ในหลายครั้ง การรับชมลิมิเต็ดซีรีส์ หรือซีรีส์ที่มีจำนวนตอนจำกัดเพียงไม่กี่ตอนจบ ก็ถือเป็นความบันเทิงที่ไม่ต้องทรมานกับการยิงยาวต่อเนื่องหลายวัน (หรือบางทีก็เป็นเดือน) และเพราะความสั้นของมันทำให้การดำเนินเรื่องค่อนข้างกระชับ ไม่ค่อยน่าเบื่อ น่าง่วง จนต้องปล่อยเบลอ หรือเททิ้งไปกลางทาง วันนี้ ผมคลิกเลือก ‘Clickbait คลิกล่อตาย’ มาเขียนถึงให้อ่านกันครับ
ปกติแล้ว ‘คลิกเบต’ คำนี้มักถูกใช้กับคอนเทนต์ที่มักเน้นสร้างมาเพื่อชักจูงโน้มน้าวให้ผู้ชมคลิกเข้าไปดูหรืออ่าน ไม่ว่าข้อมูลข้างในมันจะมีมากหรือน้อยแค่ไหนก็ตาม ประเด็นของซีรีส์เรื่องนี้ก็คงจะมาจากจุดเริ่มต้นของมัน คลิปฉาวที่กลายเป็นประเด็นร้อน มีผู้คนให้ความสนใจเปิดเข้าไปดู นำมาซึ่งเหตุสะเทือนขวัญและการสืบสวนเปิดโปงที่จะดึงเอาเรื่องราวเบื้องหลัง
ออกมาแฉกันจนหมดเปลือก!
เรื่องย่อซีรีส์ Clickbait
ทุกสิ่งมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ นิก บรูวเออร์ (Adrian Grenier จากหนังเรื่อง The Devil Wears Prada) พี่ชายของน้องสาว เพีย (Zoe Kazan/โซอี้ คาซาน จากหนังเรื่อง The Big Sick, What If และ Ruby Sparks) สามีของภรรยา โซฟี (Betty Gabriel จากซีรีส์เรื่อง Westworld, หนังเรื่อง Get Out) พ่อของอีธาน (Camaron Engels) และไค (Jaylin Fletcher) ปรากฏตัวอยู่ในคลิปชวนตะลึง ในคลิปมีข้อความบอกว่า ถ้ามีคนดูถึง 5 ล้านเมื่อไหร่ เขาจะต้องถูกฆ่า
เขาถูกลักพาตัวไป ในวันถัดจากเหตุทะเลาะระหว่างพี่น้อง
ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นยาวนานของสองพี่น้อง ทำให้เพียมุ่งมั่นตามหาพี่ชายที่หายตัวไปอย่างเต็มที เธอได้พบกับ โรชาน อมิรี (Phoenix Raei) ตำรวจนักสืบที่เป็นมุสลิม ผู้ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากทีมสืบสวนเท่าไหร่ แต่เหมือนความสามารถของเขาจะไม่ใช่ธรรมดา
งานนี้ เขาต้องเข้ามาสืบสาวเรื่องราวเบื้องหลังทั้งหมดว่า เหตุลักพาตัวครั้งนี้มันเกิดจากอะไรกันแน่ ซึ่งส่งผลให้ทุกสิ่งที่เคยถูกปกปิดไว้ กลายเป็นสิ่งที่พาให้อึ้งเมื่อได้ล่วงรู้ซึ่งความจริง!
รีวิวซีรีส์ คลิกล่อตาย
เหตุเริ่มต้นเพียงเรื่องของคลิปที่สร้างเรื่องให้คนสนใจได้เป็นอย่างดี ภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่ออกมาสารภาพผ่านแผ่นป้ายว่าทำร้ายและฆ่าผู้หญิง และถ้ามีคนดูครบ 5 ล้าน ตนจะถูกฆ่าตาย อาจถือเป็นเหยื่อล่อชั้นดีให้คนคลิกเข้าไปดู โดยไม่ได้สนใจว่า ตนเองก็เป็นหนึ่งในคนที่สนับสนุนการฆ่า ยิ่งฮือฮากันมากเท่าไหร่ ชายในคลิปก็ยิ่งใกล้ความตายมากขึ้นเท่านั้น
จิกกัดสังคมไปหนึ่งดอก…
พูดถึงโซอี้ คาซาน เสียหน่อย
นานมากพอดูเหมือนกัน ที่นายแพทไม่ได้เจอกับ Zoe Kazan อาจเพราะไม่ได้เข้าโรงหนังมานาน อีกส่วนก็เพราะหลังๆ เธอจะหันมาแสดงซีรีส์ซะมากกว่า การได้มาเจอกันอีกครั้ง เธอเป็นเรื่องดี เพราะเธอก็เล่นได้เยี่ยมเช่นเคย ในครั้งนี้ เธอสวมบทบาทเป็นน้องสาวของพี่ชายในคลิปฉาว เธอต้องเล่นเป็นน้องสาวที่มีปมในใจ เคยสนิทกับพี่ชายอย่างมากก่อนที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองพี่น้องจะกลายเป็นความระหองระแหงต่อกัน
เมื่อพี่ชายกลายเป็นคนในคลิป และเธอรู้ว่านิก พี่ของเธอไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนั้น ความเชื่อใจและความเจ็บปวดที่ฝังแน่นพาให้เธอมุ่งมั่นจะทำทุกอย่างเพื่อล้างภาพที่สุดเลวร้ายให้กับพี่ชายตนเอง แต่ทุกสิ่งมันไม่ง่าย เมื่อมีผู้คนมากมายเข้ามาเป็นตัวแปรที่ต้องกระเทาะให้ออก ทำความจริงให้กระจ่าง โดยอาศัยความช่วยเหลือของคนรอบข้าง และที่สำคัญคือ หนุ่มตำรวจนักสืบอย่าง โรชาน
แบ่งตอนด้วยการโฟกัสทีละคน
มันเป็นซีรีส์สไตล์สืบสวนแหละแต่มันมีครึ่งหนึ่งที่เน้นเล่าเรื่องครอบครัวและความสัมพันธ์ ด้วยเพราะคดีนี้มันเกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์ วิธีการเล่าของเขาจะโฟกัสไปที่ละคนหรือทีละคู่ ค่อยๆ เปิดให้คนดูได้เห็นแง่มุมเรื่องของคนๆ นี้หรือคนคู่นี้ก่อน ก่อนจะหันไปโฟกัสเล่าเรื่องของคนอื่น ซึ่งก็ดีตรงที่มันจะทำให้ คนดูมองเห็นและติดตามเรื่องราวในมุมแคบๆ ไม่อาจมองเห็นองค์รวมได้ทั้งหมด
จึงทั้งเรื่องเบื้องลึกที่เล่าเกี่ยวกับคนๆ นั้นได้ แต่มีเรื่องบางส่วนที่ไม่เคยถูกเล่า เอาให้คนเซอร์ไพรส์ในทีหลัง
สิ่งที่คาดว่าใช่ กลับกลายเป็นคาดผิด
ด้วยวิธีการเล่าที่ใช้การโฟกัสไปเป็นคนๆ ทำให้เรื่องราวมันมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาตลอด เหมือนการสืบคดีที่ไม่ได้มองทุกภาพไปพร้อมๆ กัน ทำให้การมองพลาดกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปในซีรีส์เรื่องนี้ และที่สำคัญ การที่ทำให้คนดูมองตัวละครบางตัวพลาดไปถือเป็นความสำเร็จของคนเขียนบท คนกำกับและคนตัดต่อไปเลยก็ว่าได้
เรื่องราวพลิกกลับไปกลับมาจนเดากันไม่ถูกเลยทีเดียว
เอาจริงๆ นะ มันคือการมองด้วยแว่นแคบๆ หรือปิดตาไว้ข้างหนึ่งเพื่อจะมองเห็นเพียงส่วนเสี้ยว ทำให้เรามองเห็นความจริงที่ไม่ทั้งหมด ทำให้การสืบมันค่อนข้างเดินทางไปอย่างสะเปะสะปะ กว่าจะรู้สาเหตุที่แท้จริงก็ต้องเสียเวลา เสียทั้งชีวิตคน แต่ก็นะ
สำหรับตัวนายแพทเองนั้นเลือกดูแบ่งซีรีส์ 8 ตอนนี้ออกเป็น 2 ครึ่ง ต้องออกตัวว่า 2 ตอนแรกนั้นชวนให้สนุกไปกับการติดตามว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับนิก ชายที่อยู่ในคลิป ข้อความของเขานั้นเป็นจริงหรือไม่ ใครกันแน่ที่จับตัวเขาไป เหตุผลที่มาเป็นอย่างไร แต่พอผ่านไปถึงตอน 3-4 เริ่มรู้สึกเนือยๆ กับเรื่องราว อาจเพราะไม่ชอบในความลำใยของบางตัวละครก็เป็นได้ แม้จะเป็นข้อมูลใหม่ๆ ที่เรายังไม่รู้ก็ตาม
ถัดมาอีกวัน ต่อในอีก 4 ตอนที่เหลือ จากที่เคยแผ่วๆ ไป ตอนนี้เรื่องราวก็เริ่มกลับมาคุกรุ่นมากขึ้น หันไปเล่าเรื่องนักข่าวบ้าง เรื่องลูกชายบ้าง ทั้งเรื่องราวยังพลิกผันจนต่างไปจากที่เรารู้ตอนเริ่มไปมากพอสมควร ถือเป็นการกลับมาสนุกอีกครั้งของซีรีส์ ความอดทนกับครึ่งก่อนหน้า ส่งผลให้รู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่ยังติดตามต่อ
ก่อนที่มันจะไล่ไปพีคในตอนท้าย
ความน่าสนใจของมันก็มีอยู่หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการหยิบเอาโลกออนไลน์ทุกวันนี้มาใส่เล่าไว้ในเชิงเสียดสี มนุษย์ที่รู้ทั้งรู้ว่าถ้าเปิดดูคลิปจนยอดวิวมันถึงแล้วเขาต้องตายก็ยังเลือกจะเปิดเข้าไปดู ชีวิตของวัยรุ่นที่อยู่กับแชท คนมีคู่แล้วแต่ก็ยังอยากสร้างสีสันด้วยการลองเล่นแอปหาคู่ และอะไรอีกหลายๆ อย่างที่ยำเคล้าคนใส่รวมกันเข้ามา โดยเฉพาะ การที่ตัวละครเรื่องนี้มีหลากหลายเชื้อชาติศาสนา
จัดว่าเป็นซีรีส์ที่ดูสนุก ดูเพลิน ได้พอสมควรเลยล่ะ
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
ชื่อซีรีส์ | Clickbait / คลิกล่อตาย / Кликбейт |
ผู้สร้าง | Tony Ayres, Christian White |
นักแสดง | Zoe Kazan, Betty Gabriel, Phoenix Raei, Adrian Grenier, Camaron Engels, Jaylin Fletcher |
แนว/ประเภท | Crime, Drama, Mystery, Thriller |
จำนวนตอน | ซีซัน 1: 8 ตอน |
ปี | 2021 |
ช่องทางรับชม | Netflix |
เริ่มออกอากาศ | 25 สิงหาคม 2021 |
ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Master Key Production, Heyday Television, Matchbox Pictures, Netflix |
คลิกล่อตาย
บทและพล็อต - 7.7
การดำเนินเรื่อง - 7.3
การแสดง - 7.4
โปรดักชัน - 7.6
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
7.5
Clickbait
ลิมิเต็ดซีรีส์แนวสืบสวนที่จบได้ใน 8 ตอน เรื่องราวที่เริ่มมาจากคลิปฉาวของพี่ชายที่เปิดป้ายบอกความผิดตัวเอง และบอกว่าถ้ามีคนดูครบ 5 ล้าน เขาจะถูกฆ่า น้องสาวเลยต้องลบล้างความผิดให้กับพี่ชายโดยร่วมกับนักสืบที่เธอเพิ่งคุยกันผ่านแอพหาคู่ เรื่องราวที่เดินไปแบบพลิกไปพลิกมาชนิดให้คนดูเดากันไม่ถูกว่า ตกลงมันเกิดจากอะไรและใครเป็นตัวร้ายกันแน่