รีวิวหนัง A Man Called Otto | อ๊อตโต้ มนุษย์ลุงผู้ไม่ยอมมูฟออน

ผมคงเป็นคนหนึ่งที่เมื่อไหร่เห็นหนังทอม แฮงค์ส เข้าฉาย จะรีบขวนขวายไปดู ส่วนหนึ่งเพราะความเชื่อมั่นในฝีมือการแสดงที่สั่งสมมานานหลายสิบปีและไม่เคยมีตก ปีที่แล้วมีหนังของชายคนนี้ให้ดูกันสองเรื่อง ส่วนเรื่องนี้‘A Man Called Otto’ ชื่อไทย ‘มนุษย์ลุง…ชื่ออ๊อตโต้’ น่าจะเป็นเรื่องแรกของปี 2023 ยังไงต้องขอลองดูสักที!

มันเป็นหนังที่สร้างมาจากหนังสือดังขายดีทั่วโลกที่ชื่อ ‘En man som heter Ove’ ผลงานการเขียนของ Fredrik Backman และ Hannes Holm เคยทำเป็นหนังสวีเดนมาแล้วในปี 2015 โดยมี Hannes Holm เป็นผู้กำกับ คราวนี้ มันถูกนำมาสร้างเป็นหนังอีกครั้งโดยผู้กำกับเลื่องชื่อ Marc Forster ผู้ที่เคยมีผลงานเด่นๆ อย่าง ‘Monster’s Ball’, ‘The Kite Runner’ และ ‘World War Z’

แล้วแบบนี้จะไม่ให้รู้สึกว่าต้องดูได้ยังไงล่ะเนอะ!

เรื่องย่อหนัง ‘A Man Called Otto’

ในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง มีชายสูงวัย นามว่า อ๊อตโต้ (Tom Hanks จากหนังเรื่อง ‘Pinocchio’, ‘Elvis’ และ ‘Finch’) ที่คนแถวนั้นล้วนรู้จักดี ขึ้นชื่อในเรื่องความเป๊ะ ไม่ประนีประนอม เจ้าระเบียบ หน้าตาบูดบึ้งตลอดเวลา จนหลายคนมองว่าเป็นมนุษย์ลุง ใครทำอะไรผิดไปจากกฎเกณฑ์ เป็นต้องโดนแกเฉ่งทุกรายไป

แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้ก็คือ ลุงมีความหลังฝังใจกับภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วอย่าง ซอนย่า (Rachel Keller จากซีรีส์เรื่อง ‘Tokyo Vice’ และ ‘Fargo’)

ที่จริงแล้ว แกมีเพื่อนบ้านที่ดีมากมาย แต่การที่ลุงแกมีเพื่อนบ้านที่เพิ่งย้ายมาใหม่อย่าง มาริซอล (Mariana Treviño จากซีรีส์เรื่อง ‘Club de Cuervos’) ผู้หญิงต่างถิ่นที่คอยเซ้าซี้ให้ลุงช่วยนั่นช่วยนี่อยู่เป็นประจำ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากำลังพามนุษย์ลุงคนหนึ่งให้เกิดความเปลี่ยนแปลง

รีวิวหนัง ‘มนุษย์ลุง…ชื่ออ๊อตโต้’

เป็นเพราะผมไม่เคยอ่านหนังสือเล่มนี้ และไม่เคยดูหนังสวีเดนเรื่องนั้น จึงไม่อาจจะเปรียบเทียบอะไรได้นอกจากเขียนถึงเฉพาะหนังเวอร์ชันนี้ หนังที่พาเราไปทำความรู้จักกับลุงคนหนึ่งที่มีความเป๊ะไปทุกกระเบียดนิ้ว อะไรไม่ใช่ ไม่ตรงกับกฎระเบียบ แกจะตรงเข้าไปเฉ่งทันที ก็คิดดูสิ แม้กับแมว ลุงก็ยังไม่เว้น ช่วงแรกของหนังอาจจะทำให้เรารู้สึกรำคาญใจในความเจ้าระเบียบของมนุษย์ลุงคนนี้อยู่บ้าง แต่ภายใต้ท่าทีเช่นนั้นก็แฝงความตลกน่ารักอยู่ในทีเหมือนกันนะ

ความที่ลุงแกเพิ่งจะเกษียณตัวเองจากการทำงาน ทำให้ชีวิตลุงเดินมาสู่ความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง เลยเห็นแต่ภาพของลุงขี้บ่น ขี้หงุดหงิด จับผิดและด่ากราดชาวบ้านไปทั่ว เอาเข้าจริง เราก็จะเห็นว่า มีน้ำใจอันล้นเหลือแฝงอยู่ในท่าทีเหล่านั้น หลายครั้งหลายหน ที่ลุงเลือกจะช่วยเหลือชาวบ้านโดยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน แถมยังทำได้ดีเสียด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้เกิดมิตรภาพติดตามมา

ไม่นานนัก หนังก็เริ่มจะทำให้เราเห็นว่า แท้จริงแล้ว ลุงเองก็มีปมในใจที่ไขไม่ออกอยู่เหมือนกัน เขาคือชายแก่ผู้กำลังมีชีวิตที่โดดเดี่ยวหลังสูญเสียภรรยาสุดที่รัก บ้านหลังเดิมที่ไม่มีคนข้างๆ อีกแล้ว มันคงน่าเศร้าไม่น้อย และลุงไม่อาจมูฟออนไปจากสิ่งเหล่านี้ได้ ทุกอย่างที่เป็นของ ซอนย่า ยังคงวางอยู่ให้คิดถึงได้ทุกวินาที ทำให้เราต้องทนเห็นพฤติกรรมบางอย่างที่ชวนปวดหัวใจ

มันเหมือนคนที่หมดแพชชันจะใช้ชีวิตบนโลกนี้แล้วล่ะ แต่ทุกครั้งก็จะมีอะไรที่ขัดขวางให้แกต้องออกมาช่วยเหลือเพื่อนบ้านอยู่ตลอดๆ ‘มนุษย์ลุง…ชื่ออ๊อดโต้’ จึงเป็นหนังที่ให้อารมณ์แบบแปลกๆ ทั้งเศร้าทั้งตลก ทั้งเหงาและอบอุ่นในเวลาเดียวกัน และจะเรียกเป็นหนังฟีลกู้ดก็ว่าได้ เพราะคนในหมู่บ้านนี้มีแต่คนดีๆ ที่พร้อมจะดูแลกันและกัน

หนังพาเราไปรู้จักกับ มาริซอล หญิงที่ย้ายมาใหม่พร้อมครอบครัว หรือจะเป็นจิมมี่ (Cameron Britton) ชายผู้ที่ชอบเดินเหมือนนักแสดงละครใบ้ หรือจะเป็น มัลคอล์ม (Mack Bayda) หนุ่ม LGBT ที่ได้รับความรักความเข้าใจจากซอนย่า ไหนจะเป็น อนิต้ากับรูเบนที่เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ ทั้งหมดล้วนทำให้เราคนดูได้เรียนรู้เข้าใจชีวิต

เรื่องราวของมนุษย์ลุงอย่างอ๊อตโต้ เป็นเรื่องเหงาๆ ถูกบอกเล่าในโทนอบอุ่น มองโลกในแง่ดี (หรือใครจะมองว่าโลกสวยก็ได้) อีกทั้งมองอย่างเข้าใจชีวิต ภายในเรื่องเดียวอาจทำให้นายแพทได้ทั้งยิ้ม หัวเราะ น้ำตาซึม สลับกันไปมา หนังบอกกับเราว่า เราควรตระหนักเอาใจใส่ในคนรอบข้างบ้าง ภายใต้บุคลิกที่น่ารำคาญของใครบางคนนั้น อาจมีความเศร้าซึมแฝงอยู่ข้างใน ทั้งยังบอกกับทุกคนด้วยว่า คุณไม่ได้อยู่เพียงตัวคนเดียว ยังมีคนมากมายที่พร้อมจะเข้าใจ บางสิ่งไม่ต้องทำเองคนเดียวก็ได้ อย่าเพิ่งไปปิดตัวเองขนาดนั้น

ใดๆ ในหนังเรื่องนี้ นอกจาก ทอม แฮงค์ส จะเล่นดีมากแล้ว การมีเจ้าเหมียวอยู่ในหนัง ก็ทำให้ชอบหนังเรื่องนี้เอามากๆ เช่นกัน

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง