
ในวันที่ใจอยากเข้าโรงหนังใจจะขาด พลาดหนังไปหลายเรื่อง ดูหนังหลังชาวบ้าน เสาร์นี้จึงต้องหาเรื่องเดินเข้าโรงหนังให้จงได้ พบว่า ช่วงนี้ ตัวผมเองดูหนังไทยถี่ขึ้น ถ้าจะพูดอีกนัย ก็อาจจะพูดได้ว่า หนังไทยที่ออกมาในช่วงนี้ มันมีหนังที่ตัวผมเองรู้สึกว่า “น่าดู” หลายเรื่องมากขึ้นนั่นเอง
แน่นอนว่า จั่วหัวขึ้นมาเสียขนาดนี้ คงเป็นเรื่องอื่นไปไม่ได้ นอกจาก ‘ชั่วฟ้าดินสลาย’ ของ ม.ล. พันธุ์เทวนพ เทวกุล นั่นเอง
เมื่องานเขียนอมตะของ มาลัย ชูพินิจ หรือ เรียมเอง ได้ถูกนำมาถ่ายทอดอีกครั้งในแบบฉบับภาพยนตร์ โดยหม่อมน้อย บุคคลที่ทั้งวงการให้ความเชื่อถือ ภาพยนตร์ไทยแนวดราม่าย้อนยุคจึงได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมด้วยความละเอียดละเมียดในการถ่ายทำ และเล่าเรื่อง ด้วยโครงสร้างที่แข็งแรงอยู่แล้ว และองค์ประกอบที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีความสมบูรณ์อยู่ในตัว ทำให้ผมไม่กล้าที่จะพลาดชมหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์
ขณะที่บางคน อาจได้รู้จักเรื่องราวของมันมาแล้วในเวอร์ชั่นก่อนๆ แต่ผมต้องขอบอกว่า นี่เป็นเวอร์ชั่นแรกที่ผมได้รู้จักกับ “ชั่วฟ้าดินสลาย” หนังโศกนาฏกรรมความรักของคนสามคน ในดินแดนที่อยู่ใกล้กับเพื่อนบ้านอย่างพม่า ในช่วงเวลาของใกล้ผลัดใบของการปกครองในประเทศไทย
“ยุพดี” (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) ม่ายสาวพราวสเน่ห์วัย 20 ที่ได้พบกับ “พะโป้” (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) คหบดีม่ายชาวพะม่าในกรุงเทพพระมหานคร ด้วยหัวใจรักอิสระหรือต้องการหลุดจากกรอบของอะไรสักอย่าง เธอตามคหบดีที่แก่คราวพ่อมาอยู่กินแต่งงานกันอย่างไวว่อง จนได้มาพบหน้าป๊ะกันกับเจ้าหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว “ส่างหม่อง” (อนันดา เอเวอริงแฮม) ผู้เป็นหลานที่อาคนนี้รับเลี้ยงไว้ และรักเสมือนลูก โดยมีถ้อยคำหนึ่งที่สะกิดใจอยู่ในหัวเสมอมาว่า
“รักยุพดีให้เท่ากับที่รักอานะ”
คำพูดนี้ มีความหมายในใจผู้เป็นอาอย่างไร เราไม่รู้ แต่ในใจของส่างหม่อง ผู้ต้องใจในหญิงผู้นั้นแต่แรกพบ เขาอาจคิดไปอีกทางหนึ่งก็เป็นได้ แต่ความรักของหนุ่มกับสาวที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดมาก่อน ก็นำมาซึ่งความทุกข์ เมื่อเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองรู้ถึงหูของพะโป้จนได้ รักกันชั่วฟ้าดินสลายที่แสนโรแมนติกของหนุ่มสาว กลายเป็นความขมขื่น เพราะโซ่ตรวนที่ผูกทั้งสองติดกันไว้ตลอดเวลา
“ปล่อยให้หัวใจของเธอได้เป็นอิสระบ้างเถอะ อย่าได้ใช้สมองให้มันมากนักเลย”
อีกคำพูดที่เป็นหลุมพราง พาทั้งสองตกลงไปอย่างไม่มีวันปีนป่ายกลับขึ้นมาได้ ใช้หัวใจนำทาง อาจพาให้เราพบความสุข แต่ไม่ใช้สมอง อาจพาให้ความสุขอยู่ได้เพียงประเดี๋ยวประด๋าว การค้นพบว่า ตนเองต้องการสิ่งอันแหกกฎประเพณี ก็อาจได้พบอีกครั้งว่า ทำอย่างไรก็ไม่อาจหลุดจากกรอบทุกกรอบ พ้นกรอบนี้ก็อาจต้องเจอกรอบนั้นอยู่ดี
ใช้หัวใจแล้ว ก็ต้องใช้สมองด้วยนะ ผมว่า
แรกรัก อะไรก็คงสวยงามไปหมด แม้จะรู้ว่าผิดประเพณีและผิดในทางศีลธรรม แต่ความรัก คือ การไม่ครอบครอง และการดำรงอยู่ของความรัก ต้องมี “ที่ว่าง” ให้ลมพัดผ่านเบาๆ ระหว่างกัน พันธนาการที่ผูกทั้งสองไว้ตลอดเวลาแม้แต่ตอน “อุจจาระ” ย่อมผิดหลักของการครองคู่ และนั่นคือ จุดหลักที่พะโป้ใช้เล่นงานคนทรยศ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นอาวุธที่กลับมาทำร้ายตัวเองด้วย เพราะทั้งยุพดีและส่างหม่อง ต่างก็เป็นคนที่เขารักมากทั้งคู่นี่นา
รักที่ใช้หัวใจนำทาง มักพาไปพบความทุกข์นะ ผมว่า…
โดยส่วนตัว ผมเองไม่ค่อยได้ชมผลงานหนังไทยจากฝีมือคนรุ่นก่อนสักเท่าไหร่ ผมพบบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากหนังของคนรุ่นราวคราวเดียวกันมากพอดู หนังอาจดูเคร่งเครียด ทำให้โทนหนังดูแก่ไปสักนิด แต่สิ่งที่หนังสื่อสารนั้นหนักแน่น ให้แง่มุมและแง่คิดไปพร้อมๆ กัน ถ่ายภาพออกมาสวย หลายฉากนี่อึ้งทีเดียว เพราะสวยมาก แต่หลายฉากก็เห็นชัดว่า ฉากดูเป็นป่าน้อยไปนิด แถมเห็นลางๆ ว่าเป็นมอเตอร์ไซค์วิ่งบนถนน การถ่ายฉากย้อนยุคไกลๆ ในเวลาปัจจุบันนี่ ค่อนข้างยากในบางสถานการณ์แฮะ
สิ่งหนึ่งที่ตะขิดตะขวงใจอยู่บ้าง ก็คือ ยุพดีเดินป่า ใส่รองเท้าส้นสูงนี่มันเดินกันไหวเหรอครับ
หนังดำเนินเรื่องค่อนข้างฉับไวแต่ก็ไม่มากนัก บทค่อนข้างแข็งแรง นักแสดงเปี่ยมคุณภาพ แต่บางคนพูดจาไร้ “ร เรือ” ไปเยอะ ดำเนินเรื่องแบบเรียบเรื่อย มีกระเพื่อมบ้าง แต่กระเพื่อมน้อยๆ มีช็อตยาวๆ ให้ลุ้น มีฉากวับๆ แวมๆ นี่ก็ให้ลุ้นเช่นกัน แต่ทุกจุดที่เป็น “หัวนม” ถูกเซ็นเซอร์หมด ให้เห็นอย่างมากก็แค่ “ตูด” เท่านั้น ซึ่งไม่ได้ทำให้ง่วง แต่ตามเรื่องไปได้ตลอด หนังอาจไม่ได้ให้น้ำหนักลงไปมากพอ ที่จะให้คนดูเชื่อว่า ตัวละครในหนังนั้นรักกันมากมายเพียงใด และน่าเสียดายที่ช็อตเรียกน้ำตามีเพียงช็อตเดียวเท่านั้น…
จะมีขัดใจบ้าง ก็ตรงไดอะล็อกของฉากถัดๆ มาที่ต่อไม่สนิทกับฉากก่อนหน้า และบทพูดของ “ยุพดี” บางช่วงที่ดูตลกๆ นอกนั้น ถือว่า ทำได้ดีมากๆ ถือเป็นหนังไทยอีกเรื่องที่ควรค่าน่าไปดู
ชื่อภาพยนตร์: ชั่วฟ้าดินสลาย / Eternity
ผู้กำกับภาพยนตร์: ม.ล. พันธุ์เทวนพ เทวกุล
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: ม.ล. พันธุ์เทวนพ เทวกุล (ดัดแปลงจากบทประพันธ์ของ “เรียมเอง”)
นักแสดงนำ: อนันดา เอเวอริ่งแฮม, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์, เพ็ญเพชร เพ็ญกุล, ศักราช ฤกษ์ธำรงค์, ดารณีนุช โพธิปิติ
ประเภทภาพยนตร์: Drama
เพลงประกอบ : เพลงชั่วฟ้าดินสลาย ประพันธ์โดย ดร. แมนรัตน์ ศรีกรานนท์
ขับร้อง : เจนนิเฟอร์ คิ้ม
ความยาว: – นาที
เรท: น15+
วันที่เข้าฉาย: 16 กันยายน 2553
เครดิตภาพประกอบจาก: สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชันแนล
ภาพสวย ฉากสวย ชุดสวย บทสวย ตัวเอก3คน เล่นได้เยี่ยมมาก ดูแล้วอยากอ่านบทประพันธ์นี้เลย หนังเรื่องนี้ดูๆ ไปแล้วถ้าคิดตามจะได้แง่คิดเยอะมาก ฉากที่ดูเหมือนจะอนาจารแต่ด้วยเนื้องเรื่อง อารมณ์ ทำให้ดูเป็นศิลปะมากกว่าจะอนาจาร ได้ใจไปเต็มๆ ^^
เห็นเข้าโรงหนังแถวบ้านแล้ว ยังไม่มีโอกาสแวะเวียนเข้าไป รอแผ่นเหมือนเดิม กับอ่านบล็อกของลุงก็โอเคแล้วละ อิอิ