รีวิวซีรีส์ Untamed ปมใจในป่าลึก | สืบคดีการตายลึกลับในป่าโยเซมิตี

บางที ปมในใจก็อาจผลักดันให้ออกไปสืบหาความจริง เรื่องราวของเจ้าหน้าที่พิเศษที่ยังคงทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไป ทำให้เขายังคงมุ่งมั่นอยู่กับพื้นที่เดิมเดิม งานเดิมเดิม เพื่อหวังปลดเปลื้องอะไรบางอย่าง ถูกบอกเล่าอยู่ในซีรีส์เรื่องนี้ ‘Untamed’ หรือชื่อไทย ‘ปมใจในป่าลึก’ ที่สตรีมฉายแบบพากย์ไทยทางเน็ตฟลิกซ์

คิดเห็นเช่นไรกับซีรีส์ดราม่าสุดระทึกเรื่องนี้?

เรื่องเล่าท่ามกลางทัศนียภาพอันสวยงามน่าตื่นตะลึงของอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี ซีรีส์ที่ผสมผสานทั้งฟีลลึกลับระทึกขวัญเมื่อเกิดเหตุตกหน้าผาของสาวนิรนาม ทำให้ตัวเอกต้องออกสืบหาความจริง ที่นำไปสู่การเปิดเผยเรื่องราวอดีตที่ฝังใจเขาเรื่อยมา ฟีลดราม่าจึงอบอวลอยู่กับเหตุอาชญากรรมในป่าลึก บทถูกเขียนมาอย่างดิบดีและน่าติดตาม

ได้พบหน้า Eric Bana อีกครั้ง กับหุ่มผอมเพรียวดูเหมือนกับการเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษที่ต้องทำงานในป่า เข้าคู่ได้ดีกับ Lily Santiago

เรื่องย่อซีรีส์ ‘Untamed’

เกิดเหตุหญิงนิรนามคนหนึ่งร่วงจากหน้าผาอันสูงชันในอุทยานแห่งชาติ Yosemite National Park ซึ่งนั่นเป็นเหตุให้ ไคล์ เทอร์เนอร์ (Eric Bana จากหนัง ‘Lone Survivor’ และ ‘Star Trek’) จนท.พิเศษหน่วยสืบสวนคดีขี้เหล้าเข้ามาสืบคดีนี้ร่วมกับ เนย่า วาสเกวซ (Lily Santiago จากซีรีส์ ‘La Brea’) เจ้าหน้าที่ป่าไม้ US Park Ranger หน้าใหม่ที่เพิ่งย้ายมาจากแอลเอ

ไคล์เป็นพ่อของลูกชายตัวน้อย เขาเลิกกับจิล (Rosemarie DeWitt จากหนัง ‘La La Land’ และซีรีส์​ ‘The Boys’) ภรรยาเก่าไปแล้วแต่ยังโทรหาเธออยู่แม้เธอจะมีสามีใหม่แล้วก็ตาม ด้านมิลช์ (William Smillie) เจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกคนก็มองว่าเขาเป็นพวกเข้าถึงยาก นั่นอาจเป็นเหตุให้เขาเลือกส่งหน้าใหม่อย่างเนย่าไปทำงานด้วยแทน

ไคล์ เทอร์เนอร์ต้องทำงานกับเชาเตอร์ (Sam Neill จากหนัง ‘Jurassic Park’) หัวหน้าทีมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ค่อนข้างสนิทกัน ขณะที่ก็ไม่ค่อยถูกชะตากับลอว์เรนซ์ (Joe Holt) ผู้อำนวยการอุทยานสักเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนยิ่งเขาสืบลึกเข้าไปก็ยิ่งเปิดแผลและเปิดเผยอดีตของตนเองขึ้นมา

รีวิวซีรีส์ ‘ปมใจในป่าลึก’

ผลงานจากผู้เขียนบทหนัง ‘The Revenant’ , ‘Twisters’ และซีรีส์ ‘American Primeval’ ที่เล่าเรื่องของไคล์ เทอร์เนอร์ เจ้าหน้าที่พิเศษที่ดูท่าทางเข้าถึงยาก แต่เขาก็เป็นคนที่รู้จักพื้นที่และชาญฉลาดในการสืบหาความจริง เกิดเหตุสลดที่สั่นสะเทือนต่อภาพลักษณ์ของอุทยานโยเซมิตีถึงขนาดที่ ผอ. เครียดหนัก กลัวคนไม่มาเที่ยว แต่เทอร์เนอร์ก็ยังคงมุ่งมั่นจะสืบคดีนี้ให้ได้

แม้มิลช์ไม่เอาด้วย ส่งหน้าใหม่ของเนย่าที่เพิ่งย้ายมาจากแอลเอ แต่เธอก็ดูจะไฟแรงไม่น้อย หลังร่วมงานกันได้สักพัก เหมือนเธอจะติดใจการสืบคดีในป่าอันกว้างใหญ่แห่งนี้มากขึ้น ขณะที่ต่างคนต่างก็พกพาปัญหาส่วนตัวเข้าไปในป่าด้วยเสมอ

ไคล์ยังคงเจ็บปวดกับความสูญเสียเคเลบ เขายังคงมองเห็นลูกชายอยู่เคียงข้างเขาเสมอมา ทั้งที่เคเลบนั้นตายไปแล้ว อันบ่งบกจิตใจที่เจ็บปวดของเขาได้เป็นอย่างดี ขณะที่เนย่า เธอก็เป็นแม่ของลูกชายตัวน้อยวัย 4 ขวบที่หลบลี้มาจากสามีผู้ชอบใช้ความรุนแรง

จิลล์ เมียเก่าของไคล์ ตอนนี้ ก็แต่งงานใหม่กับสกอตต์ หมอฟันที่เคยทำครอบฟันให้กับไคล์ แต่เพราะความเจ็บปวดจากความสูญเสียที่มีร่วมกัน ทำให้เธอยังห่วงใยไคล์อยู่มาก สกอตต์ก็ดูจะเข้าใจในข้อนี้ ยอมให้เมียกลับมาประคับประคองจิตใจสามีเก่าได้

ฟังดูเหมือนเป็นซีรีส์ที่ค่อนข้างขับเน้นพาร์ทดราม่า แต่ที่จริง มันจัดวางไว้ให้พาร์ทระทึกขวัญและดราม่านั้นมีความสำคัญพอ ๆ กัน โดยมีอาชญากรรมและปมลึกลับเข้ามามีส่วนในการดำเนินเรื่อง พาให้ผู้ชมต้องจดจ่อติดตามว่า ตกลงแล้วผู้หญิงนิรนามคนนี้ เธอคือใครและตายด้วยสาเหตุอะไร และที่สำคัญ มันเกิดอะไรขึ้นในอดีตบ้าง ซึ่งบทของซีรีส์ 6 ตอนนี้ พยายามจะเก็บงำไว้อย่างมิดชิด กว่าคนดูจะถึงบางอ้อ ก็ต้องผ่านมาถึงตอนสุดท้ายของเรื่อง

บทของมันมีตัวละครมากมาย บางตัวชวนให้สงสัยในระหว่างทาง ไม่ว่าจะเป็น เชน แมกไกวร์ (Wilson Bethel) เจ้าหน้าที่คนที่คอยคุมจำนวนสัตว์ป่า, หนุ่มอินเดียนแดงที่สนิทกับไคล์ รวมไปทั้งเหล่าคนเร่ร่อนที่บุกรุกอุทยาน นอกจากนี้ บทซีรีส์ก็ยังเล่าถึงว่า เหตุการตายอย่างลึกลับนี้พัวพันกับยาเสพติดที่กำลังระบาดอยู่ในแถบอุทยาน

ร่องรอยที่คนดูได้รับจากหญิงนิรนามที่ตกผาเอล แคปิตันอันเลื่องลือนั้น มีทั้งรอยสักด้วยสีทองคำรูปกากบาท รอยแกะสลักอักขระพื้นเมืองบนไม้ รอยปืนและกระสุนในป่า รวมถึงกระปุกยาสีเหลืองที่มีกากบาทสีขาวบนฝา พาเราสงสัยว่า มันเกิดอะไรขึ้นในป่าที่โคตรจะสวยงามและกว้างใหญ่แห่งนี้

แน่นอน คนดูจะได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันสวยสดงดงามเกินบรรยาของอุทยานแห่งชาติโยเซมิตีที่เคยเป็นวอลเปเปอร์ในแมคสักรุ่นนึง และจะได้เห็นบ่อยจนรู้สึกอยากจะได้ไปเยือนสักครั้ง แม้มันจะเป็นได้แค่ความอยากที่ยากจะเป็นจริงก็ตาม

เรื่องราวดูคล้ายจะจบลงอย่างรวดเร็วหลังเริ่มต้นตอนที่ 6 ไปไม่นาน แต่ก็กลับได้พบว่า บทยังคงไปต่อด้วยการพยายามจะตอบคำถามที่มีในใจคนดูอย่างเต็มกำลังเพื่อไม่ให้เหลือค้างคา ตัวละครเอกจึงต้องเดินทางคุ้ยหาความจริงที่ถูกปกปิดนานปีจนหมดและหายข้องใจ อาจทำให้ความร้อนแรงที่ต่อเนื่องมาหลายตอนดูแผ่วลง แต่ก็ช่วยตอบคำถามได้มากเช่นกัน

รายละเอียดเกี่ยวกับซีรีส์