จะว่าไป ปี 2558 ผ่านมาสามเดือนเข้าไปแล้ว ต้องเรียกได้ว่าผมดูหนังไทยน้อยมากๆ แต่วันนี้ ผมเพิ่งได้หนังไทยอีกเรื่องหนึ่งของปีไป เป็นเหมือนหนังไทยฟอร์มเล็กๆ ที่เป็นม้านอกสายตาของใครต่อใคร แต่ไปๆ มาๆ มันกลับกลายเป็นหนังที่ได้ใจใครต่อใครที่ผมรู้จักและไม่รู้จักไปค่อนข้างมาก ใช่แล้ว ผมกำลังพูดถึง ‘2538 อัลเทอร์มาจีบ’ หนังไทยที่พาเราย้อนสู่ยุคที่เพลงอัลเทอร์เนทีฟครองเมือง
เราเคยมีหนังที่พาเราย้อนวัยกลับไปสู่วัยเด็กมาแล้ว แต่เรายังขาดหนังที่พาเราย้อนไปสู่วัยรุ่น ช่วงนั้นความทรงจำมันเยอะมากๆ มันมาพร้อมๆ กับเรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ โดยเฉพาะเรื่องราวความรักและเสียงเพลง ซึ่งหนังไทยเรื่องนี้จะพาเรากลับไปสู่ยุคนั้น
รีวิวหนัง ‘2538 อัลเทอร์มาจีบ’
ผลงานการกำกับของ เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร ที่ดึงเอานักแสดงหน้าใหม่อย่าง เนตั้น-แดนอรุณ รามณรงค์ มาเล่นเป็น ก้อง เด็กหนุ่มลูกของพ่อแม่ที่ระหองระแหงกันแต่เรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง แต่ในวันที่เขายังไม่ทันเข้าใจอะไรมากนัก ตู้โทรศัพท์หน้าบ้านก็พาเขาย้อนกลับไปสู่อดีตในปี 2538 วันที่เพลงอัลเทอร์เนทีฟกำลังกลายเป็นคลื่นลูกใหญ่ของวงการเพลงไทย
ก้องได้กลับไปเจอกับพ่อและแม่ในช่วงที่ยังเรียนอยู่ เขารู้ในทันทีว่า ปัญหาที่จะยังค้างคามาถึงอนาคตนั้น ควรได้การสะสางให้หมดสิ้นในโอกาสที่เขาได้มาอยู่ในช่วงเวลานี้ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาได้รู้จักกับ ส้ม (ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์) เด็กสาวที่คอยตามพ่อในอนาคตของเขาอยู่ไม่ห่าง สิ่งที่เขาต้องทำคือกันเธอออกไป
ด้วยการสร้างความสัมพันธ์นั้นขึ้นมาเอง
ดูหนังจะมีความพยายามในการหาพร็อบของยุคนั้นมาในหนัง ทั้งสิ่งแวดล้อม อาคาร เสื้อผ้า คำพูดคำจา และโดยเฉพาะสิ่งของที่คนในยุคนั้นเขาใช้กัน กิมมิกเล็กๆ น้อยๆ ถูกแทรกใส่อยู่เต็มพื้นที่หนัง ไม่ว่าจะเป็นการแอบทำลายแก็ตเจดยุคใหม่อย่างไอโฟน และขุดเอาแก็ตเจดยุคเก่าขึ้นมาใช้ไม่ว่าจะเป็น เทปคาสเส็ต ซาวด์อะเบาต์ เพจเจอร์ โทรศัพท์บ้าน ตู้สติกเกอร์ หรือแม้แต่ทามาก็อต หนังเลือกจะขุดเพลงดังยุคนั้นมาใช้เพื่อสอดรับกับเรื่องราว ใครจดจำทุกเพลงได้ทั้งหมด เขาคือคนที่ผ่านยุคนั้นมาอย่างแท้จริง
ซึ่งหากเป็นคนพวกนั้น ก็อาจจะเห็นจุดเล็กจุดน้อยที่ทีมงานผิดพลาดไปบ้าง
‘2538 Alter-Ma-Jeeb’ ดูเป็นหนังที่ไม่ได้เล่าด้วยพล็อตอะไรที่แปลกใหม่ สิ่งที่เล่านั้นเป็นเรื่องง่ายๆ แต่การหยิบเอาบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของ ‘อัลเทอร์เนทีฟ’ บอกเล่ามันออกมาได้จังหวะเหมาะเจาะ มันส่งเสริมให้คนดูรู้สึกดีกับหนังได้อย่างมาก โดยเฉพาะกับคนที่ผ่านยุคนั้นมาด้วยตัวของพวกเขาเอง
ไม่เน้นมุกตลกตลอดเวลาแต่เลือกที่จะให้เราได้ฮากันเป็นพักๆ เป็นเรื่องดีที่ทำให้เราได้ติดตามเรื่องราวในด้านที่เป็นจริงเป็นจังมากกว่าจะตลกไปวันๆ ไม่เพียงหนังจะพาเราย้อนวัยแล้ว มันยังพาเราไปย้อนคิดถึงยุคสมัยปัจจุบันเรามีอะไรที่รวดเร็วนั้น มันทำให้เราซึมซับและอดทนรออะไรน้อยลงไปหรือเปล่า มันทำให้เรามองเห็นในสิ่งที่มันเป็นจริงๆ หรือ ระหว่างการสื่อสารกันผ่านทางข้อความ กับการพูดคุยแบบเห็นหน้ากัน
อะไรที่มันสื่อสารได้ถูกต้องมากกว่า
จุดที่สำคัญมากๆ ของหนังก็คือ การเลือกเอานักแสดงที่มีพลังมากพอจะดึงดูดทั้งสายตาและมีความสามารถที่จะพาให้คนดูคล้อยตาม ซึ่งพวกเขาได้เลือก “ใบเฟิร์น” และมันเป็นตัวเลือกที่ถูกต้อง เธอทำให้เราน้ำตาซึมไปกับเธอได้ เพราะถึงแม้เราจะพบว่า เนตั้น จะดูแข็งๆ ไปบ้างกับบทพระเอก สำเนียงพูดจาอาจจะดูคล้ายพระเอกคนนั้นคนนี้ หรืออย่าง อิงค์ อชิตะ ที่เล่นเป็นพ่อของก้องได้อย่างประดักประเดิด
แต่องค์รวมของหนังมันน่าประทับใจยิ่งกว่าหนังที่องค์ประกอบสมบูรณ์พร้อมเสียอีก
ชื่อภาพยนตร์: 2538 อัลเทอร์มาจีบ / 2538 Alter-Ma-Jeeb / Altermajibe
ผู้กำกับภาพยนตร์: เสือ-ยรรยง คุรุอังกูร
ผู้เขียนบทภาพยนตร์:
นักแสดงนำ: ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือพิเศษไพบูลย์, เนตั้น-แดนอรุณ รามณรงค์, แวน-ชนินทร จิตปรีดา, โฟน-ชลกาญจน์ พวงน้อย, อิงค์-อชิตะ ปราโมช ณ อยุธยา, วิชุดา พินดั้ม
ความยาว: 112 นาที
แนว/ประเภท: Comedy, Romance
อัตราส่วนภาพ:
เรท: ไทย/ , MPAA/
ประเทศ: ไทย
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 19 มีนาคม 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Mono Pictures
1 คอมเมนต์