รีวิวซีรีส์ Typhoon Family เลือดธุรกิจฝ่าพายุวิกฤติ | เรียนรู้วิธีบินจากพ่อ

ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ หลายประเทศจำเป็นต้องพึ่งพาเงินกู้จาก IMF และเร่งฟื้นฟูประเทศ ผู้คนมากมายต้องดิ้นรนอยู่รอดท่ามกลางความฝึดเคืองทุกอย่าง ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้ ‘Typhoon Family’ หรือชื่อไทย ‘เลือดธุรกิจฝ่าพายุวิกฤติ’ บอกเล่าถึงการเรียนรู้เพื่อจะฟื้นฟูธุรกิจที่พ่อสร้างให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เกาหลีแนวธุรกิจเรื่องนี้?

มันเหมือนพาเราย้อนกลับไปอยู่ในยุคที่ทุกคนใช้ชีวิตกันอย่างยากลำบาก แต่มันพูดถึงเหตุที่เกิดในเกาหลีใต้ ธุรกิจต่างล้มหายตายจากกันมากมาย เช่นเดียวกับบริษัทใต้ฝุ่นการค้าของแทพุง หลังสูญเสียพ่อไป เขาก็เข้ามาเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่กับพนักงานเพียงคนเดียว เผชิญหน้ากับธุรกิจท่าเรืออันเลวร้ายที่คอยขัดขวาง พบกับสินค้าหลากชนิดในตลาดต่างประเทศที่จะช่วยพลิกฟื้นธุรกิจของแทพุง

นอกนั้นก็เป็นการได้เห็นความสัมพันธ์ของคู่พระนางที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นทุกตอน ก็อิ่มเอมใจไปอีกแบบ

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Typhoon Family’

เรื่องราวมันเกิดขึ้นในปี 1997 ที่เกาหลีใต้ มันเป็นช่วงที่ประเทศกำลังเข้าสู่ช่วงวิกฤติทางเศรษฐกิจจนต้องพึ่งพา IMF พ่อของคังแทพุง (Lee Joon Ho จากซีรีส์ ‘King the Land’ และ ‘The Red Sleeve’) ที่ดูแลกิจการของบริษัทใต้ฝุ่นการค้ามานาน ซึ่งนั่นก็ทำให้แทพุงได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระด้วยเงินของพ่อ แต่วิกฤติที่โหมกระหน่ำทำให้บริษัทของพ่อสุ่มเสี่ยงจะพังครืน แถมพ่อของเขาก็ดันมาด่วนจากไปอย่างปุบปับ

แม้ที่ผ่านมา แทพุงจะค่อนข้างห่างเหินกับผู้เป็นพ่อ เขาเพียงขัดรองเท้าให้มาโดยตลอด แต่มาถึงวันที่พ่อล่วงลับ เขาตัดสินใจสานต่อในฐานะประธานของบริษัท ถึงจะยังไม่มีความรู้ด้านธุรกิจมากนัก แต่เขามีหัวใจที่อบอุ่น ทั้งมีความรับผิดชอบและกล้าหาญ เขามุ่งมั่นจะนำพากิจการของพ่อให้พลิกฟื้นขึ้นมาได้อีกครั้ง

ด้านโอมีซอน (Kim Min Ha จากซีรีส์ ‘Light Shop’ และ ‘Pachinko‘) เธอคือพนักงานบัญชีของใต้ฝุ่นการค้า แต่ก็ทำแทบจะทำหน้าที่เบ๊ทุกอย่างในบริษัท ทั้งที่เธอมีความจำเป็นเลิศ คิดเลขในใจเก่งที่หนัง แต่ฐานะทางบ้านของเธอนั้นยากจน เธอคือเสาหลักที่ต้องหาเลี้ยงครอบครัว แม้ส่วนตัวต้องการเรียนต่อ แต่ก็ดูเหมือนวิกฤติเศรษฐกิจจะทำให้เธอต้องตัดใจละทิ้งความฝัน เพื่อร่วมพลิกฟื้นใต้ฝุ่นการค้ากับแทพุง

รีวิวซีรีส์ ‘เลือดธุรกิจฝ่าพายุวิกฤติ’

ซีรีส์เรื่องนี้ พาคนดูอย่างเราย้อนกลับไปวันเก่าอีกครั้ง ในช่วงพิษพายุเศรษฐกิจพัดกระหน่ำไปทั่วโลก หลายประเทศต้องยอมรับโปรแกรมฟื้นฟูของ IMF เพื่อพยุงตัวให้รอด เกาหลีใต้ก็เช่นกัน บริษัทของพ่อพระเอกก็เสี่ยงจะล้มละลาย เต็มไปด้วยหนี้ที่โดนทวงต่อเนื่อง พนักงานบางส่วนก็ลาออกในวันที่เขาเข้ามารับหน้าที่สานต่อ ครอบครัวของเขาเองก็กำลังถังแตก ไฟถูกตัด โดนคนโทรทวงหนี้จนหูชา ทุกอย่างที่เคยดีแปรเปลี่ยนไปในพริบตา

แทพุงเคยมีงานอดิเรกอย่างการเพาะพันธุ์กุหลาบในเรือนกระจก แต่กลับต้องถูกทิ้งร้าง วังนัมโม (Kim Min Suk จากซีรีส์ ‘Mr. Plankton’) เพื่อนสมิทของแทพุงก็วาดหวังอยากโด่งดังเป็นนักร้องแต่ต้องมาทำงานขนของ ยุนซองหนีหายหลังครอบครัวล้มละลาย มีซอนล้มเลิกการเรียนต่อมาช่วยลุยงานให้บริษัทของแทพุงอย่างจริงจัง ส่วนมีโฮ น้องสาวของมีซอนก็เลิกหวังเป็นแอร์โฮสเตจและหันมาทำงานในห้างแล้วเช่นกัน

เราจึงได้เห็นว่าความหวังความฝันของคนหนุ่มสาวพังทลายไปหมด พวกเขาจะปรับเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอดกันทั้งนั้น

ชีวิตของแทพุงแปรเปลี่ยนไปมากมาย จากการเป็นหนุ่มที่สำราญกับชีวิตวัยรุ่น พอพ่อตาย เขาค่อย ๆ กลายเป็นคนที่รู้ตัวว่าต้องสานต่อบริษัทของพ่อ แถมชื่อบริษัทมันก็มาจากชื่อของตัวเขาเอง แทพุง แปลว่า พายุไต้ฝุ่น ในที่สุด เมื่อการล้มละลายของจริงมันมาถึง เขาเลือกจะเป็นคนพลิกฟื้นมันขึ้นมาใหม่ โดยมีเพียงเขาที่ตั้งตัวเองเป็นประธาน และพนักงานคนเดียว โอมีซอน ที่ได้สมหวังในความฝันเมื่อเลื่อนขั้นมาเป็นพนักงานอาวุโสและเป็นผู้ค้าเต็มตัวซะที

แทพุงขอให้มีซอนช่วยสอนให้เขารู้จักการทำงานที่บริษัท…

นั่นกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ หนึ่งประธานและหนึ่งพนักงานคนสำคัญที่ช่วยกันปลุกปั้นบริษัทที่เคยล้มไปให้ลุกยืนขึ้นใหม่ แต่พวกเขาก็ต้องเจออุปสรรคหลายต่อหลายอย่าง บริษัทที่ล้มละลายจะงอกรากใหม่ท่ามกลางเศรษฐกิจที่กำลังทรุดได้อย่างไร บริษัทคู่ค้าต่างก็ล้มละลาย จะขอความช่วยเหลือใครก็โดนบอกปัด ทุกที่ต้องการเงินมาหล่อเลี้ยงทั้งนั้น สองคนต้องช่วยเหลือกันลำบากร่วมกันมาทุกด้าน แต่สถานการณ์ก็ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น

ขวากหนามขนาดใหญ่คงจะเป็นสองพ่อลูกตระกูลพโย ประธานพโยแบคโฮ (Kim Sang Ho) จอมเจ้าเล่ห์ และพโยฮยอนจุน (Mu Jin Sung)​ ลูกชายนิสัยหัวไม้ พวกเขาเป็นผู้มั่งคั่งเพราะควบคุมท่าเรือพโย บริษัทไหนที่ทำธุรกิจการค้า จะส่งออกสินค้าไปประเทศไหนก็ต้องผ่านพวกเขา

และก็ไม่ใช่มีแค่คนนอก บางทีคนกันเองก็ใช่ย่อย การเหยียดเพศนี่ก็ส่วนหนึ่งที่ทำให้รู้สึกบั่นทอนจิตใจให้คนสู้ชีวิตต้องทดท้อ สองคนเลยต้องใช้ทั้งแรงใจ แรงกาย และมันสมองเพื่อเอาชนะและผ่านพันมัน

พวกเขาเลยได้พบกับมิตรภาพดีดีจากทั้ง จางชารัน (Kim Hye Eun จากซีรีส์ ‘Iron Family’) นักธุรกิจหญิงจากเมืองปูซาน ที่เคยเป็นคู่ค้าของพ่อมาก่อน เธอก็ช่วยเหลือเขาไว้หลายอย่าง เหมือนเป็นหนึ่งแรงสำคัญที่ช่วยให้แทพุงเรียนรู้ประสบการณ์เพื่อพาไต้ฝุ่นการค้ากลับมาเติบโตอีกครั้ง และเพราะความอบอุ่นและมุ่งมั่นของแทพุงนั่นแหละ ที่ทำให้ พัคยุนชอล (Jin Sun Kyu จากซีรีส์ ‘Revenant’) เจ้าของกิจการรองเท้านิรภัย กลายเป็นอีกหนึ่งพันธมิตรของเขา

ไม่เท่านั้น แทพุงไม่เคยยอมแพ้ เขายังคงหาสินค้ามาขายได้อยู่เรื่อย ๆ ในที่สุด เขาก็มาเยือนกรุงเทพฯ ประเทศไทยสมัยนั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้เราได้เจอกับ ใหม่ ดาวิกา ที่ร่วมเล่นรับเชิญในซีรีส์เรื่องนี้ด้วย

พาร์ทที่โดนใจผมมากหน่อยก็คงเป็นเรื่องที่เขาใช้เพลงประกอบสไตล์ City Pop ซึ่งก็เพราะหลายเพลงเลย ดนตรีประกอบบางส่วนก็จะใส่สไตล์เพลงในยุคนั้นเช่นกัน ซึ่งผมก็ว่ามันเข้าที่เลยล่ะ

โดยรวมแล้ว มันเป็นเรื่องราวของวัยรุ่นสร้างตัว หนุ่มสาวที่บ้างก็ต้องทิ้งฝันไว้ก่อนแล้วทำอะไรสักอย่างเพื่ออยู่ให้รอดจนผ่านช่วงนั้นมาให้ได้ แต่ตัวละครสำคัญของเรื่องนั้น เพิ่งมาเรียนรู้ธุรกิจ พยายามประกอบร่างไต้ฝุ่นการค้าขึ้นมาใหม่ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจที่โหมกระหน่ำไปทั่วโลก อุปสรรคจึงถาโถมมาเยอะกว่าปกติ คนที่ผ่านพ้นมันมาได้จึงย่อมแข็งแกร่งไม่เกรงกลัวย่อท้อต่อขวากหนาม

อีกทั้งคนที่ผ่านอะไรมาด้วยกันก็มักจะรักกันมาก ไม่บอกก็รู้ว่า สุดท้ายแล้ว ยังไงพวกเขาก็ต้องได้ลงเอยกัน

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์