เข้าใกล้วาเลนไทน์มาทุกที ดูเหมือนหนังที่ว่าด้วยความรักในปีนี้จะไม่ค่อยเข้าฉายในโรงบ้านเราสักเท่าไหร่ แต่ก็เริ่มต้นเทศกาลกันแล้ว ด้วยหนังจากญี่ปุ่นเรื่องนี้ ผลงานหนังรักกระแสแรงแห่งปี เข้าชิง 9 รางวัล Japan Academy Film Prize ครั้งที่ 46 ที่มีชื่อว่า ‘Phases of the Moon’ กับชื่อไทยหวานๆ อย่าง ‘เกิดกี่ครั้งก็ยังเป็นเธอ’
เรื่องราวของความรัก ความสัมพันธ์ ครอบครัว และการเวียนว่ายตายเกิด ที่ถูกหยิบยกมาร้อยเรียงเข้าด้วยกัน ผลงานจากผู้กำกับ Ryuichi Hiroki ชื่อที่คนไทยไม่คุ้นหู แต่ก็ได้ทีมนักแสดงที่พอจะคุ้นหน้านักดูหนังฝั่งญี่ปุ่นบางคนอยู่บ้าง เอาล่ะ เรามาเริ่มทำความรู้จักหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้ไปด้วยกัน
เรื่องย่อหนัง ‘เกิดกี่ครั้งก็ยังเป็นเธอ’
เรื่องราว เคอิ โอซาไน (Yo Oizumi) ที่ใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขกับครอบครัวเล็กๆ ที่มีภรรยาอย่างโคซุเอะ (Ko Shibasaki จากหนังเรื่อง ‘Battle Royale’ และ ’47 Ronin’) และลูกสาวที่ชื่อรุริ แต่ทุกอย่างสูญสลายไปในพริบตาเมื่อเขาต้องสูญเสียทั้งภรรยาและลูกสาวไปในอุบัติเหตุ
แต่อยู่มาวันหนึ่ง ชายหนุ่มที่ชื่อ อากิฮิโกะ มิสุมิ (เมกุโระ เร็น/Ren Meguro จากซีรีส์เรื่อง ‘My Love Mix-Up!’) ก็มาหาแล้วบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างที่ชวนประหลาดใจยิ่ง เขาบอกว่าตนได้พบกับหญิงสาวที่รุริ (อาริมุระ คาสุมิ/Kasumi Arimura จากหนังเรื่อง ‘Erased’ และ ‘When Marnie Was There’) คนที่กลายมาเป็นรักแท้ของเขา แต่เธอจากไปโดยมิได้ร่ำลา และเธอก็ได้มาเกิดใหม่เป็นลูกสาวที่ชื่อรุริของเคอินั่นเอง
รีวิวหนัง ‘Phases of the Moon’
เรื่องราวความรักของ รุริซัง กับ อากิฮิโกะ ดูเป็นภาพฝันมากทีเดียว หนุ่มสาวสองคนที่ไม่เคยรู้จักกันแต่กลับผูกสัมพันธ์ต่อกันอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างปุบปับราวกับรักแรกพบ ต่างคนต่างไม่ได้รู้จักกัน แต่เฝ้ารอจนได้พบเจอและคบหากัน แต่ในระหว่างนั้น หนังก็เล่าเรื่องที่เกี่ยวโยงแบบน่าพิศวงไปพร้อมกันด้วย
ครอบครัวที่น่ารัก พ่อ แม่ ลูก ที่ดูน่าจะมีความสุข กลับต้องมาแตกสลายเพราะอุบัติเหตุ ทิ้งให้ผู้เป็นพ่อต้องเจ็บปวดและกักเก็บความทุกข์ไว้ในใจตลอดมา จนวันที่เขาต้องประหลาดใจกับถ้อยคำบอกเล่าของชายแปลกหน้า และจากนั้น หนังก็เล่าเหตุการณ์อันชวนสงสัยเพิ่มไปอีก
อาจเป็นเพราะดูตัวอย่างไปเพียงหนึ่งครั้งและยังไม่เข้าใจเรื่องนักก่อนเดินเข้าไปดู ด้วยขั้นตอนในการเล่าเรื่องของหนังเองที่ทำให้ชวนสับสนอยู่พอประมาณ เหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจปะปนกัน สิ่งที่หนังบอกเล่าได้อธิบายให้เราได้เข้าใจคำพูดบางคำของตัวละครก่อนหน้า ส่งผลให้นายแพทปะติดปะต่อเรื่องราวได้แบบคลุมเครือ ก่อนที่สุดท้าย เมื่อหนังเฉลยเต็มแล้ว ทุกอย่างจึงค่อนข้างกระจ่างมากขึ้น
มันคือหนังที่หยิบไอเดียของการเกิดใหม่มาใส่ลงไปในหนังดรามาโรแมนติก โดยให้ตัวละครหนึ่งตัวที่ได้ใช้ชีวิตอยู่บนโลกได้ไม่นานก็เสียชีวิตและเกิดใหม่ในชื่อเดียวกัน แถมยังหยิบมันมาเชื่อมโยงกับพระจันทร์ที่หมุนเวียนขึ้นลงไม่มีรู้จบ
เหล่านักแสดงทั้งหลายต่างก็ทุ่มเทเล่นกันเต็มที่ หากเล่าเรื่องได้กลมกล่อมกว่านี้สักหน่อย ผู้ชมอย่างเราคงจะอินได้อย่างเต็มที่ บางฉากในหนังก็เหมือนจะถูกใช้ซ้ำๆ อย่างฉากที่ตัวละครจะต้องออกวิ่งเพื่อตามหาอะไรสักอย่าง แม้จะถูกใช้บ่อยครั้งแต่ก็สื่อความหมายได้ไม่เลว ขณะที่มุมกล้องในหลายช็อตนั้นทำได้ดี แต่ก็มีบางช็อตที่รู้สึกขัดใจและมีบางช็อตที่ชวนรู้สึกสงสัย
นอกเหนือจากนางเอกของเรื่องอย่าง อาริมุระ คาสุมิ ที่น่ารักและมีรอยยิ้มโดนใจแล้ว เพลงประกอบในหนังก็นับได้ว่าไพเราะทุกเพลง ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่อยู่ในเรื่องราวอย่าง ‘Remember Love’ ที่ โยโกะ โอโนะ และ จอห์น เลนนอน ทำขึ้นในห้อง 1742 ของโรงแรม Elizabeth Hotel in ในมอนทรีอัล ประเทศแคนาดา หรือแม้กับเพลงอื่นๆ เองก็ตาม
มีบางสิ่งที่ชวนตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง แม้มันจะดูเป็นรักแท้ที่น่าเศร้า แต่มันก็เป็นเรื่องรักที่เกิดมาในช่วงเวลาที่ไม่ควร และเมื่อหนังเดินมาถึงจุดหนึ่งแล้ว คนดูที่ตามไม่ทันก็จะเริ่มตามทัน และจะพบว่าในฉากท้ายๆ ของหนังนั้นกินใจมากพอจะทำให้น้ำตาเอ่อขึ้นมาได้ เป็นเรื่องราวที่ตัวอย่างไม่เคยบอกและเรื่องที่ผู้ชมไม่คาดคิด ถือว่าจบได้น่าสนใจทีเดียว
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | Phases of the Moon / เกิดกี่ครั้งก็ยังเป็นเธอ / 月の満ち欠け |
กำกับ | Ryuichi Hiroki |
เขียนบท | Hiroshi Hashimoto, Shogo Sato |
แสดงนำ | Kasumi Arimura/อาริมุระ คาสุมิ, Ren Meguro/เมกุโระ เร็น, Ko Shibasaki, Yo Oizumi/โออิสึมิ โย |
แนว/ประเภท | ดราม่า, โรแมนติก |
เรท | ไทย/ทั่วไป |
ความยาว | 128 นาที |
ปี | 2023 |
สัญชาติ | ญี่ปุ่น |
เข้าฉายในไทย | 2 กุมภาพันธ์ 2023 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | Shochiku, มงคลภาพยนตร์ |
เกิดกี่ครั้งก็ยังเป็นเธอ
พล็อตและบท - 7
การแสดง - 7
การดำเนินเรื่อง - 6.2
เพลงและดนตรีประกอบ - 7.8
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษและโปรดักชัน - 6.9
7
Phases of the Moon
มีบางสิ่งที่ชวนตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง แม้มันจะดูเป็นรักแท้ที่น่าเศร้า แต่มันก็เป็นเรื่องรักที่เกิดมาในช่วงเวลาที่ไม่ควร และเมื่อหนังเดินมาถึงจุดหนึ่งแล้ว คนดูที่ตามไม่ทันก็จะเริ่มตามทัน และจะพบว่าในฉากท้ายๆ ของหนังนั้นกินใจมากพอจะทำให้น้ำตาเอ่อขึ้นมาได้ เป็นเรื่องราวที่ตัวอย่างไม่เคยบอกและเรื่องที่ผู้ชมไม่คาดคิด ถือว่าจบได้น่าสนใจทีเดียว