สัปดาห์นี้หนังไทยเรื่องใหญ่เบิ้มเตรียมเข้าฉายรับวันหยุด และคงเป็นหนังไทยที่หลายๆ คนรอคอย หลังเคยได้ทำความรู้จักกับภาคแรกเมื่อปี พ.ศ. 2548 (ค.ศ. 2005) เรื่องราวของหนุ่มเมืองสุรินทร์ผู้ตามหาช้างน้องชายสุดรักสุดหวงไปไกลถึงออสเตรเลีย หนังภาคแรกนั้นดังไกลไปถึงสหรัฐอเมริกาโน่นเลยทีเดียว
ผ่านมา 8 ปี เพิ่งจะมีภาคสองกับเขา เมื่อผู้กำกับอย่าง ปรัชญา ปิ่นแก้ว หยิบเอาโปรเจ็กต์ที่พา จา พนม ไปอีกระดับขึ้นด้วยการมีนักแสดงจากต่างชาติมาร่วมด้วย มาสานต่อด้วย ‘ต้มยำกุ้ง 2’ ภาคที่สองที่ถ่ายทำในเมืองไทยล้วนๆ และยังเสริมทัพด้วยนักแสดงไทยอีกหลายหน้า โดยเฉพาะ จีจ้า ญาณิน และนักแสดงจากต่างชาติที่มาสมทบอีกมากมาย
เรื่องราวมันก็ผ่านมาเนิ่นนานจนแทบจะจดจำเนื้อหาของภาคแรกไม่ได้แล้ว นอกไปเสียจากวลีที่ติดปากไปเสียทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง “ช้างกูอยู่ไหน?” และฉากการต่อสู้ที่ถ่ายกันแบบลองช็อตอันน่าทึ่งฉากนั้น
รีวิวหนัง ‘ต้มยำกุ้ง 2’
กลับมาคราวนี้ พวกเขายังเลือกที่จะเล่าเรื่องในพล็อตเดิม คือ ขาม (โทนี่ จา / จา พนม / พนม ยีรัมย์ / ทัชชกร ยีรัมย์) ผู้เติบโตมากับช้างน้อยผู้เป็นเสมือนน้องรัก แต่แล้ววันหนึ่งก็มีเศรษฐีมาขอซื้อช้าง เมื่อขามไม่ขายมันก็เลยถูกขโมย ตามท้องเรื่อง ขามก็จะต้องออกไปตามหาช้างของตนที่หายไป เมื่อเขาพบเจอผู้ที่เชื่อว่าเป็นผู้เอาช้างไป เขากลับพบว่าเศรษฐีผู้นั้นเสียชีวิตแล้ว
และนำมาซึ่งเงื่อนงำบางอย่างที่เกี่ยวกับประเทศที่โลกไม่รู้จัก และทีมนักสู้ที่ไม่เคยมีตัวตนในโลกจริง
นักแสดงสมทบที่เพิ่มเข้ามาในภาคนี้ มีบทบาทที่เกลี่ยๆ กันไปไล่ตั้งแต่ รฐา โพธิ์งาม (หรือ ญาญ่าหญิง), Marrese Crump, RZA, จีจ้า ญาณิน, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา และคนอื่นๆ อีกเยอะ แต่โดยรวม หลายคนก็คงพุ่งเป้าไปที่สาวญาญ่าหญิง เพราะในเรื่องนี้ เธอสวยสง่ามาในคอสตูมที่ดูเซ็กซี่แปลกตา บู๊ไม่โดดเด่นแต่หน้าตาและเสื้อผ้าเรียกร้องความสนใจคนดูเอามากๆ ขณะที่จีจ้า เรื่องนี้ไม่เน้นสวยแต่เน้นบู๊แทนเลยไม่ค่อยจะมีบทพูดนัก ส่วนดาราตลกอย่าง หม่ำ จ๊กมก ดูจะเป็นตัวละครที่ไม่ค่อยมีผลกับเรื่องโดยรวมมากเท่าที่ควรนะ
ขณะที่ดาราต่างชาติ กลับมีคนดำสองหน่อซึ่งบางทีก็ออกมาทำให้เราสับสนได้เหมือนกัน
เป็นความพยายามที่จะดั้นด้นค้นหาภาพใหม่ๆ ในฉากบู๊แอ็คชั่นของ “ต้มยำกุ้ง” ซึ่งถึงจะดูใหม่ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนัก อีกทั้งบางครั้งยังดูแหม่งๆ กับเรื่องราวที่ดูไม่สมจริงในบางช่วงของการเชื่อมโยงบางฉากเข้าด้วยกัน และเช่นเดียวกับบทที่ไม่มีอะไรซับซ้อน เหมือนจะสร้างมาเพื่อปูเข้าสู่ฉากบู๊ที่ต้องการจะมีในเรื่องก็เท่านั้น
สิ่งที่พอจะหวังได้กับหนังที่ทุนระดับ 500 ล้านบาทเรื่องนี้ก็คงจะเป็นที่ฉากบู๊ที่จัดมาอย่างเต็ม จนหลังๆ เริ่มเหนื่อยที่ต้องดูอะไรซ้ำๆ เดิมๆ ขณะที่ CG ในหนังก็ยังดูไม่เนียมคมสมจริงนัก ผสมกับการตัดต่อที่ดูโดดๆ เลยยิ่งทำให้ดูแปลกๆ เข้าไปใหญ่ ด้านงานภาพ 3 มิติ จากการสังเกตกับแว่น 3 มิติที่ได้รับแจกในโรง SF World Cinema พบว่ามีภาพบางส่วนที่ดูเหลี่ยมๆ ไม่เนียนมากนัก แต่ถือว่าทำได้ค่อนข้างดีในเรื่องลูกเล่นที่นำมาใช้หลอกล่อกับสายตาคนดู
โดยรวม “ต้มยำกุ้ง 2” เป็นหนังที่พยายามเอาใจคอหนังบู๊ที่พล็อตเป็นเรื่องรอง พยายามจะสร้างความแปลกใหม่กับฉากบู๊ของตัวเอง แต่ก็ยังมีความไม่สมบูรณ์ที่เห็นได้ชัดอยู่มากพอควร ดูเพื่อความสนุก เอามัน กับดูการออกแบบฉากต่อสู้
อ้อ ดูฉากที่ญาญ่าหญิงปรากฏตัวก็น่าจะเป็นจุดประสงค์หนึ่งได้นะ!
ชื่อภาพยนตร์: ต้มยำกุ้ง 2 / The Protector 2
ผู้กำกับภาพยนตร์: ปรัชญา ปิ่นแก้ว, พันนา ฤทธิไกร
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: เอกสิทธิ์ ไทยรัตน์
นักแสดงนำ: จา พนม ยีรัมย์ (ทัชชกร ยีรัมย์), Marrese Crump, จีจ้า ญาณิน, เพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา, รฐา โพธิ์งาม, ชูพงษ์ ช่างปรุง, RZA
แนว/ประเภท: Action
ความยาว: 104 นาที
เรท: ไทย/ , USA/
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 23 ตุลาคม 2556
ผู้สร้าง/สตูดิโอ/ผู้จัดจำหน่าย: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล, บาแรมยู