ซีรีส์เกาหลีไม่เคยหยุดสรรค์สร้างสิ่งแปลกใหม่ แม้จะหยิบเอาประวัติศาสตร์ที่เคยถูกเล่า แต่เขาก็หามุมใหม่ๆ มาสร้างเรื่องให้ต่างออกไปจนได้ ครั้งนี้ เขาหยิบเกาหลีในช่วงที่ยังเรียกตัวเองว่าโชซอน ในช่วงที่กรุงโซลยังถูกเรียกว่ากยองซอง ญี่ปุ่นยึดครองไม่พอยังจับคนโชซอนไปทดลองสัตว์ประหลาดซะอีก ‘Gyeongseong Creature’ หรือในชื่อไทยว่า ‘สัตว์สยองกยองซอง’ ครับผม
source: Netflix
ความเห็นส่วนตัวของนายแพท
ซีรีส์เกาหลีที่ผสมหลากหลายแนวเข้าด้วยกัน ส่วนหนึ่งมันหยิบเอาประวัติศาสตร์ชาติเกาหลีในยุคที่ญี่ปุ่นเข้ามายึดครอง แต่สร้างเรื่องเพิ่มเติมให้ญี่ปุ่นแอบทดลองสร้างสัตว์ประหลาดในชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล โดยมีมนุษย์ทดลองเป็นชาวโชซอนที่อยู่ในเมืองกยองซอง มันจึงมีฟีลความลึกลับ ระทึกและสยองขวัญ แต่มันก็มีความดราม่าและโรแมนติกปะปนอยู่ด้วย ในแง่มุมประวัติศาสตร์นั้นถือว่าหยิบมาขีดเขียนใหม่ได้มีมุมมอง แต่อาจเล่าเรื่องราวเชื่องช้าอยู่บ้าง ซีจีก็ค่อนข้างโอเค แม้เรื่องจะยังขาดๆ เกินๆ ในด้านความเม้กเซ้นส์อยู่ ฮันโฮซีได้บทบู๊เท่อีกครั้ง ขณะที่พัคซอจุนได้บทที่มีพัฒนาการ
พาร์ทแรกที่มีถึง 7 ตอน ถูกตัดจบแบบค้างคา และคงต้องรอคอยไปเพื่อพบกับบทสรุปที่เหลือแค่ 3 ตอนเท่านั้น หลังปีใหม่เจอกัน!
เรื่องย่อซีรีส์ ‘Gyeongseong Creature‘
ซีรีส์เล่าเหตุการณ์ในเกาหลีปี 1945 ช่วงเวลาที่จักรวรรดิญี่ปุ่นยึดครองแผ่นดินโชซอน ที่สมัยนั้นโซลยังใช้ชื่อว่า “กยองซอง” ผ่านเรื่องราวของ จางแทซัง (Park Seo Jun/พัคซอจุน จากซีรีส์ ‘Itaewon Class’ และหนัง ‘Dream’) ชายผู้ร่ำรวยแห่งบุกชน เจ้าของคลังสมบัติทอง และแหล่งข้อมูลอันดับหนึ่งของกยองซอง เขาถูกผู้การอิชิคาว่า (Kim Do Hyun/คิมโดฮยอน จากซีรีส์ ‘Reborn Rich’) กล่าวหาว่าเขาลอบเป็นชู้กับเมียรัก และสั่งให้ตามหาเด็กสาวคนหนึ่ง ที่ชื่อ มยองจา พร้อมคำขู่ที่ว่าจะยึดทรัพย์สินทุกอย่างและถูกส่งไปรบหากทำไม่สำเร็จ
ขณะที่หญิงสาวชื่อ ยุนแชอ๊ก (Han So Hee/ฮันโซฮี จากซีรีส์ ‘My Name’ และ ‘The World of the Married’) เธอเป็นนักแกะรอย ผู้เชี่ยวชาญด้านการหาคน เธอมายังกยองซองกับผู้เป็นพ่อเพื่อตามหาแม่ที่หายไปเมื่อสิบปีก่อน ขณะที่งานล่าสุดของเธอคือการตามหาจิตรกรชาวญี่ปุ่นชื่อ ซาชิโมโต้
แม้ญี่ปุ่นจะพ่ายแพ้ในสงครามแต่การยึดครองเกาหลีของญี่ปุ่นยังดำเนินต่อไป ก่อเกิดกลุ่มคนรักชาติขึ้นมา หนึ่งในนั้นคือ วอนจุนแท็ก (Wi Ha Joon/วีฮาจุน จากซีรีส์ ‘The Worst Of Evil’ และ ‘Little Women’) คุณชายแห่งบริษัทบูกัง ชายหนุ่มผู้มีอุดมการณ์แรงกล้าที่จะปลดแอกโชซอนจากญี่ปุ่น แต่เขาเป็นลูกชายของพ่อที่มีชีวิตหรูหราเพราะเข้ากับพวกญี่ปุ่น
ท่ามกลางข่าวลือว่ามีผู้หญิงหลายคนหายตัวไปอย่างต่อเนื่อง เบาะแสทุกอย่างชี้ไปที่โรงพยาบาลองซอง โรงพยาบาลที่ชาวโชซอนเข้ายากเข้าเย็น เพราะเป็นสถานพยาบาลที่ตั้งขึ้นเพื่อคนญี่ปุ่น
รีวิวซีรีส์ ‘สัตว์สยองกยองซอง‘
อีกครั้งที่ซีรีส์เกาหลีขีดเขียนเรื่องราวของความเจ็บช้ำที่ถูกญี่ปุ่นย่ำยี พวกเขารุกรานและยึดเอาบ้านเกิดเมืองนอนของคนโชซอน (หรือเกาหลีในปัจจุบัน) มาเป็นของตน แล้วกดขี่ชาวโชซอนเจ้าของประเทศให้กลายเป็นกลุ่มคนชนชั้นต่ำ หากแต่หนนี้ เขาจินตนาการมันเพิ่มเติมและทำให้กลายเป็นซีรีส์แฟนตาซีแนวสัตว์ประหลาด ที่ใช้บริบทของเหตุการณ์บ้านเมืองในช่วงเวลานั้นมาเล่า
สัตว์สยองกยองซอง มันว่าด้วยอะไรกันบ้างนะ?
เกาหลีในปี 1945 ที่จางแทซัง พระเอกของเราเติบโตมาเป็นชายผู้เอาตัวรอดเป็นเยี่ยม กลายเป็นผู้ร่ำรวยทั้งเงินและคอนเน็กชัน กว้างขวาง มีชื่อเสียง แต่ไม่ประกาศตัวว่าจะเข้าร่วมกับกลุ่มคนชนรักชาติหรือไม่ ขณะที่ยุนแชอ๊ก นางเอกของเรา เธอกับพ่อร่อนเร่ไปทั่วตั้งแต่แมนจูเรียนมาจนถึงกยองซอง ทุกคนเรียกพวกเขาว่านักแกะรอย มีชื่อเสียงในด้านการสืบหาคน อัตราประสบความสำเร็จในการสืบหานั้นก็นับว่าสูงมากถ้ามองว่าสมัยนั้น ไม่ได้มีเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย แต่กระนั้น ส่งที่เธอยังหาไม่พบก็คือแม่ของตัวเอง ที่หายหน้าไปนานถึงสิบปี
ในโชซอนช่วงเวลานี้ มีทั้งตำรวจและทหารที่คอยควบคุม ด้านตำรวจนั้น มีผู้การอิชิกาว่านั่งบัญชาการอยู่ ในด้านชีวิตส่วนตัว แม้เขาจะมีภรรยาแสนสวยอย่าง มาดาม มาเอดะ (Soo Hyun/ซูฮยอน จากซีรีส์ ‘Chimera’ และ ‘Monster’) อยู่แล้วทั้งคน แต่ก็ยังมีเมียน้อยเป็นมยองจา หรือว่า อากิโกะ (Ji Woo/จีอู) ชาวโชซอนที่หายตัวไป อิชิกาว่าจึงยื่นคำขู่ให้กับพระเอกของเราต้องตามสืบหาให้พบก่อนที่ซากุระจะร่วงโรย นั่นแหละที่ทำให้พระเอกต้องติดต่อกับนางเอกให้ช่วยสืบหา และกลายเป็นว่าทั้งคู่ต่างต้องแลกกันสืบหาคนของอีกฝ่าย
source: Netflix
ด้วยเหตุที่ชวนสงสัย คนหายที่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และเบาะแสก็ชี้มารวมที่องซอง โรงพยาบาลของทหารญี่ปุ่น ไม่มีใครภายนอกล่วงรู้ว่า ที่ชั้นใต้ดินของโรงพยาบาลแห่งนี้ก็มีห้องทดลองลับไม่ต่างกับที่เกาะมันวอล พวกเขาขังคนโชซอนไว้มากมาย ส่วนหนึ่งเพื่อทดลองสร้างสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่วิวัฒน์ไปกว่ามนุษย์ อีกส่วนก็เพื่อใช้เป็นอาหารของสิ่งมีชีวิตที่คิดค้นขึ้นมานั่นเอง
ที่นี่ มีผู้พันคาโต้ (Choi Young Joon/ชเวยองจุน จากซีรีส์ ‘Bloodhounds’) นายทหารนักวิทยาศาสตร์ควบคุมดูแลการทดลอง และมีนายแพทย์อิจิโร่ (Hyun Bong Sik/ฮยอนบงซิก จากซีรีส์ ‘Destined with You’) เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลองซอง
ญี่ปุ่นคือตัวร้ายอีกครั้ง ในซีรีส์เกาหลีย้อนยุคสะท้อนประวัติศาสตร์เรื่องนี้
บทของซีรีส์ขีดเขียนไว้ให้ญี่ปุ่นเป็นตัวร้าย ส่วนหนึ่งก็คือ จักรวรรดิญี่ปุ่นรุกรานและยึดครองแผ่นดินบ้านเกิดของชาวโชซอน บรรพบุรุษของคนเกาหลี สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตย่อมสร้างความแค้นเคียงในใจของคนเกาหลี และก็ทำให้เขาสร้างจินตนาการเพิ่มเติมว่า พวกทหารญี่ปุ่นจับเอาคนโชซอนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปทำการทดลองลับเพื่อสร้างสัตว์ประหลาดขึ้น
จางแทซัง เป็นเหมือนหนึ่งตัวแทนของคนโชซอนบางคน ที่ต้องสูญเสียแม่กลายเป็นกำพร้าตั้งแต่เล็ก เติบโตมาอย่างยากลำบาก เอาตัวรอดมาตลอดชีวิต แต่ความชาญฉลาดหัวดี ทำให้เขากลายเป็นคนร่ำรวย มีมิตรสหายมากมาย ทั้งมีเส้นสายวงในที่เป็นคนญี่ปุ่น ทำให้อยู่รอดมาจนทุกวันนี้ แต่ก็กลับมีปัญหากับผู้การอิชิคาว่า ที่ทำให้สถานะของเขาต้องสั่นคลอน และเพราะความที่คิดแต่เรื่องเอาตัวเองให้รอด ทำให้ลืมคิดไปว่า เขาเองก็ควรร่วมมือกับคนอื่นๆ เพื่อช่วยเหลือชาวโชซอนด้วยเช่นกัน
แต่การได้มาร่วมมือกับ ยุนแชอ๊ก พ่อของเธอ และวอนจุนแท็ก ก็ช่วยปลุกสำนึกความรักชาติให้กลับขึ้นมาทำงานอีกครั้ง พร้อมๆ กับความสัมพันธ์กับยุนแชอ๊กที่ค่อยๆ รุดหน้าไปนั่นเอง
source: Netflix
ในซีรีส์เรื่องนี้ เราจะได้เห็นพัคซอจีนในบทจางแทซังในสภาพที่สะบักสะบอมมากขึ้นเรื่อยๆ จนเราเริ่มไม่รู้แล้วว่าเขาทนได้ยังไง แต่ที่แน่ๆ เราจะได้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ในหัวใจของชายผู้ไม่สนใครใส่ใจแต่เรื่องเอาตัวรอดของตนเองคนนี้ ก็มีความรักชาติอัดแน่นอยู่ข้างใน
สิ่งที่มองเห็นใน Gyeongseong Creature
ในแต่ละช่วงเวลา นายแพทมองเห็นว่า จะต้องมีสักตัวละครหนึ่งที่ทำพลาดอะไรสักอย่าง จนทำให้ฝ่ายญี่ปุ่นรู้เห็นและหาทางแก้ไขตอบโต้ได้ ซึ่งก็ไม่ถึงกับขัดใจ เพราะมันก็เป็นเหตุให้เรื่องดำเนินไปอย่างน่าติดตาม
สิ่งที่ซีรีส์เล่ามันคือ การแสดงออกถึงความเกลียดชังในสิ่งที่คนญี่ปุ่นกระทำต่อคนเกาหลีในช่วงเวลานั้น และยกย่องคนเกาหลีที่ร่วมแรงร่วมใจกันปลดแอกตนเอง มีบางบทสนทนาสื่อออกมาอย่างประชดประชัน บอกว่าคนที่คิดว่าตนสมบูรณ์แบบ ก็มักจะหละหลวมจนพลาดกันได้ง่ายๆ บทซีรีส์จึงบอกเล่าถึงความกระหยิ่มใจของพวกญี่ปุ่นที่เปิดช่องให้กลุ่มตัวเอกดำเนินการได้ บางทีก็ตั้งคำถามว่า ฝั่งไหนเป็นสัตว์ประหลาดกว่ากัน มนุษย์ที่กลายร่างเป็นสัตว์ประหลาด หรือพวกญี่ปุ่นที่ทำตัวเยี่ยงมัน และบางทีก็สะกิดใจด้วยคำพูดของฝ่ายเดียวกัน ถ้าพวกเขาคิดเห็นต่าง จะถูกมองว่าไม่ใช่พวกเดียวกันอย่างงั้นเหรอ
ท่ามกลางการถูกกดขี่ มีกลุ่มก้อนที่ต้องการสร้างอิสรภาพให้กับโชซอน แต่บางคนที่ถูกญี่ปุ่นจับได้ว่ากระทำตนเป็นกบฎ ก็ถูกส่งไปกักขังอยู่ในโรงพยาบาลองซองเช่นกัน ฝ่ายญี่ปุ่นเอง แม้จะยึดครองโชซอนได้ แต่ก็มีความขัดแย้งกันเองระหว่างตำรวจและทหาร เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อความสำเร็จของคนโชซอน
source: Netflix
อีกสิ่งที่มองเห็นก็คือ ความไม่เม้กเซ้นส์และชวนตลกนิดๆ เมื่อใดที่เล่าเรื่องของตัวละครหลัก ยามเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดที่แสนจะว่องไวและเกรี้ยดกราด พบว่ามันกลับเชื่องช้าไปถนัดใจ หนวดที่ใช้จ้วงแทงก็พลาดเป้าไปอย่างง่ายดาย ซึ่งผิดกับตัวประกอบอย่างเห็นได้ชัด ส่วนในด้านของซีจีตัวสัตว์ประหลาดก็ถือว่า ทำได้ค่อนข้างโอเค ไม่ถึงกับลอยแต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหวที่เก้ๆ กังๆ อยู่บ้าง
ที่น่าสนใจในการออกแบบสัตว์ประหลาด คือ เมื่อมันสัมผัสกับแก๊สไนโตรเจน มันจะเข้าสู่การจำศึลและปล่อยสปอร์ออกมา และเมื่อมนุษย์สัมผัสเข้ากับสปอร์ จะทำให้ผิวหนังไหม้และเสียชีวิตในที่สุด อีกสิ่งหนึ่งที่ชวนให้สงสัย คือ ช่องระบายอากาศที่ใหญ่จนเดินเข้าไปได้ง่ายๆ ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ในช่วงเวลานั้น รูปแบบการสร้างช่องระบายอากาศมันเป็นแบบนี้จริงๆ หรือเปล่า
Tagline:
Behold, the powers of destiny
Beware, the powers of karma
เมื่อพูดถึงการแสดงของตัวละครหลักแต่ละคน พบว่า ฮันโซฮี ยังคงทำหน้าที่ได้ดีในบทบู๊เช่นเดียวกับในซีรีส์ ‘My Name’ แถมไปๆ มาๆ บทของเธออาจดูเด่นกว่าของ พัคซอจุน เล็กน้อย บทของนายท่านจางดูจะมีพัฒนาการมากหน่อย ขณะที่บทของ วีฮาจุน ถือว่ามีผลต่อเรื่องแต่ยังไม่เด่นมากเท่าไหร่นัก
พาร์ทหนึ่ง 7 ตอนแรก ผ่านไปด้วยเรื่องราวชั่วซากุระจากตูมสู่ร่วงโรย อาจจะไม่เร้าใจไปบ้างในช่วงแรก ก่อนจะเริ่มอุ่นขึ้นในช่วงหลัง ความคาดหวังถูกส่งต่อมาจากพาร์ทหลังที่มีเพียง 3 ตอนเท่านั้น ซึ่งก็พบว่า ไม่ได้เข้มข้นมากเท่าที่ควร คนดูที่ตามมาตั้งแต่ต้น ย่อมต้องอยากรู้ตอนจบจึงยังอึดติดตามไปจนจบ บทซีรีส์ยังคงมีปัญหาเรื่องความเม้กเซนส์เคยที่เป็นมา ดีหน่อยที่มันมีแบบพากย์ไทย ไม่ต้องคอยอ่านซับตลอดเวลา
รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์
| ชื่อซีรีส์ | สัตว์สยองกยองซอง / Gyeongseong Creature / 경성크리처 |
| ผู้กำกับ | Jung Dong Yoon/จองดงยุน (เจ้าของผลงาน ‘Hot Stove League’) |
| ผู้เขียนบท | Kang Eun Kyung/คังอึนคยอง (เจ้าของผลงาน ‘Dr. Romantic’, ‘Dr. Romantic 2’, ‘Dr. Romantic 3’) |
| นักแสดง | Park Seo Jun/พัคซอจุน, Han So Hee/ฮันโซฮี, Soo Hyun/ซูฮยอน, Wi Ha Joon/วีฮาจุน |
| แนว/ประเภท | แอ็คชัน, ดราม่า, ประวัติศาสตร์, สยองขวัญ, ระทึกขวัญ, ลึกลับ |
| จำนวนตอน | ซีซัน 1: 10 ตอน |
| ช่องทางรับชม | Netflix |
| เริ่มออกอากาศ | Part I: 22 ธันวาคม 2023 [7 ตอน]Part II: 5 มกราคม 2024 [3 ตอน] |
| ผู้ผลิต/เจ้าของลิขสิทธิ์ | Kakao Entertainment, Story & Pictures Media, Studio Dragon, Netflix |
คะแนนรีวิวซีรีส์ สัตว์สยองกยองซอง
พล็อตและบท - 7.2
การดำเนินเรื่อง - 6.6
การแสดง - 7.5
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.5
งานภาพและโปรดักชั่น - 7.7
7.3
Gyeongseong Creature
ซีรีส์เกาหลีที่ผสมหลากหลายแนวเข้าด้วยกัน ส่วนหนึ่งมันหยิบเอาประวัติศาสตร์ชาติเกาหลีในยุคที่ญี่ปุ่นเข้ามายึดครอง แต่สร้างเรื่องเพิ่มเติมให้ญี่ปุ่นแอบทดลองสร้างสัตว์ประหลาดในชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล โดยมีมนุษย์ทดลองเป็นชาวโชซอนที่อยู่ในเมืองกยองซอง มันจึงมีฟีลความลึกลับ ระทึกและสยองขวัญ แต่มันก็มีความดราม่าและโรแมนติกปะปนอยู่ด้วย ในแง่มุมประวัติศาสตร์นั้นถือว่าหยิบมาขีดเขียนใหม่ได้มีมุมมอง แต่อาจเล่าเรื่องราวเชื่องช้าอยู่บ้าง ซีจีก็ค่อนข้างโอเค แม้เรื่องจะยังขาดๆ เกินๆ ในด้านความเม้กเซ้นส์อยู่ ฮันโฮซีได้บทบู๊เท่อีกครั้ง ขณะที่พัคซอจุนได้บทที่มีพัฒนาการ
