วันนี้ได้เจอหนังอบอุ่นที่ทำให้เรารู้สึกดีกับชีวิตมาเรื่องหนึ่งครับ และหนังเรื่องนั้นเป็นหนังญี่ปุ่น ชื่อ ‘Every Day a Good Day’ หรือในชื่อไทย ‘หัวใจ ใบชา ความรัก’
ในวันดีๆ ก็ย่อมมีวันร้าย ในช่วงชีวิตหนึ่งเราย่อมได้เจอวันดีๆ มากมาย แต่แน่นอนว่าวันร้ายก็คอยจะแวะเวียนเข้ามา อยู่นานบ้างไม่นานบ้าง แต่เราก็จำเป็นต้องก้าวเดินต่อและเฝ้ารอว่าเมื่อไรวันร้ายๆ จะหนีหายไปเสียที
หนังเรื่องนี้จะให้มุมมองดีๆ เกี่ยวกับแต่ละวันของเราครับ
เรื่องย่อหนัง ‘Everyday a Good Day’
โนริโกะ (Haru Kuroki) เป็นนักศึกษาสาวปี 3 ผู้ยังไม่รู้เลยว่าเธออยากจะทำอะไร อยากเป็นอะไร แต่วันหนึ่ง เธอและลูกพี่ลูกน้องของเธอ มิจิโกะ (Mikako Tabe) ก็ตัดสินใจเข้าร่วมเรียนชงชาในแถวละแวกบ้านตามคำแนะนำของผู้เป็นแม่ โดยเธอไม่ทันรู้มาก่อนเลยว่า
มันจะเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตของเธอเอง
ในบ้านหลังนั้นที่มีเพียงอาจารย์คนเดียว โนริโกะได้เรียนรู้พิธีชงชากับทาเคดะเซนเซ (Kirin Kiki) หญิงชราผู้พร่ำสอนให้เธอไม่เพียงรู้เรื่องการชงชา หากยังได้ทำให้การชงชากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต และทำให้เธอได้มองเห็นและเข้าใจชีวิตได้มากมาย
“การชงชา” ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอ ไม่ว่าจะในยามทุกข์ หรือสุข นี่คือเรื่องราวการค้นหาความหมายของหัวใจ ผ่านกลิ่นหอมและไออุ่นจากชา
รีวิวหนัง ‘หัวใจ ใบชา ความรัก’
ภาพยนตร์เรื่องนี้ สร้างโดยอ้างอิงจากงานเขียนของ โมริชิตะ โนริโกะ เรื่อง Everyday is a good day: 15 happiness taught by ‘Tea’ ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 2002 โดยสำนักพิมพ์ Asukashinsha
การเดินทางของชีวิตของโนริโกะเริ่มต้นขึ้นในวันที่เธอมองไม่เห็นว่าตัวเองกำลังจะเดินไปทางใด ไร้เส้นทางที่มองเห็นได้ชัดเจนในขณะที่บางคนกลับเห็นแล้ว ใกล้ตัวสุดคือลูกพี่ลูกน้องของเธอเอง มิจิโกะ ดูจะรู้แล้วว่าตัวเองชอบอะไรและจะหันเหชีวิตไปทางไหน แต่ทั้งคู่ก็ลองไปเรียนรู้เรื่องการชงชาด้วยกัน
การเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ ยอมกลายเป็นสิ่งยากไปในทันที แต่ตามประสาของวัยรุ่นจึงมักมีคำถามต่อสิ่งที่พวกเขาไม่เข้าใจ ทว่า ทาเคดะเซนเซ กลับให้คำตอบได้ทุกคำถาม คำถามเหล่านั้นอาจจะผุดขึ้นในใจของผู้ชม ณ ขณะนั้น แต่คำตอบที่ได้กลับกลายเป็นหนึ่งแรงกระตุ้นที่ทำให้เราคิดในอีกแบบที่ต่างออกไป
ผ่านเรื่องราวและภาพของวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากที่เราคุ้นเคย
โนริโกะ อาจจะเป็นภาพตัวอย่างของคนที่คุณเป็นอยู่
ตั้งคำถามถึงอะไรต่อมิอะไรที่คุณพบเจอทั้งที่คำตอบมันอาจเรียบง่าย อาจพบว่า เส้นทางของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน อาจพบว่าชีวิตของคนอื่นอาจเป็นแรงผลักให้เราออกไปหาอีกสิ่งได้ การใช้สมองอาจจะไม่พบคำตอบ แต่การใช้หัวใจอาจทำให้พบก็ได้ วันหนึ่ง เราอาจดูหนังเรื่องหนึ่งแล้วไม่เข้าใจ อีกวันหนึ่งของชีวิตเราอาจเสียน้ำตาให้กับหนังเพราะเราผ่านมาสิ่งมามากพอแล้วก็เป็นได้
มิใช่เพียงการพาเราไปรู้จักกับวัฒนธรรมการชงชาที่แสนเรียบแต่ละเอียดละออ หากยังพาเราสำรวจตัวเอง สำรวจชีวิต และสำรวจความคิดของเราเองอีกด้วย บางสิ่งที่ผ่านเข้ามาอาจมีเพียงครั้งเดียวในชีวิต เราจึงควรคิดจะทำมันให้ดีที่สุดหรือไม่ บางสิ่งที่ดูน่าขบขัน หากมองอีกมุมมันคือสิ่งที่พิเศษใช่หรือไม่
มองเห็นได้ค่อนข้างชัดว่าหนังเรื่องนี้มาในแนวทางของหนังดราม่า ทั้งยังเล่าเรื่องการชงชา เรื่องราวของการใช้ชีวิต มันจึงอาจมิใช่หนังที่ง่ายต่อการที่จะขายให้คนทั่วไปเข้ามาชมได้ มันเป็นที่คนนิยมชมชอบในหนังญี่ปุ่น สนใจในวิถีของการใช้ชีวิต/การคิดแบบคนญี่ปุ่น คนที่แสวงหาหนังที่ไม่ตลาดแต่ให้อะไรกับชีวิต ซึ่งคนแบบนี้อาจจะมิได้มีอยู่มากนักในประเทศไทย
แต่กระนั้น หากจะมีใครสักคนที่หลงเข้ามาอ่านบล็อกแล้วเลือกไปดูหนังญี่ปุ่นที่มีเนื้อหาดีๆ โทนหนังอบอุ่นๆ มีเป็นหนังเรื่องท้ายของคุณยายกิกิ ไปเรียนรู้วิถีชีวิต และไปเก็บเกี่ยวแง่มุมความคิดดีดีที่อาจนำใช้กับตัวเองได้
หนังเรื่องนี้คือ “ใช่” ในสิ่งที่คุณใฝ่หา
ชื่อภาพยนตร์: Every Day a Good Day / หัวใจ ใบชา ความรัก / Nichinichi Kore Kôjitsu
ผู้กำกับภาพยนตร์: Tatsushi Ohmori
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Noriko Morishita /โมริชิตะ โนริโกะ (essay), Tatsushi Ohmori (screenplay)
โปรดิวเซอร์/ผู้อำนวยการผลิต: โทโมมิ โยชิมุระ
นักแสดง: คุโรกิ ฮารุ/Haru Kuroki, ทาเบะ มิคาโกะ/Mikako Tabe, กิกิ คิริน/Kirin Kiki
แนว/ประเภท: Drama
เรท: ไทย/ท , USA/
ความยาว: 100 นาที
อัตราส่วนภาพ: 1.85 : 1
ประเทศ: ญี่ปุ่น
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Yoake Pictures
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 11 กรกฎาคม 2562
หัวใจ ใบชา ความรัก
หัวใจ ใบชา ความรัก - 8.5
8.5
Every Day a Good Day
มองเห็นได้ค่อนข้างชัดว่าหนังเรื่องนี้มาในแนวทางของหนังดราม่า ทั้งยังเล่าเรื่องการชงชา เรื่องราวของการใช้ชีวิต มันจึงอาจมิใช่หนังที่ง่ายต่อการที่จะขายให้คนทั่วไปเข้ามาชมได้ มันเป็นที่คนนิยมชมชอบในหนังญี่ปุ่น สนใจในวิถีของการใช้ชีวิต/การคิดแบบคนญี่ปุ่น คนที่แสวงหาหนังที่ไม่ตลาดแต่ให้อะไรกับชีวิต ซึ่งคนแบบนี้อาจจะมิได้มีอยู่มากนักในประเทศไทย