หนังนักสืบก็นับว่ามีการสร้างกันมานับครั้งไม่ถ้วน หลายเรื่องจริงจัง หลายเรื่องก็เน้นตลกโปกฮา ทว่าเรื่องนี้ มีทั้งน่ารัก ทั้งยังได้ร่วมสืบคดีไปด้วยพร้อมๆ กัน ‘POKÉMON Detective Pikachu’ หรือชื่อไทย ‘โปเกมอน ยอดนักสืบพิคาชู’ หนังที่สร้างขึ้นมาการ์ตูนญี่ปุ่นชื่อดัง ทั้งยังเป็นเกมชื่อดังอีกด้วยนะ
อาจจะไม่ใช่เป็นแฟนของการ์ตูนเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่กับเกมบนมือถือก็เคยมีชีวิตช่วงหนึ่งที่บ้าเล่นเกมเอาเป็นเอาตายเหมือนกันนะ และเมื่อมันกลายมาเป็นหนัง แถมยังตัวอย่างก็ดูน่ารักดี วันนี้ก็เลยต้องขอไปดูมาเล่าสู่กันอ่านสักหน่อย
เรื่องย่อหนัง ‘POKÉMON Detective Pikachu’
เหตุเกิดขึ้นในโลกมนุษย์ที่มีเหล่าโปเกมอนอาศัยอยู่มากมายหลายชนิดร่วมกับมวลมนุษย์ ทว่า ส่วนใหญ่มันจะอยู่แต่ในป่า แต่ก็มีเพียงที่เดียวนี้ที่เหล่าโปเกมอนทั้งหลายสามารถจะอาศัยอยู่ร่วมได้อย่างกลมกลืนกับมนุษย์ นั่นคือที่เมืองใหญ่ชื่อ ไรม์ซิตี้
ซึ่งผู้ที่สร้างเมืองนี้ขึ้นมาก็คือ ฮาเวิร์ด คลิฟฟอร์ด (Bill Nighy จากหนังเรื่อง ‘Jack the Giant Slayer’, ‘About Time’ และ ‘Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 1’)
ทิม กู๊ดแมน (Justice Smith จากภาพยนตร์เรื่อง ‘Jurassic World: Fallen Kingdom’ และ ‘Paper Towns’) เด็กหนุ่มคนหนึ่งที่ยังไม่เคยมีโปเกมอนคู่หูแม้สักตัว ได้รับข่าวอุบัติเหตุของพ่อจึงเร่งรุดมายังไรม์ซิตี้ และพบเจอเข้ากับโปเกมอนตัวสีเหลืองนาม พิคาชู (Ryan Reynolds จากหนังหลายเรื่องเช่น ‘Deadpool 2’, ‘Criminal’ และ ‘Self/less’) หรือปิกาจู ที่คนไทยเรียกปากกันนั่นแหละ
มันคือโปเกมอนจอมสืบเก่งแต่วันนี้มันสูญเสียความทรงจำไปสิ้น
สิ่งที่มันจะทำร่วมกับทิมก็คือการสืบหายการหายไปของแฮร์รี่ พ่อของทิมเป็นตำรวจนักสืบมือดี เขากับเจ้าพิคาชูเลยต้องไปที่ สน. เจอกับโยชิดะ (Ken Watanabe จากหนังเรื่อง ‘Inception’) สืบไปสืบมาก็ได้เจอนักข่าวฝึกหัดหน้าอ่อนใสอย่าง ลูซี่ (Kathryn Newton จากภาพยนตร์เรื่อง ‘Lady Bird’ และเคยมีผลงานจากซีรีส์ ‘Supernatural‘)
ทั้งหมดที่เหลือ อยู่ในหนังเรื่องนี้ครับท่าน
รีวิวหนัง ‘POKÉMON Detective Pikachu’
ด้วยความที่หนังสร้างด้วยเค้าโครงและตัวละครที่มาจากการ์ตูน หนังเรื่องนี้จึงมิได้มุ่งเน้นให้เป็นหนังนักสืบเต็มขั้น ทว่า ใส่ใจจะให้มันเป็นหนังนักสืบที่แทรกใส่ความน่ารักน่าหยิกของคาแรกเตอร์โปเกมอนสายพันธุ์ต่างๆ เอาไว้ด้วย
เรียกได้ว่า หากคุณเป็นแฟนโปเกมอนอยู่แล้ว จะได้เจอพวกมันจนเต็มจอและฟินไปตามๆ กัน
หนังให้เวลาพอสมควรในช่วงแรกเพื่อทำความรู้จักกับตัวทิม กว่าจะได้รู้ว่าพ่อที่ตนนั้นห่างเหินได้จากไปและได้เจ้าพิคาชูมาช่วยตามสืบ นั่นแหละ หลังจากนั้น เรื่องก็ค่อยดำเนินไปข้างหน้ามากขึ้น สลับการเดินช้าๆ หยุดพักเพื่อให้เวลากับความตลกขบขันกับโปเกมอนบางตัวบ้าง
นี่ไม่ใช่หนังผู้ใหญ่
หากแต่หนังใช้ความเป็นเด็กทำให้ใส่ความแฟนตาซีเข้าไปในเรื่องราว สร้างสรรค์จินตนาการที่มาพร้อมกับเหตุที่พลิกกลับได้แม้จะไม่ใช่สิ่งใหม่การในเล่า แต่ผู้ชมอาจจะไม่ได้ทันสนใจมันนักเพราะกำลังตื่นตากับภาพและโปเกม่อนตัวต่างๆ อยู่
สิ่งที่เห็นคือ พิคาชูมีบทที่ต้องพูดรัวมาก ซึ่งตรงนี้ Ryan Reynolds เขาทำได้ดี ภาระหนักอาจมาตกที่คนดูนิดหน่อยที่ต้องฟังและคิดตามให้ทัน มีบางช่วงเหมือนกันที่หนังเดินเรื่องเร็ว ช่วงนี้ คนดูต้องใช้สมาธิและสมองเพื่อตามเรื่องให้ทัน แต่มันก็คงไม่ได้ยากอะไรหรอกเนอะ
ถ้าดูหนังแนวนี้มาบ่อยๆ และเนี่ย
หนังน่ารักด้วยคาแรกเตอร์ของโปเกมอนตัวต่างๆ ไม่พอ หนังยังเลือกเอานักแสดงนำสาวหน้าใสมองยังไงก็น่ารักเข้ามาเสริมทีมอีก Kathryn Newton เพราะทุกครั้งที่เธอโผล่หน้ามา โลกก็สดใสสว่างขึ้นทันตาเช่นกัน
งานซีจีก็เป็นอีกส่วนที่หนังทำไว้ได้ดี ด้วยมาตรฐานงานด้านนี้ที่ฮอลลีวูดเขาสูงอยู่แล้ว จึงส่งเสริมให้หนังดูดีและดูสนุกแม้โดยรวมมันเทียบไม่ได้หรอกกับหนังนักสืบที่ชั้นเชิงโคตรสูงนั่น
อีกส่วนที่หากจะบอกว่าชอบได้เต็มปากก็คือ ดนตรีประกอบ เพราะมันฟังเพลินจริงๆ
ภาพยนตร์เรื่อง: POKÉMON Detective Pikachu / โปเกมอน ยอดนักสืบพิคาชู
ผู้กำกับภาพยนตร์: Rob Letterman
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Dan Hernandez, Benji Samit
นักแสดง: Ryan Reynolds, Justice Smith, Kathryn Newton, Bill Nighy, Ken Watanabe
เรท: MPAA/PG, ไทย/
ระยะเวลา: 104 นาที
แนว/ประเภท: Action, Adventure, Comedy, Family, Mystery, Sci-Fi
ปี: 2019
ประเทศ: สหรัฐอเมริกา
อัตราส่วนภาพ: 23.9 : 1
วันที่เข้าฉายในประเทศไทย: 9 พฤษภาคม 2562
ผู้ผลิต/ผู้สร้าง/ผู้จัดจำหน่าย: Legendary Entertainment, The Pokemon Company, Toho Company
โปเกมอน ยอดนักสืบพิคาชู
พล็อตและบท - 8
ความสนุก - 8
การแสดง - 7
ดนตรีประกอบ - 8
การดำเนินเรื่อง - 7
7.6
POKÉMON Detective Pikachu (2019)
ความสนุกในการชม Detective Pikachu นี่มันขึ้นอยู่กับคนจริงๆ นะ ถ้าคนที่ชอบคาแรกเตอร์น่ารักๆ หรือติดตามเป็นแฟนคลับอยู่แล้ว มันจะสนุกกับการได้เจอโปเกมอนแต่ละตัวในหนัง จึงสนุกกับเรื่องราวเพราะไม่คิดนำหน้าตัวเรื่องไป ส่วนคนกลุ่มอื่นก็อาจสนใจแต่เรื่อง จนบอกว่ามันเบๆ ก็พอเข้าใจได้อยู่นะครับ