รีวิวหนัง Paper Towns เมืองกระดาษ | แล้วเธอก็หายไป

ครั้งหนึ่ง เราเคยได้อิ่มเอมสุขใจไปกับหนังโรแมนติกวัยรุ่นอย่าง ‘The Fault in Our Stars’ ผลงานของนักเขียนชื่อดัง John Green ในโรงกันมาแล้ว หนังที่ได้ทั้งยิ้มสุข เศร้าน้ำตาคลอ และเพลินไปกับเสียงเพลงเพราะๆ เรื่องนั้น มันทำให้เรารอคอยการมาหนังอีกเรื่องจากนักเขียนชื่อเดียวกัน คราวนี้มันเปลี่ยนมาในอีกทางหนึ่ง มันชื่อว่า ‘Paper Towns’ ที่มีแฟนหนังสือหลายคนตั้งตารอคอยจนการรอเกือบจะเป็นหมันกันไปแล้ว

แต่ในที่สุด ฟ้าก็เข้าข้างคนอย่างฉันที่ ‘เมืองกระดาษ’ ได้โอกาสกลับมาฉายในบ้านเราอีกครั้ง เรื่องราวที่ยังอยู่กับกลุ่มวัยรุ่นแต่หันไปพูดเรื่องวัยรุ่นที่กำลังค้นหาตัวเอง และค้นหาสิ่งที่ขาดหายไป โดยมีกิมมิกคือคำว่า “เมืองกระดาษ” ที่ดูจะมีการตีความออกได้เป็นสองฝักสองฝ่าย

วันนี้ ผมเดินทางเข้าโรงหนังเพื่อจะได้พบกับผลงานหนังจากหนังสือ ผลงานของผู้กำกับ Jake Schreier (Robot & Frank) ผู้ที่มีประสบการณ์และความช่ำชองในหน้าที่นี้ไม่มากนัก แต่ก็ดูเหมือนจะทำได้ค่อนข้างโอเคเลยทีเดียว เมื่อพาผู้ชมไปพบกับกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่เลือกจะขับรถออกไปด้วยกันเพื่อตามหาสาวน้อยมาร์โก้ (Cara Delevingne) ที่หายตัวไป

รีวิวหนัง ‘Paper Towns’

Nat Wolff ในบทบาทของเควนติน เด็กหนุ่มผู้มีความรักฝังใจมาตั้งแต่ครั้งยังหนุ่มน้อย เมื่อเขาได้พบว่าตัวเองได้มาอยู่บ้านตรงกันข้ามกับมาร์โก้ และเฝ้าคิดว่านั่นคือมันคือปาฏิหาริย์สำหรับตน แต่แล้วความห่างเหินก็มีมากขึ้นทุกที จวบจนวันหนึ่งที่มาร์โก้เข้ามาชักชวนให้เขาออกไปกับเธอ และทำในสิ่งที่เขาไม่เคยคิดทำมาก่อน

เธอเปิดใจให้เขาได้ลิ้มรสชาติของการผจญภัย และเขาก็เริ่มจะติดใจเสียแล้ว

แต่วันต่อมาเธอกลับหายไป แต่เหมือนทุกครั้ง เธอจะทิ้งร่องรอยเอาไว้เสมอ และเขาคือคนที่ตามติดร่องรอยเหล่านั้นจนได้คำตอบว่าเธออยู่ที่ไหน แล้วก็ได้เวลาออกเดินทางตามหาตัวเธอ และเขาก็ไม่ได้ไปตัวคนเดียว เพราะยังมีเพื่อนๆ ยกโขยงไปพร้อมกัน เป็นประสบการณ์แปลกใหม่ที่ต่างไม่มีใครเคยเจอะเจอ

หนังมันเหมือนจะพูดถึงเรื่องราวทางความรักและโรแมนติกระหว่างหนุ่มสาว แต่ไปๆ มาๆ เราพบว่า มันไม่ใช่เลยครับ หนังมันมีส่วนผสมของหนังหลายๆ แบบที่เข้ามารวมอยู่ด้วยกัน ทั้งความเป็นหนังวัยรุ่น หนังดราม่าโรแมนติกคอมิดี้ มีการขับรถออกไปด้วยกันกับกลุ่มเพื่อน นี่มันหนัง Road Movie นี่หว่า แถมมันยังเป็นหนังที่มีเรื่องการตามสืบหาจากเบาะแสและเงื่อนงำ นี่มัน Mystery ชัดๆ ลงท้าย เหมือนตัวเอกจะได้แง่คิดอะไรที่เปลี่ยนมุมมองไปจากต้นเรื่อง

นี่ก็ลักษณะของหนัง Coming-of-Age อย่างแน่นอน

แล้วเราก็ได้พบว่า เสียงหัวเราะมันดังออกมาจากตัวเราเป็นระยะๆ ก็เพราะว่ากลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้ เขาไม่ธรรมดาเหมือนกันนะคุณ

ระหว่างชม ‘Paper Towns’ พบว่า มันไม่ได้เป็นหนังที่ย่ำแย่อย่างที่ได้ยินได้ฟังมา หนังกลับดีกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก เมื่อเลือกที่จะพาเราเดินทางไกลไปพร้อมๆ กับผองเพื่อนที่เข้ามาร่วมสมทบด้วยอย่าง เบน (Austin Abrams) เพื่อนผมหยิกแสนเด๋อ, เลซีย์ (Halston Sage) สาวเซ็กซี่ผมบลอนด์ยาวที่เธอก็รู้สึกว่าตัวเองก็เพื่อนสนิทคนหนึ่งของมาร์โกเช่นกัน และคู่รักผิวสีหวานแหววอย่าง เรดาร์ (Justice Smith) กับแองเจล่า (Jaz Sinclair) ที่อยากจะร่วมเดินทางไปด้วย แม้จะห่วงงานพรอมที่พวกเขาต้องกลับมาให้ทันก็ตามที

เพื่อนทั้งหมดต่างผจญภัยไปพร้อมๆ กัน เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย ซึ่งอาจเป็นประสบการณ์ที่คุณต้องจดจำมันไปชั่วชีวิต นักแสดงวัยรุ่นทั้งกลุ่มถือว่าทำได้ดีเกินคาด ใครๆ เขาบอกว่าชอบนางเอกกันอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ผมกลับพบว่าเลซีย์เธอคือคนที่เซ็กซี่ที่สุด มีเสน่ห์ น่ามอง ตรึงสายตาเราเอาไว้ตลอดเวลาที่เธอปรากฏบนเฟรม

ขณะที่เราอาจไม่ประทับใจมากนักกับบทบาทการแสดงของ Cara Delevingne จึงทำให้มีอึ้งๆ ในบางช่วงเวลา ปิดท้ายหนังด้วยฟีลที่ทำให้เราหวนคิดถึงวันคืนเก่าของผองเพื่อน

หนังเอ่ยถึง ‘เมืองกระดาษ’ ในสองแง่มุม แง่มุมหนึ่งมันคือการมองเมืองที่ตนเองอยู่และเราเป็นส่วนหนึ่งในนั้น อีกแง่มุม มันคือความหมายของการมีเมืองที่ไม่มีอยู่จริง แต่อยู่เพียงในแผนที่เพื่อจุดประสงค์บางอย่างเท่านั้น อาจสื่ออะไรได้หลายๆ อย่าง อาจหมายถึง การที่เราเองก็เป็นแค่ “ความปลอม” ที่ยังไม่หลุดไปจากการทำอะไรแบบเดิมๆ หรือหมายถึงการค้นหาอะไรที่เราเองก็ยังไม่รู้ความหมายของมัน

บทสรุปที่ดี ทำให้หนังเรื่องนี้มีชัยไปกว่าครึ่ง

ชื่อภาพยนตร์: Paper Towns / เมืองกระดาษ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Jake Schreier
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: John Green (author), Scott Neustadter (screenplay), Michael H. Weber (screenplay)
นักแสดงนำ: Nat Wolff, Cara Delevingne, Austin Abrams, Justice Smith, Halston Sage, Jaz Sinclair
ความยาว: 109 นาที
แนว/ประเภท: Drama, Mystery, Romance
อัตราส่วนภาพ: 2.35 : 1
เรท: ไทย/, MPAA/PG-13
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 27 สิงหาคม 2558
สตูดิโอ/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Fox 2000 Pictures, Temple Hill Entertainment