รีวิวซีรีส์ Sirens เล่ห์เสน่ห์ร้าย | ความทะยานอยาก ในคฤหาสน์ปุบปับ

แอบเห็นเน็ตฟลิกซ์เอาขึ้นมาแนะนำอยู่เมื่อหลายวันก่อน ก่อนที่จะมีโอกาสได้ดูในเวลาต่อมา ซีรีส์ที่ออกแนวดราม่าผสมคอมเมดี้ พาตื่นตะลึงกับอะไรที่คาดไม่ถึง จิกกัดสังคมที่ไม่หยิบศีลธรรมมานำทางชีวิต ‘Sirens’ หรือชื่อไทย ‘เล่ห์เสน่ห์ร้าย’ เรื่องราวของ 3 สาวที่ชะตาพาให้มาเผชิญหน้ากัน สองคนเป็นพี่น้องที่ต่างแนวทางชีวิต กับอีกหนึ่งเป็นหญิงสาวไฮโซที่มุ่งมั่นเก็บกอดสถานะนั้นไว้กับตัวเองตลอดมา

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์เน็ตฟลิกซ์เรื่องนี้?

เรื่องราว 3 สาวที่ต้องมาเจอกัน ฟาดฟันกัน ในคฤหาสน์หลังงามริมหน้าผาแห่งนี้ น้องสาวที่ละทิ้งอดีตมาทำงานรับใช้เจ้านายที่เป็นภรรยาไฮโซผู้ชอบควบคุมคนอื่น จนเมื่อพี่สาวดั้นด้นมาหาถึงคฤหาสน์หรู เรื่องวุ่นวายยุ่งเหยิงจึงเริ่มต้นขึ้น ซีรีส์ที่มีทั้งเรื่องเซ็กซ์ การฆ่าตัวตาย คำหยาบคายต่างๆ และแน่นอน เรื่องดราม่าความสัมพันธ์ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับความทะเยอทะยานจะปีนเลื่อนชั้นทางสังคม

หลายคนอาจรู้สึกขัดใจกับตอนจบ แต่จะว่าไป มันก็อาจไม่ต่างจากเรื่องจริงนักหรอก อาจมีบางคนน่าสงสาร แต่ใครคนนั้นก็เคยทำสิ่งเลวร้ายมาก่อน ช่ายมั้ยล่ะ?

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Sirens’

เหตุมันเริ่มต้นขึ้นเมื่อ เดวอน เดอวิตต์ (Meghann Fahy จากซีรีส์ ‘The White Lotus’) ได้รับกระเช้ากินได้จากน้องสาวที่ไม่ถูกกันและไม่ได้เจอกันมานาน เลยรีบข้ามทะเลมาหาน้องถึงบ้านคลิฟฟ์เฮ้าส์ คฤหาสน์บนหน้าผาที่สุดจะงดงาม

ที่นั่น เธอได้พบกับ ซิโมน เดอวิตต์ (Milly Alcock จากซีรีส์ ‘House of the Dragon’) น้องสาวที่มีชีวิตอันหรูหราเพราะได้ทำงานเป็นผู้ช่วยสาวของ มิเคล่า เคลล์ (Julianne Moore จากหนัง ‘May December’) ไฮโซสาวที่ซิโมนมองว่าเป็นเพื่อนและเรียกนางว่า กิกี้ นางเป็นเจ้าขององค์กรใหญ่ที่กำลังจะจัดงานเลี้ยงการกุศลเพื่อระดมทุนช่วยสัตว์ป่า ภายในงาน จะมีผู้ร่วมงานเป็นชนชั้นสูงที่มาพักร้อนกัน

เดวอน พี่สาวบุคลิกแข็งกระด้างที่เลิกเหล้ามา 6 เดือน มีพ่อที่เป็นโรคติดเหล้าและซึมเศร้า เธอตามมาเจอน้องสาวเพื่อหวังให้ช่วยดูแลพ่อ ส่วนซิโมน น้องสาวผู้ทิ้งตัวตนเดิมหมดสิ้นเพื่อใช้ชีวิตใหม่กับครอบครัวไฮโซ แต่ที่จริงเธอแอบคบหากับกิ๊กหน้าร้อนอย่าง อีธาน คอร์บิน (Glenn Howerton จากซีรีส์ ‘Velma’) เพื่อนของปีเตอร์ (Kevin Bacon จากหนัง ‘MaXXXine’) ผู้เป็นสามีของมิเคล่า

หลังจากนี้ ก็เป็นเวลาแห่งความยุ่งเหยิง เมื่อพี่สาวคนแรงเข้าบ้านใหญ่ไฮโซที่น้องสาวทำงานอยู่ พร้อมเรื่องราวมากมายที่ถูกซุกซ่อนปิดบัง

รีวิวซีรีส์ ‘เล่ห์เสน่ห์ร้าย’

ตอนเริ่มต้น อาจยังไม่ค่อยเก็ตกับทิศทางของซีรีส์มากสักเท่าไหร่ จึงได้พบว่ามันน่าจะเป็นซีรีส์ที่มีเรื่องเซ็กซ์ผสมอยู่ในหลายอณู เล่าเรื่องของพี่น้องที่แตกต่างกันทุกอย่าง ห่างเหินกันไปนาน แต่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่เดียวกัน มันน่าจะเป็นอย่างนั้นนะ แต่เมื่อดูไปเรื่อย ๆ มันก็ชักจะไม่ใช่ มันกลับกลายเป็นซีรีส์ที่มีเรื่องชนชั้น ความรวยจน รวมถึงพฤติกรรมของคนไปซะอย่างนั้น

เราจะได้รู้จักกับ ซิโมน คนน้องที่ทิ้งอดีตอันเลวร้าย เพื่อมาเป็นคนใหม่ในบ้านหลังโต มาทำงานเป็นผู้ช่วยของมิเคล่า ได้ใช้ชีวิตที่ดูหรูหราฟู่ฟ่า ลบรอยสักที่เคยสักคู่กับพี่สาว ไม่ให้ใครล่วงรู้ว่าเธอเกิดที่บัฟฟาโล่ รวมทั้งไม่เคยบอกใครว่าเธอมีพี่สาวและชีวิตวัยเด็กน่าหดหู่เยี่ยงไร จนวันที่พี่สาวบุกมาถึงคฤหาสน์คลิฟฟ์เฮ้าส์เนี่ยแหละ เรื่องทั้งหมดจึงแดงขึ้นมา

ขณะที่ เดวอน ที่ทำงานอยู่ในร้านอาหารกับเพื่อนที่ชื่อ เรย์มอนด์ (Josh Segarra) เธอใช้ชีวิตค่อนข้างเหลวแหลก มีเซ็กซ์กับผู้ชายไปเรื่อย ขนาดเรย์มอนด์มีแฟนแล้ว เธอก็ยังมีอะไรด้วยเลย การมาถึงนี่ก็เช่นกัน ยังมีชายอีกสองคนที่เธอมีความสัมพันธ์ทางกาย เรื่องเบื้องหลังที่เราได้รู้คือ เธอเคยติดเหล้าและเลิกไปแล้ว 6 เดือน เธอต้องดูแลพ่อที่ติดเหล้าและเป็นซึมเศร้า หลงลืมเลอะเลือน และพยายามจะให้ซิโมนกลับมาช่วยเลี้ยงดูบ้าง

แต่การกลับมาเจอกันครั้งนี้ ก็เปิดเผยความจริงอีกหลายอย่างระหว่างสองพี่น้อง บาดแผลที่ติดอยู่ในใจของน้องสาว ผู้ไม่เคยกลับบ้านมานาน กับพี่สาวที่พร่ำบอกว่า ที่น้องมีวันนี้ก็เพราะการเสียสละของเธอ และที่วันนี้เธอยังทำตัวเหลวแหลกก็เพราะเกลียดตัวเอง

ที่จริง เรื่องเบื้องหลังของ 2 พี่น้องสกุลเดอวิตต์ยังมีมากกว่านี้ แต่เล่าไปก็คงไม่ต้องดูซีรีส์ด้วยตัวเองกันพอดี

เอาจริงๆ ซีรีส์ 5 ตอนเรื่องนี้ มันคือ การฟาดฟันบทบาทกันระหว่าง 3 ตัวละครหญิงนั่นแหละ เดวอนที่มีชีวิตแบบคนธรรมดา ปากกัดตีนถีบมาโดยตลอด วันนี้ เธอได้ลองใช้ชีวิตหรูหราดูบ้าง แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นตลอดไป เพราะเรื่องราวมันผกผันกันได้ตลอด

ซิโมนที่เคยคิดจะเป็นทนายความ แต่แล้วชีวิตก็หักเห เธอกลายเป็นคนใช้ของคนรวย อยู่ในบ้านที่ภรรยากลายเป็นเจ้าลัทธิ อาศัยในคฤหาสน์ใหญ่ติดหาดแต่มีเหวคั่น จัดงานสังสรรค์ระดมทุกเพื่อชีวิตสัตว์ป่า และมีความสุขอยู่กับเลี้ยงเหยี่ยวเพเรกริน แต่สามีของเธอสิ เขาคือเจ้าของบ้านตัวจริง ที่แปรเปลี่ยนชีวิตของมิเคล่าชนิดพลิกฝ่ามือ

อันที่จริง ก็มีอีกหลายตัวละครที่ได้บทสำคัญในสมการนี้ ไม่ว่าจะเป็น จอร์แดน (Trevor Salter) หนุ่มหล่อกัปตันเรือยอชต์ที่ชวนเดวอนไปนั่งเล่น ส่วนบรูซ (Bill Camp จากหนัง ‘News of the World’) เขาเป็นพ่อของสองสาว ที่ค่อนข้างเลอะเลือนตอนอยู่บ้าน แต่ปุบปับก็พูดคุยได้เหมือนคนปกติขึ้นมาซะงั้น แล้วก็ยังมี โฮเซ่ (Felix Solis) หนุ่มหนวดเชื้อสายละตินที่ช่วยงานทุกอย่างตั้งแต่ขนของ ขับรถ ไปจนถึงการดูแลความปลอดภัยภายในคฤหาสน์ จริงๆ เขาทำงานเป็นฝ่ายดูแลอาคารสถานที่ แต่บทบาทของเขาก็พาให้เรื่องพลิกผันได้เหมือนกัน

บทซีรีส์อาจชวนให้รำพึง “อะไรวะเนี่ย?” อย่างมากๆ ขณะเดียวกัน ก็สร้างความอึ้งให้คนดูเผลอร้อง “อ้าว!” ได้ทุกนาที เหมือนเอาชีวิตจริงของคนหลายคนมาสร้างเป็นตัวละคร ทั้งรวมเอาเรื่องราววุ่นวายจับมาใส่แล้วขยำมันด้วยกัน อะไรที่ไม่คาดคิดมักจะเกิดขึ้น แม้บางคนบอกว่าบทแย่แต่คิดไปอีกที มันกลับกลายเป็นซีรีส์ที่ดูสนุกอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะแทบจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลย

แต่ละคนมีความลับที่พร้อมจะถูกอีกคนเปิดโปง แต่ละคนมีเบื้องหลังที่ผลักดันให้เลือกดำเนินชีวิตที่แตกต่างกัน คนร่ำรวยที่เราเห็นอยู่ตอนนี้ อาจไม่ใช่คนที่เรานึกฝัน คนที่ทำดีกับเราในวันนี้อาจเลวร้ายกับเราในวันหน้า ถ้าสถานะของเขาแปรเปลี่ยนไป การกระทำของเขาก็ย่อมเปลี่ยนไปด้วย

ผู้หญิงบางคนแสวงหาความร่ำรวยด้วยการแต่งงาน เลื่อนขั้นตัวเองไปอีกระดับ ก่อนจะทำอะไรที่เลวร้ายกับคนแบบที่ตนเคยเป็นมาก่อน อีกคนที่มองเห็นแบบนั้น พอถึงเวลาก็ทำตัวไม่ได้แตกต่างกัน ฝ่ายชายก็เลวร้ายไม่แพ้กันเพราะดันไม่สามารถควบคุมตัณหาภายในได้ เผลอไผลไปกับความสวยงามจนกลายเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา และอะไรต่อมิอะไรที่สาธยายได้ไม่หมด

บทสนทนาระหว่างพี่กับน้องล้วนมีแต่สาระของชีวิต ต่างคนต่างมีบาดแผลในใจและมีเหตุผลในแต่ละการกระทำของตนเอง เช่นเดียวกันกับ บทสนทนาของสามีผู้เป็นเจ้าของบ้านกับพ่อของสองพี่น้อง

ครึ่งค่อนเรื่องแรก อาจเหมือนการโหมโรง สู่บทที่เร่งความเร็วเต็มสปีดในครึ่งหลัง ขณะที่ยิ่งดูไปก็พบว่า ชีวิตของสองพี่น้องนั้นน่าสงสารมาก จนเข้าใจแหละว่าต่างคนต่างคิดเห็นยังไง บทของมิเคล่าอีกเช่นกันที่เกือบจะเกลียดไปแล้วก็กลับโกรธไม่ลง บทของมันมีทั้งเรื่องเซ็กซ์ เรื่องฆ่าตัวตาย เรื่องชีวิตที่เบื้องหน้าอย่างเบื้องหลังอีกอย่าง จนยากจะตัดสินใครได้จากสิ่งที่มองเห็น

บทซีรีส์มันมีความบ้าบออยู่เหมือนกัน แต่ถ้าตัดเรื่องความเป็นไปได้ในโลกจริง ก็ต้องถือว่าเขียนมาได้สนุกดี และเชื่อว่ามีหลายคนที่ไม่ชอบตอนจบของเรื่องสักเท่าไหร่ แต่ว่านะ โลกนี้มันเป็นแบบนี้กันอยู่แล้วนี่นา

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์