รีวิวหนัง Wicked | อลังการทำถึง กำเนิดแม่มดชั่วร้ายแห่งตะวันตก

หนังเรื่องนี้สร้างขึ้นมาจากบทละครบรอดเวย์สุดโด่งดัง และก็เป็นเรื่องราวที่ถูกขีดเขียนจากนิยายที่ได้รับการการันตีว่าเป็นหนังสือที่ควรอ่าน เรื่องราวของมันคล้ายจะเติมต่อขยายออกมาจากเรื่องราวในแดนมหัศจรรย์ของพ่อมดอ๊อซ ที่พาให้เราล่วงรู้ถึงจุดกำเนิดของแม่มดทั้งสอง ‘Wicked’ ชื่อที่แปลไทยได้ว่า ชั่วร้าย ส่วนชื่อไทยทับศัพท์เป็น ‘วิคเค็ด’ เป็นหนังมิวสิคัลแฟนตาซีที่แบ่งฉายเป็น 2 ภาค และนี่คือภาคแรกที่เสียงตอบรับในต่างประเทศดีมากๆ

คิดเห็นเช่นไรกับหนังเรื่องนี้?

ภาพยนตร์แฟนตาซีมิวสิคัลจากวิสัยทัศน์ของ จอน เอ็ม. ชู ที่พาหนังที่ดัดแปลงจากละครบรอดเวย์ เล่าเรื่องราวที่เราอาจยังไม่รู้เกี่ยวกับแม่มดชั่วร้ายและแม่มดผู้งดงามในจักรวาลของพ่อมดอ๊อซ ที่ถูกเล่าแบ่งเป็น 2 ภาค (และนี่คือภาคต้น) และภาคแรกก็เหมือนเป็นการเล่าถึงต้นกำเนิดของแม่มดชั่วร้ายแห่งตะวันตก ผู้ที่เกิดมาสีเขียวทั้งตัว มีพลังมาแต่กำเนิดแค่ยังไม่รู้จัดวิธีควบคุม แต่ได้มาเจอกับแม่มดผู้งดงามที่มิตรภาพทั้งก่อตัวและแปรเปลี่ยน

หนังจัดเต็มทั้งโปรดักชันงานสร้าง เสื้อผ้าหน้าผมอลังการ เนรมิตละครเพลงให้ย้ายมาอยู่ในหนัง ยกเพลงเหล่านั้นมาร้องเต้น น่าทึ่งไปกับเสียงร้องในเพลงเพราะๆ มากมายเต็มเรื่อง หนังจบนี่ต้องรออีกปีเพื่อดูอีกภาคกันเลย

เรื่องย่อหนัง ‘Wicked’

ในแดนมหัศจรรย์ของพ่อมดอ๊อซที่เราเคยรู้จักกัน มีตัวละครสำคัญที่ถูกหยิบมาบอกเล่าอย่างละเอียดอีกครั้ง เรื่องราวของแม่มดตะวันตกผู้ชั่วร้ายและแม่มดผู้มีจิตใจงดงาม

เริ่มต้นที่ เอลฟาบา (Cynthia Erivo จากหนังเรื่อง ‘Pinocchio’ ของดิสนีย์) หญิงสาวที่เกิดมาพร้อมกับร่างกายสีเขียวและการไม่ยอมรับจากผู้เป็นพ่อ เธอกับน้องสาวที่ร่างพิการขาเข้ามาเล่าเรียนในมหาวิทยาลัยชิชท่ามกลางสายตาที่มองมาราวกับเธอเป็นตัวประหลาด และสิ่งที่ทำให้เธอน่ากลัวก็คือ เธอมีเวทมนตร์ที่ยังควบคุมมันไม่ได้

ด้วยคำสั่งของหัวหน้าแผนกเวทมนตร์อย่าง มาดามมอริเบิล (Michelle Yeoh จากซีรีส์ ‘American Born Chinese’) ทำให้เอลฟาบาได้อยู่ห้องเดียวกันกับ กลินดา (Ariana Grande จากหนังเรื่อง ‘Don’t Look Up’) หญิงสาวที่มีใบหน้าผุดผ่องและจิตใจที่เจ้าตัวมองว่าอารี ก่อนที่มิตรภาพของพวกเธอจะเริ่มต้นขึ้นอย่าง…กระท่อนกระแท่น

เอลฟาบา ผู้มีพลังเวทมนตร์ เธอมีจุดมุ่งหมายอยากจะได้พบกับพ่อมหัศจรรย์แห่งออซ (Jeff Goldblum จากหนังเรื่อง ‘Thor: Ragnarok’) ขณะที่ฟิเยโร่ (Jonathan Bailey จากซีรีส์ ‘Bridgerton’) คือเจ้าชายผู้รักอิสระ ชายหนุ่มรูปงามที่เข้ามาอยู่ตรงกลางระหว่างความสัมพันธ์ของรูมเมททั้งสองคน

รีวิวหนัง ‘วิคเค็ด’

จากจุดเริ่มต้นที่อาจเกิดจากการตั้งคำถามที่ว่า กลินดา แม่มดผู้ใจดีแห่งทิศใต้ กับ เอลฟาบา แม่มดผู็ชั่วร้ายแห่งตะวันตก สองแม่มดที่โผล่มาเจอแม่หนูโดโรธีในตอนต้นเรื่องของ ‘The Wizard of Oz’ ของ Frank L. Baum นั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร

ก่อนที่มันจะได้กลายมาเป็นภาพยนตร์แฟนตาซีมิวสิคัลที่กำกับโดย จอน เอ็ม. ชู เรื่องนี้ มันถูกดัดแปลงมาจากละครบรอดเวย์ที่ได้รับความนิยมยืนยาวราว 20 ปีในปี 2003 ซึ่งละครนี่ก็ดัดแปลงมาจากนิยายของ เกรกอรี่ แมกไกวร์ ในปี 1995 อีกทีนึง ความจริงที่เราได้รู้มาคือ สตูดิโอค่ายหนังได้ลิขสิทธิ์มานานแล้ว แต่โปรเจกต์ที่ไม่ก้าวหน้าได้รับการดัดแปลงให้กลายเป็นละครบรอดเวย์แล้วโด่งดัง

ก่อนหน้านี้ นายแพทก็เคยผ่านตากับเรื่องราวในดินแดนมหัศจรรย์และเมืองมรกตของพ่อมดอ๊อซมาบ้างแล้วเหมือนกันนะ ทำให้พอจะเข้าใจเรื่องราวและตัวละครของเรื่องนี้ได้ประมาณนึง

• ‘The Wizard of Oz’ หนังขึ้นหิ้งฉบับปี 1939 ที่เคยได้รับการนำมาฉายในโรงบ้านเรา
• ‘Oz the Great and Powerful – ออซ มหัศจรรย์พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่’ หนังปี 2013 จากผลงานการกำกับของ Sam Raimi

แต่ก่อนอื่นก็ต้องเข้าใจซะก่อนว่า นี่มันคือหนังแฟนตาซีมิวสิคัล มันย่อมมีร้องเพลงและเต้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา หนังมีเพลงจากละครบรอดเวย์มาอยู่ในหนังทั้งเรื่อง พร้อมกับมีเพลงใหม่มาให้ฟังกันด้วย ยิ่งใครได้เคยดูละครบรอดเวย์มาก่อน หรือมีความนิยมชมชอบในละครเพลงอยู่ก่อนแล้ว ย่อมจะซึมซับกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างง่ายดาย ส่วนคนที่อยู่นอกเหนือจากนั้น จะได้เห็นถึงความอลังการงานสร้างที่จัดเต็มทุกจุด เสื้อผ้าหน้าผม ฉากต่างๆ และแน่นอน เพลงเพราะๆ ผ่านของนักแสดงเสียงคุณภาพ ซึ่งนายแพทผู้ได้ฟังเป็นครั้งแรก สัมผัสได้ว่า บางเพลงดูคุ้นหู น่าจะเพราะหยิบเอากลิ่นของหลายเพลงดังมาเติมสีสันใหม่ลงไปนั่นเอง

และกลายเป็นว่า หลังผ่านตามากับผลงานอย่าง ‘G.I. Joe: Retaliation’ และ ‘Now You See Me 2’ หนังของ Jon M. Chu ที่ดูจะเข้ามือสุดๆ กลับหนังเพลงและมิวสิคัลไปซะงั้น ก่อนหน้านี้ เขาก็ทำ ‘In the Heights’ และ ‘Crazy Rich Asians’ มา ก่อนหน้านั้นไปอีกก็เคยทำหนังเต้นอย่าง ‘Step Up 2: The Streets’ และ ‘Step Up 3D’ ไม่รู้ว่ายังจำกันได้หรือเปล่า

หลายคนอาจไม่รู้ว่านี่คือภาคต้น (ของภาคจบที่จะมาในปลายปี 2025) โดยรวมแล้ว มันเล่าถึงจุดกำเนิดของหนึ่งแม่มดผู้ชั่วร้าย และหนึ่งแม่มดผู้มีจิตใจงดงาม ภาพพจน์ที่ผู้คนจดจำนั้นเป็นเพียงแค่ฉากหน้าที่พวกเขาเห็น หากแท้จริงแล้วเรื่องเบื้องหลังมันเป็นอย่างไร เราจะได้รู้กันในหนังเรื่องนี้

หนังทำให้เราได้เห็นแง่มุมของแม่มดชั่วร้ายอย่างเอลฟาบาที่เราไม่เคยรู้มาก่อน หญิงสาวผู้ถูกมองว่าประหลาดเพราะผิวสีเขียวที่ไม่เหมือนกับใคร ทั้งยังไม่ได้ค้นพบพลังที่แท้จริงของตนเอง เธอมีชีวิตวัยเด็กเป็นอย่างไร และพบเจอกับเหตุการณ์เช่นไรในมหาวิทยาลัยชิชแห่งนี้ จึงได้กลายเป็นแม่มดชั่วร้ายที่ผู้คนกล่าวขานไปได้

ขณะที่กลินดา สาวสวยผู้มั่งคั่งที่หัวใจเธอเปี่ยมล้นด้วยความทะเยอทะยานและปรารถนาจะเป็นที่นิยม หลายๆ พฤติกรรมของเธอทำให้เราได้มองเห็นว่า เธอเลือกกระทำเพราะใส่ใจถึงผลที่ตามมา ความรู้สึกของผู้คนที่จะชมชอบเธอ แต่นั่นแหละ การที่ได้รู้จักกับเอลฟาบามากขึ้นก็กำลังเปลี่ยนแปลงจิตใจไปเช่นกัน เธอเริ่มเข้าใจความรู้สึกนึกคิดและพร้อมให้กำลังใจอีกฝ่าย แต่มิตรภาพนั้นก็ถึงกาลเปลี่ยนแปลงอีกครั้งในวันที่ทั้งสองได้พานพบกับพ่อมดแห่งอ๊อซ

‘วิคเค็ด พาร์ทวัน’ จัดว่าเป็นหนังมิวสิคัลที่ทำถึงมาก จัดเต็มไปในทุกภาคส่วน แต่ถ้าจะเอาเฉพาะนักแสดงนำแล้วล่ะก็ ยกนิ้วให้เลย ผู้แสดงเป็นเอลฟาบาแม่มดร่างเขียวอย่าง ซินเธีย เอริโว เธอเป็นทั้งนักแสดงและนักร้องชาวไนจีเรีย-อังกฤษ​ ผู้มีเครดิตจากการแสดงละครบรอดเวย์ชื่อดังอย่าง ‘The Color Purple’ ที่น่าจะเป็นส่วนหนึ่งให้ถูกเลือกมารับบทนี้ น้ำเสียงอันทรงพลังสร้างภาพพจน์หญิงแกร่งที่มีปมในใจได้เป็นอย่างดี ขณะที่ อาริอานา กรานเด ภาพของเธอในใจเราคือเป็นนักร้องดังระดับซุปตาร์ที่มีน้ำเสียงสวยและสูงมาก ด้วยความที่ฟังแต่เพลง เมื่อมาเห็นตัวจริงพร้อมกับการแสดงที่น่ารักน่าหมั่นไส้ ก็เหมือนโดนตกอีกครั้งอะไรประมาณนั้น

เมื่อความเว่อวังอลังการยาวนาน 160 นาทีผ่านพ้นไป ผู้คนที่ได้ดื่มด่ำและเต็มอิ่มกับประสบการณ์ในโรงภาพยนตร์ต้องรอคอยอีกราว 1 ปี เพื่อจะได้พบกับบทสรุปของสองแม่มด รอคอยกันนิดนึงนะคนดี

รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง