็นไอเดียการส่งต่อความหลอน สร้างอาการคล้ายโรคติดต่อแต่เป็นการติดต่อทางจิต เมื่อใครที่ได้เห็นอีกคนมาฆ่าตัวตายตรงหน้า คนๆ นั้นก็จะได้รับการส่งต่ออาการนั้นไป ซึ่งในที่นี้ คนๆ นั้นก็คือโรส จิตแพทย์สาว หลังจากเธอได้รับสืบทอดอาการจิตหลอน เธอก็เกิดความหวาดกลัวว่าจะได้เห็นใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มหลอนๆ ตลอดเวลา ขณะที่คนดูก็เช่นกัน ถูกรอยยิ้มตามหลอกหลอนไม่หยุด
ผู้กำกับเล่นใช้ช็อต jump scare (หรือที่คนไทยเรียก ตุ้งแช่) ที่ได้ผลอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความแม่นจังหวะ และจัดเต็มไม่ยอมยั้งมือ พาผู้คนได้ลุ้นและหวาดผวากับรอยยิ้มไปทั้งเรื่อง ที่แม้จะไม่ได้เล่นท่ายาก ไม่ได้ใช้อะไรที่แปลกใหม่ แต่ก็ทำได้ตลอดรอดฝั่ง
เป็นหนังที่ใช้องค์ประกอบด้านเสียงค่อนข้างเด่นชัด ทุกการกระทำ เราจะได้ยินเสียงของมันอย่างเด่นชัด เสียงของมันจะดังเป็นพิเศษ เสียงดนตรีประกอบก็ชวนตื่นเต้นกระตุ้นให้ทุกอณูของความรู้สึกต้องจดจ่ออยู่กับภาพตรงหน้า สุดท้าย ผู้ชมทั้งหลายก็โดนจังหวะหนังซัดกระหน่ำเช่นเดิม
สำหรับนายแพท มองว่ามันน่าสนใจดีนะที่ใส่คาแรกเตอร์ตัวเอกเป็นจิตแพทย์ที่ต้องมารับมือกับความสติแตก แม้บางส่วนจะยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ เธอมีคู่หมั้นหนุ่มที่พยายามจะช่วยเหลือเธอทุกทางเท่าที่เขาจะทำได้ แต่เธอกลับไม่พอใจจนคนดูอย่างผมก็ไม่เข้าใจว่าเธอจะไปต่อว่าทำไม หรือว่ามันเพราะตอนนี้จิตใจเธอปั่นป่วนไม่ค่อยมีสติก็ไม่รู้เหมือนกัน
‘ยิ้มสยอง’ มีทั้งความเป็นหนังคำสาป และใส่สไตล์หนังสืบสวนลงไปร่วมด้วย จิตแพทย์สาวที่พยายามสืบหาต้นตอเพื่อหวังลบล้างคำสาปให้ทันก่อนความตายจะมาเยือน เมื่อองก์สามของหนังมาถึง ก็พาผู้ชมไปพบกับความเซอร์ไพรซ์ด้วยเรื่องราวที่พลิกไปอีกทาง ต้องชื่อชนเลยสำหรับหนังยาวเรื่องแรกของผู้กำกับ Parker Finn ที่ทำได้ขนาดนี้
น่าสนใจทีเดียวแม้ตอนจบของหนังจะไม่ได้เป็นอะไรที่ยากเกินคาดเดานักก็ตาม
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Smile / ยิ้มสยอง |
กำกับ | Parker Finn |
เขียนบท | Parker Finn |
แสดงนำ | Sosie Bacon, Jessie T. Usher, Kyle Gallner, Caitlin Stasey, Robin Weigert |
แนว/ประเภท | Horror |
เรท | R |
ความยาว | 115 นาที |
ปี | 2022 |
สัญชาติ | สหรัฐอเมริกา |
เข้าฉายในไทย | 29 กันยายน 2022 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Paramount Players, Temple Hill Entertainment, UIP |
ยิ้มสยอง
พล็อตและบท - 7
การแสดง - 7.2
การดำเนินเรื่อง - 7.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.7
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 7.4
7.4
Smile
มันน่าสนใจดีนะที่ใส่คาแรกเตอร์ตัวเอกเป็นจิตแพทย์ที่ต้องมารับมือกับความสติแตก เมื่อเธอต้องมาเจอคนไข้ที่หลอนและมาฆ่าตัวตายต่อหน้า ทั้งนำพาความหลอนประสาทแดกเข้าสู่ตัวเธอ เหมือนมีบางสิ่งติดตาม มองเห็นบางอย่างยิ้มหลอนๆ ใส่ได้ตลอดเวลา หนังใช้เสียงดังทุกอย่าง ดนตรีประกอบชวนคุกคาม ตัดต่อพาสะดุ้งด้วยช็อตตุ้งแช่ เป็นงานกำกับครั้งแรกของผู้กำกับ นับว่าทำได้ดีเลย