รีวิวหนัง Black Panther แบล็ค แพนเธอร์ | ซูเปอร์ฮีโร่ แอฟริกัน วากานด้า

กลายเป็นภาพยนตร์ที่ใครๆ ก็ต้องไปดู เมื่อ ‘Black Panther’ หรือ ‘แบล็ค แพนเธอร์’ เข้าฉายในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนหน้ามหาสงครามอัญมณี ‘Avengers: Infinity War’ จะเดินทางมาถึง เรื่องราวขององค์ชายแห่งวากันด้ากับที่มาก่อนเข้ามาอยู่ในทีมอะเวนเจอร์ส

เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่มีหนังภาคแยกที่เล่าเรื่องของตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ที่เป็นคนผิวดำ มีภูมิลำเนาอยู่ในแอฟริกา นี่คือพื้นที่ที่เปิดให้อย่างจริงๆ จังๆ สำหรับพวกเขาที่จะได้พูดอะไรที่เสียดแทงจิตใจคนบางคนได้บ้าง

ก่อเกิดเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่พล็อตไม่เหมือนเรื่องไหน…

เรื่องย่อหนัง ‘Black Panther’

หนังพาเราไปรู้จักกับซูเปอร์ฮีโร่ผิวดำนาม แบล็ค แพนเธอร์ พาไปทำความรู้จักกับประเทศยากจนที่ไม่มีใครคิดมาก่อนว่า จะซุกซ่อนเทคโนโลยีล้ำยุคอยู่ใจกลาง ไวเบรเนียมที่มีอยู่ที่เดียวบนโลก ทำให้ชาววากันด้าครอบครองความไฮเทคไว้แต่เพียงผู้เดียว และปกป้องสุดขีดที่จะไม่ถูกค้นพบและรุกล้ำ

หากแต่เป็นคนในเสียเองที่จะทำให้อาณาจักรนี้ระส่ำระสาย

องค์ชายรัชทายาทอย่างทีชัลลา (Chadwick Boseman) ที่ได้รับตำแหน่งราชาพระองค์ใหม่ เขาต้องเลือกว่าจะดำรงตนเป็นราชาแบบไหนในโลกยุคที่อะไรๆ ก็แคบลงทุกทีเช่นนี้

เรื่องราวที่อยู่ท่ามกลางการแย่งชิงบัลลังก์ ต้องห้ำหั่นกับ เอริค คิลมองเกอร์ (Michael B. Jordan) ทั้งยังต้องพบกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ กับนาเคีย (Lupita Nyong’o) ร่วมด้วยตัวละครที่รายล้อมมากมายในดินแดนที่โลกไม่เคยรู้ว่ามี

รีวิวหนัง ‘แบล็ค แพนเธอร์’

ด้วยความที่นี่เป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแอฟริกา มันมีจุดที่สามารถหยิบมาพูดให้มีนัยยะ มีความหนักแน่นโดดเด่นแตกต่างจากตัวละครอื่นๆ มันก็ต้องพูดถึงสักหน่อย โดยเฉพาะการเสียดสีจิกกัดชนผิวขาวที่เคยทะนงตนและกดขี่คนอย่างพวกเขา

จนทำให้เนื้อหาของหนังภาคกำเนิดฮีโร่เรื่องนี้ดูแปลกไปกว่าเรื่องอื่นๆ

ทีชัลลา บุตรแห่งทีชักกา (John Kani) เขามีโอกาสจะได้ขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทนที่บิดาที่เสียชีวิตไป ก่อนจะขึ้นเป็นคิงเขาต้องชนะการประลอง เขาต้องควบคุมเผ่าย่อยให้อยู่เพื่อปกครอง และต้องแบกความคาดหวังที่จะเป็นกษัตริย์ที่ดีกว่าบิดา การเป็นราชาหาใช่เรื่องง่าย

แต่ก็เป็นตำแหน่งที่พร้อมจะถูกมองว่านั่งอยู่บนที่สูง เสวยสุข ได้อยู่เสมอ

นอกจากนี้ ตำแหน่งนี้มักได้มาพร้อมอำนาจ ขณะที่ใน ‘แบล็ค แพนเธอร์’ นอกจากอำนาจ ยังมีเรื่องของพละกำลัง เพราะผู้เป็นกษัตริย์จะมีสิทธิได้ดื่มดอกไม้ที่ทำให้กลายเป็น ‘แบล็ค แพนเธอร์’ มีพลังต่อสู้ทำลายและป้องกันด้วยชุดสูทประสิทธิภาพสูง

เรื่องที่ดูหนักแน่นขึ้น เมื่อเกิดการแย่งชิงบัลลังก์ระหว่างเครือญาติ เรื่องราวที่เกี่ยวพันไปถึงการเหยียดชนชาติ มองดูคนผิวดำชาวแอฟริกันเป็นพวกต้อยต่ำ และจิกกัดเอาคืนคนขาวต่างๆ นานาๆ แสบๆ คันๆ กันน่าดูทีเดียว

สิ่งที่โดดเด่นของ ‘แบล็ค แพนเธอร์’ คือ การออกแบบนครหลวงของวาคานด้าในลักษณะที่เป็นนครล้ำเทคโนโลยีที่มีความเป็นคนผิวดำ ใส่ความไฮเทคให้กับกลุ่มชนชาติที่ถูกมองว่าค่อนข้างล้าหลัง เป็นภาพลักษณ์ที่ดูแปลกตา ผสานเข้ากับเสียงดนตรีประกอบที่ใส่ความแอฟริกันเข้าไป มีความกรุ๊งกริ๊ง และมีเสียงร้องในสไตล์ชนพื้นเมือง นี่คือสิ่งที่หนังมาร์เวลเรื่องอื่นไม่มีนอกเหนือไปจากพล็อตที่เกี่ยวกับชนชาติและผิวสี รวมทั้งจิกกัดทั้งซีไอเอ วิถีคิดและการเมืองอเมริกา

นั่นทำให้พล็อตหนังดูไม่เหมือนใคร แต่ก็ใช่ว่าจะกลมกล่อมกลมกลืนไปซะทีเดียว

อาจพบได้ว่า บางตัวละครที่สร้างขึ้นมาเพื่อขัดแย้งกับพระเอกดูไม่ค่อยมีความลึกเท่าที่ควร อาจด้วยเพราะต้องการเล่าที่มาและต้นกำเนิดเพื่อให้คนรู้จักกับซูเปอร์ฮีโร่ตัวนี้ให้มากที่สุดก็เป็นได้ อีกทั้งการเล่าเรื่องในช่วงครึ่งแรกที่เน้นเรื่องราวอาจจะทำให้หนังดูไม่สนุกอย่างที่หลายคนคาดหวัง แต่ถ้าเรื่องของเนื้อหา ถือว่าจัดได้เต็มอยู่

ความสนุกของฉากแอคชั่นคงคาดหวังได้ที่ช่วงท้าย ถือว่า สนุกลุ้นทำได้เป็นอย่างดี ใครที่อาจจะสลึมสลือไปบ้างก็คงจะได้ตื่นตากันมากมายเลยแหละสำหรับช่วงนี้ ก่อนที่หนังจะจบลงพร้อมกับเครดิตปิดท้าย

ซึ่งก็เหมือนเดิม ตามธรรมเนียมของหนังซูเปอร์ฮีโร่ตระกูลมาร์เวล ก็ย่อมต้องมีฉากแถม ซึ่งพบว่าจะมีอยู่สองฉากด้วยกัน ฉากแรกจะปรากฏอยู่ต่อจากเครดิตสวยๆ ที่ต้องดูผ่านแว่น 3 มิติ เพราะค่อนข้างสวยมาก และอีกฉากที่จะปรากฏตัวละครสำคัญเพื่อพาเข้าสู่ภาคถัดไปของจักรวาลแห่งนี้

สงครามอัญมณีไงล่ะครับท่าน!

ชื่อภาพยนตร์: Black Panther / แบล็ค แพนเธอร์
ผู้กำกับภาพยนตร์: Ryan Coogler
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Ryan Coogler, Joe Robert Cole
นักแสดงนำ: Chadwick Boseman, Michael B. Jordan, Lupita Nyong’o, Danai Gurira, Andy Serkis, Forest Whitaker, Martin Freeman, Daniel Kaluuya, Letitia Wright
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
ความยาว: 134 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Sci-Fi
อัตราส่วนภาพ: 2.39 : 1
ปี: 2018
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 14 กุมภาพันธ์ 2561
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Marvel Studios, Walt Disney Pictures