รีวิวหนัง Bridge of Spies บริดจ์ ออฟ สปายส์ | ทนาย เจรจา สงครามเย็น

จะว่าไป ผู้ชายสองคนนี้ก็ดูเหมือนจะมีสัมพันธ์ที่แนบแน่นมายาวนานมากแล้ว เพราะการพบเจอกันในฐานะผู้กำกับและนักแสดงนำระหว่าง Steven Spielberg และ Tom Hanks สร้างสรรค์ผลงานลือลั่นอย่าง ‘Saving Private Ryan’ (1998), ‘Catch Me If You Can’ (2002), ‘The Terminal’ (2004) ทำให้หลายคนจับตามองการกลับมาของพ่อมดแห่งฮอลลีวูดและนักแสดงมากฝีมือเจ้าของ 2 ออสการ์เป็นอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นหนังที่สร้างจากเรื่องจริงของทนายความผู้ตกอยู่ท่ามกลางสงครามเย็นใน ‘Bridge of Spies (บริดจ์ ออฟ สปายส์)’ หรือในชื่อไทยว่า ‘จารชนเจรจาทมิฬ’ ที่ทอม แฮงค์ส รับบทนำและแบกอุ้มไว้เกือบจะทั้งเรื่อง ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการกลับมาของสปิลเบิร์ก…

ที่ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ครับ

เรื่องย่อหนัง ‘Bridge of Spies’

เมื่อ เจมส์ บี. โดโนแวน (Tom Hanks) ทนายประกันคนหนึ่งที่ทำมาหากินด้านการว่าความและเป็นหุ้นในกิจการ กลับได้รับการทาบทามให้มาแก้ต่างแทน รูดอล์ฟ เอเบิล (Mark Rylance) สายลับโซเวียตที่เข้ามาสอดแนมในแดนมะกัน มันคือภารกิจที่ไม่มีใครอยากทำ และมีเพียงเขาเท่านั้นที่เลือกรับงานเช่นนี้ แม้จะต้องแลกมาด้วยความผาสุกของครอบครัวตัวเองก็ตาม เหตุผลอาจจะไม่ได้เพื่อชาติ เพราะเขาเชื่อว่ามนุษย์ทุกผู้ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะอยู่ในชาติใดก็ตาม

เขาเลือกว่าความแก้ต่างให้กับชายคนที่อเมริกันต่างเกลียดกันทั้งประเทศ

ความสามารถในด้านเจรจาของเขาก็ไม่เบา เขาเป่าจนผู้พิพากษายอมไว้ชีวิตเชลยสายลับคนนั้นได้ แต่ก็ไม่พ้นเรื่องยุ่งยาก เมื่อเขาต้องเดินทางไปเบอร์ลินเพื่อเจรจาแลกตัวเพื่อนำนักบินอเมริกันที่โซเวียตจับตัวไป ด้วยการเดินทางตัวคนเดียวในฐานะคนธรรมดาที่รัฐบาลมิได้รับรอง แต่ต้องทำทุกอย่างให้สำเร็จ

เพื่อเขาจะได้กลับบ้านไปหาลูกเมีย

หลังจาก ‘Lincoln’ ในปี 2012 สามปีถัดมา สปิลเบิร์กก็หวนคืนสู่บัลลังก์ นำพาเรื่องราวจากเหตุการณ์จริง (ที่ก็ไม่รู้ว่าต่อเติมไปตรงไหนบ้างหรือเปล่านะ) มาสู่จอเงินอีกครั้ง หนังดราม่าเชิงชีวประวัติดูจะเป็นงานถนัดของพ่อมดแห่งฮอลลีวูดคนนี้

รีวิวหนัง ‘จารชนเจรจาทมิฬ’

ในหนังเรื่องนี้ ดูเหมือนจะถูกเขียนบทมาเพื่อพูดถึงหลายปมที่ขมวดรวมเข้าไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน หนึ่งในนั้นคือ เรื่องของความหมายของชาติ อีกหนึ่งคือควาเท่าเทียมกันในด้านความเป็นมนุษย์ อีกหนึ่งนั้น คือความสามารถในด้านการเจรจาที่โคตรมหาเทพ อีกหนึ่งเล่า คือ การเสียสละเพื่ออุดมการณ์และความเชื่อที่ขัดแย้งกับชาติ/องค์กรธุรกิจ/ครอบครัว

มนุษย์ ไม่ว่าจะชาติไหน ต่างก็มีสิทธิที่จะแก้ต่างได้เหมือนกัน

ทนายโดโนแวนใน ‘จารชนเจรจาทมิฬ’ มักจะตอกย้ำกับเราเสมอว่า เราทุกคนต่างมีชาติเป็นของตัวเอง แต่ไม่ใช่ชาติตนเองเลือกเกิดมา เราอาจมีเชื้อสายหนึ่งแต่เราเกิดหรืออาศัยอยู่ในอีกชาติหนึ่ง ความเป็นชาติเกิดจากอะไร มันก็แค่เปลือกนอกที่มนุษย์สร้างกันขึ้นมาเพื่อห่อหุ้มตัวเอง เป็นเครื่องมือในการแบ่งแยกเขาเราที่ชัดเจนที่สุด เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ชาวอเมริกันรู้สึกเกลียดสายลับโซเวียต และไม่ยอมรับในทนายผู้ว่าความให้สายลับโซเวียต ทั้งๆ ที่สายลับโซเวีตก็ไม่ใช่คนโซเวียตแต่เกิดในเยอรมัน

โดโนแวนพยายามนำเสนอให้เราเห็นแง่มุมของสิทธิความเป็นมนุษย์ที่ควรจะเท่าเทียมไม่ว่าเขาจะเกิดมาภายใต้ ‘ชาติ’ ไหนก็ตาม ถ้าเราเองยังรักชาติทำเพื่อชาติได้ แล้วคนอย่างเอเบิลที่ทำเพื่อชาติของตัวเองจะผิดแผกอะไรจากเรา

สงครามไม่ว่าร้อนหรือเย็น ก็ไม่เห็นจะแตกต่าง

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม แต่มักแบ่งแยกสังคมเป็นของใครของมัน สุดท้ายเราก็เอาเหตุผลของการอยู่คนละสังคมมาใช้รบราห้ำหั่นกัน ไม่ว่าเราจะรบพุ่งกันด้วยหอกเหล็ก ปืนผาหน้าไม้ เครื่องบินรบ หรือบนโต๊ะหมากรุกก็ตาม มันไม่มีอะไรมากไปกว่าเรากำลังจะบอกว่า “ชาติเราดีที่สุด” และ “ชาติอื่นเป็นคนไม่ดี” ทั้งๆ ที่เพียงแค่ละลายความเป็น ‘ชาติ’

ก็เหลือเพียงแค่ว่าเราก็คือ ‘คน’ เหมือนกัน แค่นั้นเอง

ดราม่าชีวประวัติที่ไม่เครียดเกินไป

แน่นอนว่านี่คือหนังที่ว่าด้วยการเจรจา มีตัวละครหลักเป็นทนาย ทำให้บทสนทนาย่อมจะเยอะ จำเป็นยิ่งที่ต้องมีสมาธิในการอ่านซับไตเติลหรือฟังเสียงพากย์นิดหน่อย

แต่ก็ยังถือว่า ‘จารชนเจรจาทมิฬ’ เป็นหนังดราม่าชีวประวัติที่ไม่เคร่งเครียดเกินไปนัก เพราะมีอารมณ์แทรกซึมเข้ามานิดหน่อย เดินเรื่องได้ไหลลื่นเข้าใจง่าย ใช้วิธีการเดินหลายแบบบนปมเรื่องที่พูดถึงหลายสิ่งแต่ไม่สลับซับซ้อนจนยากเกินเข้าใจ หนังจบลงอย่างน่าประทับใจ หลายคนที่ได้มาดูพร้อมกันบอกเหมือนกันๆ ว่า

มันมีฉากหนึ่งที่ซึ้งน้ำตาไหลเหมือนๆ กัน

ชื่อภาพยนตร์: Bridge of Spies / จารชนเจรจาทมิฬ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Steven Spielberg
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Matt Charman, Ethan Coen, Joel Coen
นักแสดงนำ: Tom Hanks, Mark Rylance, Amy Ryan, Alan Alda
ความยาว: 135 นาที
แนว/ประเภท: Biography, Drama, History, Thriller
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/ท, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 22 ตุลาคม 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Fox 2000 Pictures, Amblin Entertainment, DreamWorks SKG