ถ้าชีวิตของหญิงพิการคนๆ หนึ่งจะสะดุดความสนใจของชายสักคนจนเขาเข้ามาโอบอุ้ม ความสัมพันธ์ที่ขยายกลับกลายเป็นความรักแบบนั้น เรื่องราวของมันจะถูกหยิบมาเล่าได้น่าสนใจเพียงใด วันนี้ เราจะพาคุณไปรู้จักกับหนังที่ชื่อเรื่องว่า ‘Josée’ หนังที่รีเมกจากหนังญี่ปุ่น และเล่าเรื่องราวที่ว่ามานั้นจากมุมมองของคนเกาหลี
ภาพยนต์เกาหลีที่รีเมกมาจากภาพยนตร์ญี่ปุ่น Josee, the Tiger and the Fish ซึ่งที่จริง มันก็หยิบมาจากนิยายรักขนาดสั้นเรื่อง Joze to Tora to Sakana-tachi ของ Seiko Tanabe อีกที ได้ข่าวว่า เวอร์ชันญี่ปุ่นเป็นหนังที่ได้รางวัล Hochi Film Awards ปี 2004 ในสาขานักแสดงนำชายด้วย มีเวอร์ชันอะนิเมะด้วย แต่น่าเสียดายที่เวอร์ชันนั้น ผมยังไม่ได้ดู
เอาเป็นว่า เรามาพูดถึงเวอร์ชันเกาหลีที่เข้าไทยปลายปี 2020 นี่ก่อนก็แล้วกันเนอะ
เรื่องย่อหนัง Josée
ในวันหนึ่ง เรื่องราวของเขาและเธอได้เริ่มต้นขึ้น วันนั้น โชคชะตาหรือว่าอะไรก็ไม่รู้ที่พาคนทั้งสองมาพบกัน
หญิงสาวพิการขา โจเซ่ (Han Ji Min/ฮันจีมิน จากซีรีส์เรื่อง ‘One Spring Night’, ‘Rooftop Prince’ และ ‘The Light in Your Eyes’ ) ประสบอุบัติเหตุบนถนนและมีเด็กหนุ่มใจดีเข้ามาช่วย พยุงเธอขึ้นมา ก่อนจะพบว่ารถเข็นของเธอนั้นพังเสียแล้ว สุดท้าย เขาคือคนที่เช่ารถเข็นของจากป้าที่อยู่แถวบ้านและลากมันพาเธอไปส่งบ้าน เธอทำอาหารเลี้ยงเขาเป็นการตอบแทน จากนั้นเขาก็กลับไป
ทุกอย่างน่าจะจบลง แต่มันไม่ได้จบเพียงเท่านั้น
โลกของโจเซ่มีเพียงคุณยายกับหนังสือ ด้วยความที่เป็นคนพิการ ทำให้เธอท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆ ด้วยหนังสือที่เธออ่าน
ชายหนุ่มคนนั้น ยองซอก/Young-Seok (Nam Joo Hyuk/นัมจูฮยอก จากซีรีส์เรื่อง ‘The Light in Your Eyes’, ‘Start-Up’ และ ‘The Bride of Habaek’) เขาเป็นเพียงนักศึกษาในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง การพบกันครั้งแรกที่ไม่คิดว่าจะมีครั้งต่อๆ มานั้น กลับเป็นความสัมพันธ์ที่จะแนบสนิทอยู่ในใจไม่มีวันลืม
รีวิวหนัง ‘โจเซ่’
นัมจูฮยอก และ ฮันจีมิน สองคนนี้ เคยพบกันมาแล้วในซีรีส์เกาหลีปี 2019 เรื่อง ‘The Light in Your Eyes ประกายจ้าในสายตาเธอ’ แต่ผมรู้จักเขาทั้งสองจากเรื่องอื่น นัมจูฮยอกเป็นพระเอกในซีรีส์ ‘Start-Up’ ขณะที่ผมได้ดูซีรีส์ ‘One Spring Night’ ที่ฮันจีมินเล่นเป็นนางเอก จะบอกว่าเหตุที่ทำให้อยากดูหนังเรื่องนี้ พระนางก็มีส่วนด้วยประมาณหนึ่ง
ความสัมพันธ์ของสาวพิการกับนักศึกษาปีสุดท้าย
ผมได้ดูตัวอย่างของหนังที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของนักศึกษาปีสุดท้ายกับหญิงพิการที่รักการอ่านคู่นี้ แล้วทำให้อยากรู้เหมือนกันว่า หนังมันจะออกมายังไง หวานหรือเศร้า ชวนปาดน้ำตามากน้อยแค่ไหน สิ่งที่ทำได้คือการเดินเข้าโรงหนังไปดู
ชีวิตของสาวพิการขาต้องนั่งรถเข็น แถมยังเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร วันๆ อยู่กับ หนังสือที่เธออ่านขวดเหล้าที่เธอเก็บสะสม ชีวิตของเธอดำเนินไปในบ้านหลังเล็กๆ ที่เก่าและเริ่มทรุดโทรม คุณยายดำรงชีพด้วยการเก็บของเก่าขาย ส่วนอาหารการกินในบ้านนั้นเธอเป็นคนทำ
ความบังเอิญที่ทำให้ซองยอกและโจเซ่ได้เจอกัน และเพราะความมีจิตใจดีของซองยอกที่ทำให้เขาเลือกเข้าไปช่วยเหลือโจเซ่ในวันนั้น ทำให้ทุกอย่างมันเริ่มต้นขึ้น แต่ใครจะคิดว่า นั่นจะเป็นเพราะโชคชะตา
ไม่ช้าไม่นาน เขาก็ได้พบกับเธออีกครั้ง และอีกครั้ง จนมันเริ่มจะลึกซึ้งขึ้นทุกที
หญิงชายที่ดูไม่ค่อยเข้ากันนักในบางจุด แต่ต่างก็เติมเต็มให้กันได้ในบางส่วน ในระหว่างความสัมพันธ์ก็รู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกั้นกลาง มันคลุมเครือหม่นมัวที่ซองยอกเองก็อาจจะรู้สึกไม่เข้าใจ บุคลิกอันแปลกแยกไม่เหมือนใครของโจเซ่หญิงสาวที่ค่อนข้างเก็บตัวคนนี้ เหมือนเธอจะเก็บงำความจริงบางอย่างเอาไว้ สิ่งที่เธอออกจากปาก สิ่งที่เธอคิดและจินตนาการไปไกล สิ่งไหนที่ใช่ความจริง
บวกกับชีวิตที่เขาเองได้พบเจอ ชีวิตของนักศึกษาที่เปลี่ยนผ่านกลายเป็นคนทำงานประจำ ทั้งอาจารย์ที่เคยสอน ทั้งเพื่อนที่เคยเรียนมาด้วยกัน ทุกอย่างที่ผสานรวมกันเป็นเรื่องราวแวดล้อมที่ชักพาให้ความสัมพันธ์ของคนทั้งสองดำเนินมาถึงตอนสุดท้ายของหนัง
แม้ตรงนั้นก็ยังดูคลุมเครือ ถึงเราจะเข้าใจสิ่งที่เกิดแต่ก็อาจไม่เข้าใจในเหตุผล
ไม่ใช่รักหวาน แต่ชวนรู้สึกขมขื่น
สิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชมก็คือ งานถ่ายภาพที่สวยงาม โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ไม่มีคน มองเห็นความเหงาเปล่าเปลี่ยวที่อบอวลอยู่ในนั้น ภาพในบ้านของโจเซ่ที่มืดทึม อาจไม่ต่างกับจิตใจของคนในบ้านหลังนั้น ขณะที่ นัมจูฮยอกและฮันจีมิน ต่างก็แสดงบทบาทออกมาได้ดี เพียงแต่เรื่องราวในช่วงท้ายๆ อาจจะชวนเข้าใจตัวละครได้ยากนิดนึง
หนังรักเรื่องนี้จึงไม่ใช่หนังที่จะรู้สึกหวานละมุน แต่เป็นหนังที่เดินเรื่องอย่างเนิบช้า ให้อารมณ์ที่คล้ายกันไปเกือบทั้งเรื่อง เหมือนความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ เริ่มเกิด เริ่มพัฒนา ในทุกครั้งที่พวกเขาเจอกัน รสชาติของหนังแปรเปลี่ยนไปตามเวลาที่มันเดินไปถึง
จากแรกที่มันดูเฝื่อนๆ เพราะสองคนยังดูมีระยะห่างระหว่างกัน กลางเรื่องมันค่อยๆ อบอุ่นเมื่อสองคนใกล้ชิดและเปิดเผยความรู้สึกต่อกัน ก่อนที่ช่วงปลายมันทั้งเหน็บหนาวและขมขื่นอีกครั้ง
ช่วงเครดิตปิดท้ายหนัง หลายคงน่าจะคุ้นกับเสียงคนร้อง เพราะนั่นเป็นเสียงของ IU เองครับ
สิ่งที่ได้จากหนังเรื่องนี้…
ในความรู้สึกของผม โจเซ่ เป็นหนังที่จะทำให้คนดูหิวได้ตลอดเวลา เพราะอาหารจะมาในทุกครั้งที่ยองซอกพบเจอกับโจเซ่ แม้แต่ตอนที่ซองยอกไปพบเจอกับคนอื่น เขาก็ยังได้กินอาหาร ถ้าไม่ได้กินอะไรไปก่อนเข้าโรงหนัง รับรองต้องมีได้ยินท้องร้องของตัวเองเป็นแน่
อีกส่วนหนึ่ง ก็คือ หนังเรื่องนี้พูดถึงคนที่อยู่อีกด้านของสังคม เป็นด้านที่คนส่วนใหญ่อาจไม่มอง มองไม่เห็น หรือไม่ได้สนใจ ไม่ใช่แค่โจเซ่ที่เป็นสาวพิการขาต้องนั่งรถเข็นที่ถูกเล่าถึงในหนัง ยังมีคุณยายที่อาศัยอยู่ด้วยกันกับเธอที่ดำรงชีวิตด้วยการเก็บขยะขาย
มีบางมุมในหนังที่เล่าคือ เสือโคร่ง และ ปลา มันมุมที่ดูแปลกดี ชวนสนใจว่าในเวอร์ชันญี่ปุ่นที่นำสัตว์สองชนิดนี้เข้าไปอยู่ในชื่อเรื่องด้วย มันจะเล่าเอาไว้แตกต่างจากเวอร์ชันนี้ยังไง
อีกอย่างคือมันมีเวอร์ชันไลท์โนเวลด้วยนะ ลองซื้อหามาอ่านดูสิ
ภาพยนตร์เรื่อง: โจเซ่ / Josée / 조제
ผู้กำกับภาพยนตร์: Kim Jong Kwan/คิมจงกวาน
ผู้เขียนบท: Kim Jong Kwan/คิมจงกวาน
นักแสดง: Han Ji Min/ฮันจีมิน, Nam Joo Hyuk/นัมจูฮยอก
ดนตรีประกอบ: N/A
ความยาว: 117 นาที
ปี: 2020
แนว/ประเภท: Drama, Romance
อัตราส่วนภาพ: N/A
ประเทศ: เกาหลีใต้
เรท: ไทย/-, MPAA/-
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: รอบพิเศษ 26 – 27 ธันวาคม เข้าฉายจริง 30 ธันวาคม 2020
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Warner Bros. Korea, Vol. Media, K-Movie Entertianment, ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น
โจเซ่
บทและพล็อต - 7
การแสดง - 7.3
เพลง/ดนตรีประกอบ - 7
การดำเนินเรื่อง - 6.9
งานภาพ - 7.6
7.2
Josée / 조제
เรื่องราวหญิงสาวพิการนั่งรถเข็นขี้มโนกับชายหนุ่มนักศึกษาปีสุดท้าย ความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นและค่อยๆ เติบโต หญิงชายที่ดูไม่ค่อยเข้ากันนักในบางจุด แต่ต่างก็เติมเต็มให้กันได้ในบางส่วน หนังถ่ายภาพสวย แต่เดินเรื่องเนิบช้า เผยให้เห็นความสัมพันธ์แต่อาจเล่าไม่หมดจดจนชวนสงสัยในบางจุด ให้ความรู้สึกหมือนจิบวิสกี้ที่ขมในทีแรก รู้สึกอุ่นขึ้นระหว่างจิบสักพัก และกลับรู้สึกขมอีกครั้งเมื่อมันหมดขวดแล้ว