เรื่องเล่าสยองขวัญที่เรามักได้ยินได้ฟังในวันที่เข้าไปเรียนในระดับอุดมศึกษา มันถูกดัดแปลงเป็นบทหนังที่แบ่งย่อยเป็น 3 ตอนย่อยมา 2 ภาคก่อนหน้านี้ หลังประสบความสำเร็จ มันจึงก้าวต่อด้วยภาคที่สาม ‘Haunted Universities 3’ หรือชื่อไทย ‘เทอม 3’ เปิดภาคเรียนและนักศึกษาใหม่ พร้อมกับตำนานเรื่องเล่าที่ถูกหยิบมาปัดฝุ่น เรียบเรียงใหม่ และเข้าฉายในโรงในวันนี้
นี่คือหนังแนวแบ่ง 3 ตอนที่สืบสานต่อมาจาก ‘เทอมสอง สยองขวัญ’ ที่เคยเล่าตำนานมหา’ลัยและพาเราสยองขวัญกันไปเมื่อ 2 ปีก่อน แบ่งเล่า 3 ตอนเหมือนกัน แต่เปลี่ยนไปเล่าอีก 3 ตำนานใหม่ แค่ยังเล่าเรื่องในมหาวิทยาลัยเหมือนเดิม
นึกถึงวันเก่า วันที่เราได้เรียนมหาวิทยาลัย วันที่เราได้อาศัยอยู่ในหอพัก วันที่เราได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ ไปเจอเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง พร้อมทั้งยังเคยได้ยินว่ามันมีเรื่องเล่าอย่างนั้นอย่างนี้ พร้อมกับมีข้อห้ามอย่างนั้นอย่างนี้ ส่วนใหญ่เราก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และพอจบออกมา เรื่องเล่าเหล่านั้นก็จางไปความคิด แต่เมื่อไหร่ที่มีโอกาสได้เดินกลับยังที่ที่จากมา เรื่องเล่าบางอย่างก็แว้บขึ้นมาในหัวได้เหมือนกัน แต่ทั้งหมดทั้งมวล ไม่มีส่วนไหนในหนังภาคที่เกี่ยวข้องกับเรา เพราะเท่าที่เห็น มันเป็นเรื่องเล่าในคนละคณะ คนละมหาวิทยาลัยกับเรานั่นเอง
ตอนที่หนึ่ง ‘ขบวนแห่’
ตอนแรกของหนัง เริ่มมาก็เล่นเอาขนลุกซู่เลย เรื่องราวที่เกิดขึ้นในคณะศิลปกรรมของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เรื่องเล่าที่บอกว่า ถ้าคู่ใดไปขอศาลเจ้านางแต่ไม่ได้รักกันจริงๆ คนหนึ่งในนั้นจะมีอันเป็นไป หนังมันเล่าเรื่องของ กับก้อย เพื่อนสนิทต่างเพศที่จูงมือกันไปขอศาสเจ้านางเพื่อให้ทั้งสองคนได้ทุน แทรกใส่เรื่องเล่าอันเป็นตำนานของศาลเจ้านางซ้อนเข้ามา ก่อนมันจะกลายเป็นไล่เชือดชวนสยอง หนังทำได้ขนลุกดี จังหวะและดนตรีประกอบทำได้ผล แม้บางช่วง ผีจะเล่นใหญ่ไปนิดจนคนดูงงเป็นไก่ตาแตก
หนังพยายามตั้งคำถามเกี่ยวกับทุนที่ให้มาอย่างจำกัดจำเขี่ย จนในที่สุด เพื่อนซี้สองคนต้องมาแย่งกันเอง แต่เอาเข้าจริง เพราะความที่หนังมันสั้นเนี่ยแหละ มันเลยทำให้ทุกอย่างดูรีบไปหมด ยังไม่ทันได้ปูอะไรเท่าไหร่ สองเพื่อนซี้ก็จูงกันไปขอศาลเจ้านางกันละ แต่บทหนังมันก็เลือกทางลงให้กับตัวละครได้ดีพอสมควร
ชอบใจในการแสดงที่เอาอยู่ของ ตาต้า ชาติชาย (เพราะความเล่นหนัง ‘สัปเหร่อ’ มา หนังเลยติดฟีลสัปเหร่อมาด้วยหน่อยนึง) พกพาความคอมเมดี้สร้างเสียงหัวเราะให้ดังอยู่ในหนังแนวสยองขวัญแนวเลือดสาด ทั้งแปรเปลี่ยน อุ้ม อิษยา (จากหนัง ‘สยามสแควร์’) ที่เปลี่ยนสีผมใหม่ให้ลุคออกมาต่างที่เคยคุ้น และกลายเป็นว่า สองคนนี้เคมีดูเข้ากันได้ดีแฮะ อีกด้านหนึ่งที่น่าสนใจ คือ หนังมันให้ตัวละครสองตัวคุยกันคนละสำเนียง คนหนึ่งอู้กำเมือง คนนึงเว่าอีสาน เออ ก็น่ารักไปอีกแบบ
ตอนที่สอง ‘พี่เทค’
เรื่องเล่าเรื่องต่อมา ตำนานที่ว่าด้วยเรื่องของรุ่นพี่รุ่นน้อง และตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของระบบ SOTUS เมื่อมันเล่าเรื่องของรุ่นพี่ที่ไม่เห็นด้วยกับระบบนี้ กับรุ่นน้องที่ดูเหมือนจะเชื่ออย่างสนิทใจ เมื่อรุ่นพี่จัดกิจกรรมที่เรียกว่า ‘พี่เทค’ กันขึ้นมา ให้รุ่นพี่ได้ดูแลรุ่นพี่แบบจับคู่คนต่อคน แต่คู่ของรุ่นพี่ เอิร์ธ (จั๊มพ์ พิสิฐพล จากหนัง ‘เพื่อน(ไม่)สนิท’) ก็จับได้รุ่นน้องอย่างซัน (อัด อวัช จากหนัง ‘ดอยบอย’) ดันเป็นคู่ตรงข้าม
หนังใช้วิธีบีบจอให้แคบลง นัยว่าต้องการสร้างความอึดอัดและถูกกดทับในระหว่างดู บทหนังชวนให้รู้สึกถึงความเบียวที่ล่องลอยอบอวลอยู่ แม้หนังจะมีแง่มุมการเมืองแทรกซึมและเกาะเกี่ยวอยู่กับระบบโซตัส แต่ก็ใส่บทพูดที่ดูประหลาดเข้ามาจนพาคนดูหลายกลุ่มหลุดขำ ขณะบทการกระทำก็ชวนสงสัยในพฤติกรรมตัวละคร เดินเรื่องคล้ายการแสดงจินตลีลาที่เน้นออกท่าทางจนดูอืดอาด เสริมทัพด้วยซีจี กับฉากจบที่สร้างเสียงกรี๊ดกร๊าดจากคนดู กระนั้น ดนตรีประกอบบางส่วนกลับดีงามพระรามแปดเอามากๆ
ถ้ามองในอีกมุมนึง ถือว่าผู้กำกับค่อนข้างกล้าหาญที่เลือกเล่าในแนวทางนี้ เพียงแต่เมื่อผ่านโปรเซสมาแล้ว มันกลายเป็นหนังกึ่งปีศาจที่อาจไม่ชวนให้รู้สึกหลอนหรือกลัว ท่ามกลางความตั้งใจสื่อสารถึงสิ่งอื่นอย่างการมีอยู่ของระบบโซตัส และการดำรงอยู่ของบางสิ่งในทางการเมือง ซึ่งถ้าใครเก็ทก็คงจะชอบตอนนี้
ตอนที่สาม ‘ศาลล่องหน’
หลังชวนขนหัวลุกไปแล้ว เบียวการเมืองไปแล้ว จะให้ส่วนผสมกันพอเหมาะพอเจาะ มันก็ต้องมีหนังผีปกตลกมาในตอนสุดท้าย เรื่องราวของเพื่อนซี้ในวันจัดปาร์ตี้ผีฮาโลวีนของคณะ มีประกวดร้องเพลงและต้องมีพวงมาลัย เมื่อมิ้นต์ (ชื่อเดียวกับที่ แพรวา ณิชาภัทร รับบทในเรื่อง ‘เคว้ง’) เร่งเร้าวาฬ (มาร์ช จุฑาวุฒิ จากหนัง ‘ฝากไว้..ในกายเธอ’) ให้หาพวงมาลัยให้ แต่วาฬผู้ไม่ค่อยกลัวผีก็ดันไปเอาพวงมาลัยมาจากศาลตายาย จนถูกผีตายายและสามผีนางรำตามรังควานไม่เลิก
งานนี้มี มาร์ค ศิวัช (จากซีรีส์ ‘บังเอิญรัก’) มาร่วมเผชิญชะตากรรมในบทฮ่องเต้ ‘ศาลล่องหน’ กลายเป็นหนังวิ่งหนีผีบวกทำภารกิจเพื่อให้หลุดพ้นจากผี ที่แรกๆ ก็อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ยิ่งผ่านไปยิ่งตลก ไม่ว่าจะเป็นแพรวาหรือมาร์ชจุ ต่างคนต่างช่วยกันพาเสียงหัวเราะร่วนให้ดังในโรงหนังได้เรื่อยๆ แม้หลายหนจะชวนไม่เข้าใจว่า จะสบถคำเดิมๆ มากไปไหมก็ตาม
เรียกได้ว่ายังคงสานต่อกันมาได้อย่างค่อนข้างดี นี่ก็ผ่านมาถึงเทอมที่สามแล้ว ภาคนี้จัดส่วนผสมกันมาได้ลงตัวและไม่แย่งทางกัน ต่างตอนต่างมีจุดเด่นเป็นของตนเอง สึ่งหนึ่งที่มีเหมือนๆ กัน คือ การไม่เน้นความตุ้งแช่ jumpscare พอมีแต่ไม่ได้ตั้งหน้าจัดหนักจัดบ่อย ในส่วนของตำนานเรื่องเล่า เอาเข้าจริง ตอนที่รีเลทมากสุดคือเป็น ‘พี่เทค’ นอกนั้นชีวิตวัยมหา’ลัยแทบไม่มีความเกี่ยวข้องกับศาลใด แต่ไม่ว่ายังไง เราก็สนใจที่การเล่าและการแสดงมากกว่าความรีเลทอยู่แล้วล่ะ สำหรับหนังเรื่องนี้
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
ชื่อภาพยนตร์ | เทอม 3 / Haunted Universities 3 |
กำกับ | นัทสอ สรวิชญ์ เมืองแก้ว, ตู้ อัศฎา ลิขิตบุญมา, เบิ้ล นนทวัฒน์ นำเบญจพล, โจ้ อรุณกร พิค |
เขียนบท | |
โปรดิวซ์ | มะเดี่ยว ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล, โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ |
แสดงนำ | ตาต้า ชาติชาย ชินศรี, อุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ, อัด อวัช รัตนปิณฑะ, จั๊มพ์ พิสิฐพล เอกพงศ์พิสิฐ, มาร์ช จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล, แพรวา ณิชาภัทร ฉัตรชัยพลรัตน์, มาร์ค ศิวัช จำลองกุล |
แนว/ประเภท | สยองขวัญ |
เรท | น15+ |
ความยาว | 119 นาที |
ปี | 2024 |
สัญชาติ | ไทย |
เข้าฉายในไทย | 30 พฤษภาคม 2024 |
ผลิต/จัดจำหน่าย | สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล |
คะแนนรีวิวหนัง เทอม 3
พล็อตและบท - 7
การดำเนินเรื่อง - 7
การแสดง - 7
งานถ่ายภาพ เทคนิคพิเศษ และโปรดักชั่น - 7
เพลงและดนตรีประกอบ - 7
7
Haunted Universities 3
หนังผีที่แบ่งเป็น 3 ตอน แต่ละตอนก็เล่าคนละตำนาน แถมเดินเรื่องใน 3 แนวทาง ตั้งใจหลอนจริงจังสไตล์ฆ่าตัดหัวในตอนแรก ที่ชวนขนหัวลุกได้ ตอนสองที่ออกไปทางเบียว มีสาส์นที่ต้องการสื่อแต่มีบางส่วนที่อืดอาดกับบทพูดที่ประหลาดไปนิด ส่วนตอนสาม ตั้งใจเป็นหนังตลกผี ทำหน้าที่สร้างเสียงหัวเราะได้ชะงัด